เล่นมือถือขณะให้นม ลูก ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ … รักลูกห่วงลูก หยุดเถอะค่ะ
ยุคนี้สมัยนี้ มือถือ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่คนสมัยนี้ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะทำอะไร อยู่ที่ไหนก็ต้องก้มหน้าก้มตาเล่น … เล่นน่ะเล่นได้ แต่บางทีเล่นมากไปก็ไม่ดี ยิ่งเล่นตอนอยู่กับลูกด้วยแล้ว ยิ่งไม่ดีใหญ่เลยละค่ะ และด้วยความห่วงใย ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอพูดถึงเรืองนี้กันค่ะ
คลื่นมือถือ กับเด็กเล็ก ถือเป็นของที่ไม่ค่อยจะถูกกันเสียเท่าไร เพราะไม่ว่าจะคลื่นเล็กหรือคลื่นใหญ่ ก็ย่อมส่งผลกระทบกับสมองน้อย ๆ ของลูกด้วยกันทั้งสิ้น ลองนึกนะคะว่า ทุกครั้งที่เราใช้งาน มือถือจะส่งรังสีหรือคลื่นออกมาจากตัวเครื่อง ซึ่งรังสีที่ว่านี้คือ รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าค่ะ รังสีดังกล่าวส่งผลทำให้ดีเอ็นเอของเซลล์ เกิดการบาดเจ็บเสียหาย เซลล์จะบาดเจ็บมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีที่ได้รับ จัดเป็นรังสีประเภทเดียวกับคลื่นวิทยุ รังสีคลื่นความร้อน รังสีจากแสงแดด และเตาไมโครเวฟนั่นเอง และนอกจากมืิอถือจะส่งผลกระทบกับสมองของลูกน้อยแล้ว ยังมีอีก 4 เหตุผลที่คุณแม่ควรทราบด้วยเช่นกันค่ะ
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม … คลิก!
4 เหตุผลที่แม่ไม่ควร เล่นมือถือขณะให้นม
- การเล่นมือถือในขณะที่ให้นมลูกนั้น ทำให้คุณแม่สนใจลูกรักน้อยลง อย่าลืมนะคะว่า ลูกโตขึ้นทุกวัน อย่าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือเลยะค่ะ หันเอาเวลาที่มีค่านี้ มาดูหน้าคนที่เรารักกันดีกว่าค่ะ
- พลาดโอกาสการเสริมพัฒนาการให้กับลูก … การพูดคุยกับลูกขณะให้นมนั้น ส่งผลให้ลูกมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดีได้ไม่ยาก เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ลูกสงบ และมีความสุข ดังนั้น การที่คุณแม่ช่วยเสริมสร้างทักษะทางด้านภาษาให้กับลูก ก็ไปช่วยกระตุ้นด้านนี้ได้ค่ะ
- หากคุณแม่เอาแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ คุณแม่จะไม่สามารถรู้หรือสังเกตได้เลยว่า ในขณะที่ลูกน้อยดูดนมนั้น สามารถดูดในท่าที่ถูกต้องหรือไม่ สำลักนมหรือเปล่า หรือว่าอมเต้ามิดฐานหรือไม่ เป็นต้น
- เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า คลื่นมือถือนั้นส่งผลเสียกับลูกน้อยอย่างไร เพิ่มเติมตรงที่ว่า คลื่นรังสีมือถือที่ว่านี้ เด็กเล็ก ๆ สามารถดูดซึมได้ดียิ่งกว่าผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ค่ะ เนื่องจากเด็กยังมีสมองที่กำลังพัฒนา และมีกะโหลกศีรษะบางกว่าผู้ใหญ่ หากได้รับคลื่นจากโทรศัพท์มือถือตั้งแต่เด็ก ทำให้มีโอกาสได้รับคลื่นแม่เหล็กสะสมเป็นจำนวนมากกว่าผู้ใหญ่ และอาจมากพอจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
อ่านต่อ >> เรื่องราวเพิ่มเติม คลิก!
เครดิต: Nursingthebaby
ได้ผลการศึกษาวิจัยของ Dr.Om Ghandhi จากมหาวิทยาลัยยูทาห์ ในปี ปี 1996 ระบุเอาไว้ว่า คลื่นที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือนั้นจะทะลวงเข้าสู่เนื้อเยื่อสมองทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ และอาจทำให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม (DNA) และชั้นเซลล์ ซึ่งอาจเป็นเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
การดูดซับคลื่น ในตัวอย่างของคน 3 ช่วงอายุวัยนั้นคือ เด็กอายุ 5 ขวบ, เด็กอายุ 10 ขวบและผู้ใหญ่ พบว่า ปริมาณคลื่นมีผลกับเนื้อเยื่อสมองเด็กอายุ 5 ขวบมากที่สุด โดยเนื้อเยื่อสมองของเด็กจะดูดซึมรังสีมากกว่าผู้ใหญ่ถึงเกือบ 5 เท่า แล้วเด็กเล็ก ๆ อย่างทารกจะไปเหลืออะไรจริงไหมละคะ
Natural Health Strategies เว็บไซต์ด้านสุขภาพ ได้แนะนำข้อควรระวังในการใช้โทรศัพท์มือถือไว้ สามารถสรุปได้ดังนี้
- ห้ามเด็กใช้โทรศัพท์มือถือ หรือใช้ให้น้อยที่สุด
- สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือใช้ให้น้อยที่สุด
- จำกัดเวลาในการใช้โทรศัพท์มือถือให้น้อยที่สุด
- ควรวางโทรศัพท์มือถือให้ไกลศีรษะที่สุดอย่างน้อย 2 เซนติเมตรและมากที่สุดคือ 5 นิ้ว ในระหว่างกานสนทนา
- อย่าวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ศีรษะตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานอนหลับ
- อย่าเหน็บโทรศัพท์มือถือไว้ที่เอว เพราะเอวมีอวัยวะสำคัญ ๆ ที่ผลิตเม็ดเลือดแดงมากกว่า 80% ของทั้งร่างกาย เป็นต้น
ขอบคุณที่มา: MThai
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- หมอชี้! เด็ก 4 ขวบเก่งอังกฤษเพราะมือถือไม่ใช่เรื่องดี เสี่ยงออทิสติกเทียม
- หมอเผย! แก้ปัญหา “ลูกติดมือถือ” ผิดวิธี! ส่งผลเสียต่อพัฒนาการ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่