AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ลูกไม่อยากไปโรงเรียน คุณแม่จึงจัดหลักสูตรเร่งรัดแบบนี้ให้…? แป๊บเดียวเห็นผล!

เมื่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเรียนหนังสือเลยบอกลูกว่า “ไม่เป็นไร” ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน พ่อแม่หาเงินส่งลูกเรียน แต่ลูกเลือกที่จะไม่เรียน ลูกก็ต้องออกมาใช้ชีวิตแบบคนอื่น และนี่คือการสอนในแบบของพ่อกับแม่…

เมื่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน คุณแม่จึงจัดหลักสูตรเร่งรัดให้แบบนี้…!?

ในโลกโซเชี่ยลต่างพากดไลค์กดแชร์กันกระจายกับวิธีการสอนลูกในหลักสูตรเร่งรัด เพื่อให้บทเรียนสำหรับเด็กที่ไม่ยอมไปโรงเรียน ของคุณแม่ท่านนี้ โดยคุณแม่ได้โพสต์ภาพพ่อกับลูกสาว ภาพเฟซบุ๊กชื่อ Hathairat Neramittanakul ซึ่งเป็นภาพที่ตั้งใจจะให้ลูกสาววัย 6 ขวบ ได้เรียนรู้ว่า ถ้าไม่ไปเรียนหนังสือ สิ่งที่ลูกสาวจะต้องเจอชีวิตคืออะไร โดยคุณแม่จึงให้ลูกสาวไปเดินขายกล้วยทอดกลางสี่แยกในเมืองพิษณุโลก

บทเรียนที่ 1
“หนูไม่อยากไปโรงเรียน”
เมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเรียนหนังสือเลยบอกลูกว่า “ไม่เป็นไร” ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน พ่อแม่หาเงินส่งลูกเรียน แต่ลูกเลือกที่จะไม่เรียน ลูกก็ต้องออกมาใช้ชีวิตแบบคนอื่น
นี่คือการสอนในแบบของพ่อกับแม่
เดินขายของสี่แยก (พ่อเดินประกบ) ในเมื่อบทเรียนในโรงเรียนทำให้ลูกเบื่อหน่าย เพราะฉะนั้นลูกก็ต้องเจอบทเรียนชีวิตจริง

หลังจากเดิน 2 รอบ พิตต้าขายได้ 4 ถุง บ่นร้อนแล้ว (เข้าทาง) เลยยื่นเงินค่าจ้างให้ 10฿ แล้วถามนางว่าเงินนี้จะเอาไปทำอะไร นางส่ายหัว เพราะใช้หยอดไข่ในห้างยังไม่ได้เลย
เลยได้สอนเรื่องการใช้เงินไปด้วยในตัว ว่าเงินใช้ง่าย แต่หายากแค่ไหน

การข้ามกระโดดสิ่งดีดีตามวัยอาจจะทำให้ลูกเสียใจได้ในอนาคต การให้เค้าได้รู้จักชีวิตจริงได้เร็ว เข้าใจชีวิตได้ไว บางครั้งก็ดีกว่ามานั่งถามว่า “ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียน” เพราะคำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิม คือ เบื่อ ขี้เกียจ ไม่อยากเรียน

พอลูกได้เรียนรู้จากชีวิตจริง มันก็ทำให้ลูกได้รู้เลยว่า การได้เป็นเด็ก ได้เรียนหนังสือ ได้เจอเพื่อนแกล้งบ้าง ได้โดนครูดุ มันง่ายกว่าเป็นผู้ใหญ่เย๊อะะะ♥

ชมภาพ พร้อมคลิปสัมภาษณ์ >> “หนูน้อยที่อยากไปโรงเรียน หลังเจอบทเรียนจากคุณแม่” คลิกหน้า 2


ขอบคุณภาพและเรื่องราวจากคุณแม่ Hathairat Neramittanakul

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

บทเรียนที่ 1"หนูไม่อยากไปโรงเรียน"เมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเรียนหนังสือเลยบอกลูกว่า "ไม่เป็นไร" ไม่อยากเรียนก็…

โพสต์โดย Hathairat Neramittanakul บน 3 มิถุนายน 2017

ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

น้องพิตต้า สาวน้อยวัย 6 ขวบ ไม่อยากไปโรงเรียน คุณแม่จึงจัดการด้วยวิธีให้ทดลองเดินขายกล้วยทอดกลางสี่แยกบ้านคลอง โดยมีคุณพ่อและคุณแม่คอยดูแลการทดลองขายกล้วยแขกอย่างใกล้ชิด ได้ค่าจ้าง 10 บาท แล้วก็ได้ผลเมื่อลูกยอมแพ้ เดินขายแค่ 2 รอบ ก่อนกลับไปตั้งใจเรียนตามวัย พร้อมบอกไปโรงเรียนง่ายกว่าเยอะ เพราะไม่ต้องเหนื่อย ต้องร้อน

 

นับว่าเป็นวิธีการฝึกสอนที่สุดยอดมากเลยใช่ไหมคะ คุณพ่อคุณแม่จะลองนำไปใช้ดูก็ได้นะคะ หรือใครมีวิธีการจัดการกับเหตุการณ์ เมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน ก็นำมาแชร์ในคอมเม้นท์เฟซบุ๊กกันได้นะคะ

⇒ Must read : ชาวเน็ตยกนิ้วให้! สุดยอดคุณพ่อ ฝึกลูกน้อยที่ไม่อยากไปโรงเรียน จนกลับใจเลิกงอแงได้

ทั้งนี้หลังจากผ่านชั้นอนุบาลเข้าสู่วัยประถม ลูกน้อยในวัยนี้ (5-6 ขวบ) ของคุณแม่อาจมีอาการหงุดหงิด บ่นอุบอิบ ไม่เอา ไม่ไปโรงเรียน… ไม่เอา หนูไม่ไป กันอยู่บ้าง นั่นอาจเป็นเพราะช่วงเปิดเทอมใหม่เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ ต้องปรับตัว หลังการปิดเทอมใหญ่ที่หยุดยาวติดต่อกันมาหลายเดือน

สาเหตุที่พบได้บ่อยๆในเด็กไม่ยอมไปโรงเรียนคืออะไร?

ทั้งนี้การที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนคุณพ่อคุณแม่ควรหาสาเหตุที่เกี่ยวข้องว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียนโดยเฉพาะในกรณีที่เด็กเคยไปโรงเรียนได้แล้ววันหนึ่งเกิดไม่อยากไป ซึ่งมีได้ตั้งแต่

1. ลูกมีความตึงเครียดอะไรที่โรงเรียนที่ทำให้เด็กต้องหลีกหนีหรือเปล่า เช่นถูกเพื่อนแกล้ง ครูดุแล้วเด็กกลัวมาก ห้องน้ำสกปรกโดนบังคับให้กินอาหารที่ไม่ชอบ

⇒ Must read : ควรรู้! 20 เรื่องสำคัญ ที่พ่อแม่ต้องบอกครู และคุณครูอยากบอกกับพ่อแม่

2. ปัจจัยทางบ้าน เช่นมีน้องใหม่ที่บ้าน เด็กมีความกังวลเรื่องพ่อแม่ทะเลาะกันการขาดการดูแลเอาใจใส่ ว่าการเรียนเป็นเรื่องสำคัญทำให้เด็กอยากสบายอยู่บ้านเล่นเกมส์ หรือเน้นมากเกินไปว่าต้องเรียนให้ได้คะแนนดี ทำให้เด็กทั้งที่เรียนไม่ดีอยู่แล้วหรือเคยเรียนดีมาตลอด แต่เกิดความไม่มั่นใจว่าอาจทำสอบได้ไม่ดีเท่าเดิมในการสอบครั้งนี้จึงไม่อยากไปเพราะกลัวว่าจะล้มเหลว ซึ่งมักแสดงอาการช่วงใกล้สอบ เป็นต้น

3.นอกจากนี้ อาจเป็นจากโรคทางจิตเวช ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาทางด้านอารมณ์เป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลทำให้เด็กแยกจากพ่อแม่ได้ลำบาก

⇒ Must read : รวม 11 โรค กับวิธีสังเกต ลูกมีปัญหาสุขภาพจิต

อ่านต่อ >> คัมภีร์แนะนำวิธีรับมือ เมื่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

และถึงแม้ว่าเด็กส่วนใหญ่จะรู้สึกเฉยๆ หรืออยากไปโรงเรียน แต่ก็มีเด็กบางส่วนที่งอแงไม่อยากไปโรงเรียน ถึงขั้นต้องลากเข้าประตูโรงเรียนกันเลยก็มี ….และนี่คือคัมภีร์แนะนำวิธีรับมือที่คุณแม่ควรรู้ นอกเหนือจากวิธีที่ให้บทเรียนชีวิตจริงไปจากที่ Amarin Baby & Kids นำมาให้ดูข้างต้นค่ะ

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม หากค้นพบว่าปัญหาการเรียนของลูกคือสิ่งใดและสามารถให้การช่วยเหลือแก้ไขแต่เนิ่นๆ สิ่งเหล่านั้นก็จะดีขึ้นทำให้เด็กสามารถปรับตัวดีขึ้น มีความสุขกับการไปโรงเรียน

ซึ่งสิ่งสำคัญ คือคุณพ่อคุณแม่ ควรมีความเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาการตามวัย ซึ่งธรรมชาติของเด็กแต่ละช่วงวัยมีอารมณ์และความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างเด็กเล็ก ๆ ที่จะซึมซับบทบาทของพ่อแม่ เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่คุณพ่อคุณแม่มักมีความกังวลถึงการร้องไห้งอแง ไม่อยากไปโรงเรียนซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยนี้มีความกังวลกับการที่ต้องห่างจากพ่อแม่ แต่เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งก็จะเรียนรู้ปรับตัวปรับใจ

แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ได้พยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองให้รางวัล ใจแข็ง แล้วยังไม่ได้ผล แนะนำให้มาพบจิตแพทย์ เพราะเรื่องนี้จัดเป็นภาวะฉุกเฉินทางจิตเวชเด็กภาวะหนึ่ง เพราะการไม่ได้ไปโรงเรียนนาน ๆ จะมีผลเสียทำให้ยิ่งปรับตัวยากก่อให้เกิดปัญหาต่อทั้งตัวเด็กเองและครอบครัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

จิตแพทย์จะช่วยได้อย่างไร?

การดูแลแก้ไขปัญหานี้ต้องทำด้วยความรวดเร็ว ต้องมีการประเมินในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นการตรวจร่างกายอย่างละเอียดในกรณีที่เด็กบอกว่ามีอาการทางกายว่าป่วยเรื่องใดหรือไม่อย่างใด ต้องประเมินสภาพจิตใจและระดับสติปัญญาของเด็ก ประเมินสภาพจิตใจของทั้งครอบครัวความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่หรือพี่น้อง รวมทั้งประเมินสภาพทางโรงเรียนในเรื่องความประพฤติ ความสัมพันธ์กับเพื่อนและครู มีการประสานงานหลายฝ่ายนอกเหนือจากจิตแพทย์

อาจจะต้องให้นักสังคมสงเคราะห์ดูแลในเวลาที่จะนำเด็กกลับไปที่โรงเรียนเป็นคนประสานงานระหว่างที่โรงเรียนและที่บ้านติดต่อหาความร่วมมือกับทางโรงเรียนเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเด็กไปถึงโรงเรียนแล้ว ควรมีผู้ดูแลจัดการอย่างเหมาะสมให้เด็กอยู่โรงเรียนได้ต่อ

ส่วนการให้รางวัลนั้นทำได้เมื่อลูกยอมไปโรงเรียนบ้างแล้วเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมทางบวกของเด็ก แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้เงินทองสิ่งของ ของเล่น พยายามให้เป็นคำชม หรือคะแนน เช่น เป็นดาว แต้มสติ๊กเกอร์ สะสมแล้วค่อยไปแลกของรางวัลทีหลัง เพราะการให้ของทันทีจะทำให้ลูกเรียนรู้ที่จะต่อรองและคุมได้ยากขึ้นนั่นเองค่ะ

อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!