AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

มาทำความรู้จัก โฮมสคูล ทางเลือกสอนลูกของพ่อแม่ยุคใหม่กันเถอะ

โฮมสคูล

“โฮมสคูล” หรือเรียกอีกชื่อกันว่า “บ้านเรียน” เป็นระบบการศึกษาอีกทางเลือกหนึ่งที่พ่อแม่หลายในคนยุคนี้ได้ให้ความสนใจ มาทำความรู้จักแนวการสอนแบบ โฮมสคูล และขั้นตอนการทำโฮมสคูล ที่พ่อแม่อยากรู้กันค่ะ

ทำความรู้จัก โฮมสคูล ทางเลือกของพ่อแม่ยุคใหม่

ในปัจจุบันการสอนลูกในแบบ “โฮมสคูล” ได้รับความนิยมมากขึ้น พ่อแม่ยุคใหม่ได้มองเห็นการจัดการรูปแบบการเรียนให้กับลูกด้วยตัวเอง หรือที่เรียกว่าอีกชื่อว่า “บ้านเรียน” คือการให้เด็กเป็นศูนย์กลางเรียนรู้อย่างแท้จริง ตอบโจทย์ที่ว่า “ลูกต้องการอะไรและเหมาะสมกับความคิดหรือไม่” โดยไม่พึ่งพาระบบการเรียนการสอนกระแสหลัก

การเรียนการสอนแบบ Home School คือการจัดการศึกษาทางเลือก ที่พ่อแม่ได้วางแผนเนื้อหาขึ้นเพื่อที่จะสอนลูก ๆ ตามแนวคิดของตัวเอง ซึ่งได้มีการรับรองให้เปิดสอนในไทยได้อย่างถูกกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และยังให้สิทธิ์ที่จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ สำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานอีกด้วย รวมถึงมีการเทียบโอนผลการศึกษาได้ การศึกษาในระบบโฮมสคูลนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งนี้พ่อแม่จะต้องมีเวลาและมีส่วนร่วมในการเรียนกับเด็กเป็นสำคัญ

การเรียนการสอนแบบโฮมสคูลนั้น สามารถจัดรูปแบบการศึกษาได้เองอย่างเสรี  โดยเน้นตามความสนใจของเด็กเป็นสำคัญ เลือกรายวิชาหรือความถนัดที่ลูกชอบ โดยทำให้บ้านกลายเป็นบ้านเรียน มีคุณพ่อคุณแม่เป็นเสมือนครู ที่คอยส่งเสริมสนับสนุน และสร้างบรรยากาศให้เกิดการเรียนรู้ และร่วมเรียนรู้ไปกับลูก หรือกำกับดูแลกิจกรรมที่จัดขึ้นให้กลายเป็น “บ้านเรียนและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ” ของลูก ทั้งยังสามารถพาลูกออกไปทำกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์นอกบ้าน เป็นการเรียนที่เด็กจะได้เรียนรู้จริง เห็นถึงวิถีชีวิต ประสบการณ์ เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่ไม่จำเป็นว่าต้องอยู่แค่ในบ้านเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้อาจไปเรียนกับบุคคลหรือครูที่มีความชำนาญ มีความรู้ เรียนรู้วิถีชีวิต การใช้ชีวิต จนไปถึงความสนใจเฉพาะและลงลึกไปในเรื่องต่าง ๆ ที่ลูกสนใจ เช่น ถ้าเด็กชอบงานด้านศิลปะ วาดรูป ก็สนับสนุนให้ลูกได้วาดภาพ ได้ใช้จินตนาการของตัวเอง และขยายความรู้เพิ่มเติมไปตามแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะ เช่น หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ ได้พบปะกับศิลปินที่มีประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หรือถ้าลูกเริ่มมีความสนใจอะไร พ่อแม่ก็เปิดโอกาสให้ได้ทดลองทำ คอยหาข้อมูลให้ เพื่อให้เกิดการต่อยอดไปสู่ความรู้เรื่องใหม่ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ

Home School เริ่มยังไง สิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมตัวและมีความพร้อมดังต่อไปนี้

1.คุณพ่อคุณแม่มีเป้าหมายชัดเจนในการจัดการเรียนการสอนให้ลูกแบบ Home School และเตรียมความพร้อมโดยหาข้อมูลความรู้ให้สอดคล้องกับระดับพัฒนาการ และความสนใจพิเศษของลูก

2.สำรวจความพร้อมของตัวคุณพ่อคุณแม่เองว่า พร้อมที่จะให้เวลาคุณภาพและมีส่วนร่วมไปในการเรียนรู้กับลูกอย่างเต็มที่ มีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ครูของลูก ในการอบรมบ่มนิสัยลูก สอดแทรกผ่านกิจกรรมการเรียนรู้หรือการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น งานบ้าน ฝึกให้ลูกรู้จักหน้าที่ของตัวเองตามวัย รู้จักรับผิดชอบต่อตัวเองและต่อส่วนร่วมในบ้าน รวมถึงความพร้อมที่จะศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล แหล่งเรียนรู้ ทั้งสถานที่และบุคคลอื่น ๆ ที่มีความชำนาญ มีความรู้ มาสนับสนุนการเรียนของลูกตลอดเวลาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง เพื่อให้เด็กได้พัฒนาตัวเองทุกแง่มุมทั้งวิชาการ ทักษะชีวิต มีความมั่นคงทางความคิด ทางอารมณ์ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมปรับตัวเข้าสังคมได้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของลูกต่อการใช้ชีวิตในอนาคต

3.เมื่อคิดจะทำโฮมสคูล คุณพ่อคุณแม่ต้องเขียนแผนการจัดการเรียนการสอน เพื่อยื่นแผนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามที่อาศัยอยู่อนุมัติ สามารถเลือกจัดได้ว่าเป็นแบบกลุ่มประสบการณ์ชีวิต หรือแบบผสมผสานบูรณาการและวิชาการ โดยครอบครัวยื่นแผนกับสำนักงานเขตตามวิถีชีวิตครอบครัว และการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นหลัก พร้อมขอยื่นจดทะเบียนการศึกษาบ้านเรียน เมื่อเขตอนุมัติ ใน 1 ปีจะต้องสรุปการเรียนรู้ตามแผนที่เสนอไป

อ่านต่อ วิธีการจัดทำโฮมสคูลให้ลูกและการยื่นจดทะเบียนบ้านเรียน คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

4.จัดสภาพแวดล้อมของบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้ จัดหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมนอกบ้านเพื่อให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กคนอื่น ๆ เพื่อให้เกิดทักษะทางสังคม เช่น ภาคีเครือข่ายบ้านเรียน เครือข่ายบ้านเรียน เป็นต้น

5.เข้าใจพัฒนาการตามวัยของลูก เพื่อจัดการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสมตามช่วงวัย เช่น ในวัยแรกเกิดถึงวัยอนุบาลเป็นช่วงเวลาของการสร้างเสริมพัฒนาการทุก ๆ ด้าน ปูรากฐานที่ถูกต้องและมั่นคงเพื่อต่อยอดการเรียนรู้ในช่วงวัยที่โตขึ้น ในวัยประถมเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้พื้นฐาน ทุกวิชา และพัฒนาจริยธรรม และช่วงมัธยมศึกษาเป็นช่วงเวลาแห่งการสำรวจ ค้นหาความสนใจ และความถนัด เป็นต้น

6.ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่หรือคนใดคนหนึ่งที่ดูแลการสอนแบบโฮมสคูลให้ลูก รวมถึงตัวเด็กเองจะต้องรักษาวินัย และตั้งใจจริงกับการเรียนแนวนี้ เนื่องจากเป็นการเรียนการสอนที่ไม่มีการสอบวัดผล ไม่มีผลสอบ แต่ทางสำนักงานเขตการศึกษาที่ครอบครัวได้ยื่นจดทะเบียนเพื่อจัดการศึกษาบ้านเรียน จะให้คุณพ่อคุณแม่เขียนหลักสูตรที่จะสอนลูกว่าจะสอนอย่างไรบ้าง มีการให้คะแนนอย่างไร ประเมินลูกอย่างไร และทางเขตเองก็จะมีการแนะนำสำหรับการจัดการเรียนการสอนของผู้ปกครองให้อย่างเหมาะสมด้วย

7.ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะตรวจสอบปีละ 1 ครั้ง ว่ามีพัฒนาการตรงตามที่ครอบครัวประเมินไว้หรือไม่ และกำหนดความสามารถของเด็กว่าเทียบได้ในระดับชั้นใด หากลูกมีความบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น อ่อนคณิตศาสตร์ ทางเขตฯ ก็จะให้ระยะเวลาซ่อมเสริม เพื่อประเมินใหม่อีกครั้ง

8.หากครอบครัวใดมีความพร้อมลดลง ไม่สามารถทำโฮมสคูลให้ลูกได้ต่อ ก็สามารถนำลูกเข้าเรียนในโรงเรียนได้ตามปกติ ตามระดับชั้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้เทียบไว้

การยื่นจดทะเบียนเพื่อจัดการศึกษาบ้านเรียนระดับประถม มีหลายรูปแบบ เช่น

คุณพ่อคุณแม่สามารถทำแผนการเรียนการสอนและยื่นจดทะเบียนกับเขตการศึกษาได้ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับ ม.ปลาย โดยอนุบาล 1 สามารถจดได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบบริบูรณ์ และตามการศึกษาภาคบังคับสามารถจดได้ตั้งแต่อายุครบ 7 ปี หรือระดับ ป.1 สามารถยื่นจดได้ตลอดปี ใน 1 ปี ครอบครัวจะทำรายงานการประเมินการเรียนรู้ส่งสำนักงานเขต พร้อมร่องรอยการเรียนรู้ (รวมภาพถ่ายหรือคลิปผลงานของลูกที่ไปทำร่วมกับกลุ่มเพื่อน หรือไปท่องเที่ยวกับครอบครัว หรือชิ้นงานสิ่งประดิษฐ์สร้างสรรค์ต่าง ๆ การเรียน อ่าน เขียน) เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตการศึกษาจะออกใบ ปพ. หรือ เอกสารการประเมินผลตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ศักดิ์และสิทธิเทียบเท่ากับนักเรียนในระบบทุกประการ

ทั้งนี้เมื่อจดทะเบียนการศึกษา ทางเขตการศึกษาก็จะเข้ามาช่วยดูแลในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสื่อการเรียนการสอน, กิจกรรมในสังกัดเขตฯ, ข้อมูลการสอบแข่งขัน, การเรียน รด. รวมไปถึงการได้รับเงินอุดหนุนการศึกษาจากภาครัฐและได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีเหมือนโรงเรียนในระบบเช่นกัน

ปัจจุบันมีหลายโรงเรียนที่เปิดรับนักเรียนโฮมสคูลเข้ามาจดชื่อกับทางโรงเรียนเพื่อเทียบประเมินการเลื่อนชั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถไปติดต่อกับโรงเรียนใกล้บ้าน เพื่อคุยรายละเอียดและมีค่าใช้จ่ายตามแต่นโยบายของโรงเรียนนั้น ๆ

จะเห็นได้ว่าหัวใจสำคัญในการเลือกจัดการศึกษาแบบ Home School ให้ลูกนั้น คือ ความต้องการใกล้ชิดและเอาใจใส่ของพ่อแม่ แน่นอนว่าสิ่งที่ลูกจะได้รับไปนอกจากการเรียนในแบบของตัวเองที่มีความสุข เด็กบ้านเรียนนั้นจะมีความรู้สึกผูกพัน อบอุ่น มีสายสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่ดี พ่อแม่ที่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลูกจะรู้ว่าลูกชอบอะไร มีความสุขกับอะไร และพร้อมจัดการวางแนวทางที่เหมาะสมในอนาคตให้กับลูกได้ดี ที่สำคัญเมื่อพ่อแม่เข้าใจในตัวลูกถือว่าเป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีในชีวิตของลูกอีกด้วย หากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนอนาคตการศึกษาของเจ้าตัวน้อยและอยากเลี้ยงลูกแบบโฮมสคูล ก่อนที่จะตัดสินใจหรืออยากศึกษาหาข้อมูลระบบนี้มีเพจบ้านเรียนต่าง ๆ พร้อมให้คำแนะนำ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์โดยตรงได้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก :

www.dek-d.com,

www.ducatoys.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

โรงเรียนทางเลือก เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเจ้าตัวน้อย

10 ข้อที่จะทำให้แม่ๆ รู้จักโรงเรียนแนว วอลดอร์ฟ มากขึ้น

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

Summary
Review Date
Reviewed Item
โฮมสคูล
Author Rating
5