สำหรับบทความนี้ แม่น้องเล็กขอหยิบยกเนื้อหาน่าอ่านจากในนิตยสาร Amarin Baby & Kids ฉบับคู่มือระวังภัยฯ มาฝากให้กับคุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งเขียนโดย คุณพศิน อินทรวงค์ เกี่ยวกับวิถีชีวิต การเลี้ยงลูกเชิงธรรมะ เป็นแนวทางให้คุณพ่อ คุณแม่ ที่มีลูกวัย 3 ขวบปีแรกของชีวิตค่ะ
การเลี้ยงลูกเชิงธรรมะ
1.อย่าบังคับให้เด็กๆ ไหว้ใครต่อใครตามใจของพ่อแม่ ท่านอาจคิดว่านั่นคือมารยาท คือกาลเทศะ แต่เด็กๆ จะถูกปลูกฝังให้เกิดความกลัว ประเพณีต่างๆ ทำให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกแบ่งแยก เด็กๆ จะเรียนรู้เรื่องชนชั้นวรรณะจากคำสั่งที่ท่านให้ไหว้ใครต่อใคร ทำไมเขาจึงต้องไหว้บางคน ทำไมบางคนเขาจึงไม่ต้องไหว้ การแบ่งแยกได้เกิดขึ้นแล้ว ความกลัวเล็กๆ ในใจเด็กๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว จึงอย่ารีบร้อนสั่งสอนเรื่องมารยาทเร็วเกินไป ท่านควรให้ความรักและความอบอุ่นแก่ลูกก่อน เมื่อเขาเป็นผู้ไม่ขาดความรัก ความนอบน้อมจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ
2.พ่อแม่มักพูดคำว่า “อย่าทำนั่น อย่าทำนี่” เมื่อลูกของท่านเดินไปที่บ่อน้ำ ท่านก็พูดว่า “อย่าเดินเข้าไปนะ” ท่านรู้หรือไม่ การทำเช่นนั้นบ่อยๆ คือการทำลายวิถีชีวิตของเขา เด็กๆ กำลังค้นหาบางสิ่งเพื่อลับจินตนาการของเขา แต่ท่านกลับห้าม ห้ามทุกอย่าง จนหนทางแห่งจินตนาการของเด็กไม่อาจบังเกิด ดินน้ำมัน พู่กัน และกระดาษ ไม่อาจทดแทนโลกทั้งใบได้ อย่าแทรกแซงวิถีที่เด็กๆ จะค้นหาความหมายของชีวิต แม้ท่านเกรงว่าลูกของท่านจะได้รับอันตรายจากบ่อน้ำ ก็จงป้องกัน จงหาสิ่งต่างๆ ไปปิดบ่อน้ำเสีย แต่อย่าห้าม หน้าที่ของท่านคือ ป้องกันและดูแลใกล้ชิด ไม่ใช่ห้ามทุกสิ่งทุกอย่าง
3.พ่อแม่ส่วนใหญ่ล้วนมีความขัดแย้งในตนเอง แทบทุกคนล้วนมีปัญหากับพ่อแม่ของตนเอง นั่นคือแผลของท่าน คือปมของท่าน ตราบใดที่ท่านยังไม่สามารถรักพ่อแม่ของท่านอย่างแท้จริง ไม่สามารถให้อภัยพ่อแม่ของท่านอย่างแท้จริง ความโกรธที่ฝังอยู่ภายในย่อมถ่ายทอดมาสู่ลูกของท่านอย่างแน่นอน
อ่านต่อ “อย่าทำลายหนทางแห่งความเป็นมนุษย์ของเด็ก” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
4.ความเคารพในตัวเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญ จงอย่าเห็นลูกเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิตที่ท่านจะจับใส่เสื้อผูกโบอย่างไรก็ได้ แต่ควรมองไปที่ดวงตาของลูก ให้เขาได้มีโอกาสเลือกสิ่งต่างๆ ในชีวิตเองตั้งแต่อายุยังน้อย ให้เขาเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ แม้จะดูไม่เข้ากันในสายตาท่าน แต่นั่นคือสิ่งที่เขาเลือก เพียงแค่ลูกใส่เสื้อผ้าไม่เข้ากันท่านยังไม่ยอม แล้วท่านจะยอมในสิ่งที่สำคัญกว่านี้ได้อย่างไร จงเลิกความคิดที่จะเอาลูกไปอวดใครต่อใคร ความคิดเช่นนั้นจะทำให้ลูกของท่านกลายเป็นหุ่นเชิดไร้วิญญาณ
5.จงเปลี่ยนมุมมองในการเปิดประสบการณ์ของลูกน้อยเสียใหม่ ท่านอาจคิดว่า สถานที่แปลกๆ คือสิ่งพิเศษที่สุด ท่านพาเด็กๆ ไปไกลแสนไกลตามกิเลสของท่าน โดยไม่รู้เลยว่า เด็กทุกคนมีมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเสกให้เรื่องธรรมดาๆ กลายเป็นสิ่งพิเศษที่สุด ใบไม้หนึ่งใบคือจักรวาลทั้งปวง เด็กทุกคนจะเชื่อมโยงสิ่งรอบตัวกับโลกใบนี้โดยไม่ต้องเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ และนั่นคือสิ่งที่ผู้ใหญ่หลงลืมไปแล้ว
6.จงซื้อของเล่นให้ลูกแต่พอสมควร แล้วแบ่งเงินจำนวนหนึ่งไปซื้อของเล่นให้เด็กคนอื่นด้วย ท่านต้องให้ลูกคนอื่น เหมือนที่ท่านให้ลูกของท่าน บทเรียนนี้ทำได้ยากนัก แต่ท่านต้องเรียนรู้เพื่อจะเข้าถึงความเสียสละอย่างแท้จริง เมื่อท่านรู้ซึ้งถึง บทเรียนอันมีค่านี้ ลูกของท่านก็จะได้รู้จัก การให้ผ่านประสบการณ์ของท่าน ลูกของท่านอาจมีของเล่นน้อยลง แต่เขาจะรู้จักมีน้ำใจอันยิ่งใหญ่ เป็นบุคคลที่หาได้ยากในโลก
อ่านต่อ “อย่าทำลายหนทางแห่งความเป็นมนุษย์ของเด็ก” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
7.ถ้าอยากให้ลูกของท่านเป็นคนดี ท่านต้องเลิกนิสัยขี้นินทาและวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นในทางเสียหาย ลูกของท่านกำลังฟังอยู่ แม้เขาพูดกับท่านไม่ได้ แต่เขากำลังฟังท่านอยู่ พ่อแม่มักคิดว่าเด็กๆ ไม่รู้เรื่อง แต่ที่จริงเขา รู้เรื่องยิ่งกว่าที่ท่านคิดมากมาย แม้อยู่ต่อหน้าเขา ท่านจงหยุดนินทา แม้อยู่ลับหลังเขา ท่านจงหยุดนินทา ท่านต้องเป็นคนดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง เมื่อท่านเป็นคนดีแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องสอนอะไรแก่เขาเลย เพียงท่านดำเนินชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ ก็คือคำสั่งสอนที่ดีที่สุด
8.สิ่งที่แย่ที่สุดคือ การโกหก เมื่อเด็กๆ ร้องไห้ ผู้ใหญ่หลายคนมักยื่นข้อเสนอหลอกๆ เพียงเพื่อให้เด็กๆ เงียบ โกหกว่าจะพาไปหาพ่อบ้าง จะพาไปเดินเล่นบ้าง โกหกว่าเดี๋ยวตำรวจมาบ้าง เดี๋ยวจะให้พ่อตีบ้าง เหล่านี้คือสิ่งที่ไม่ควรทำ แม้ท่านเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ท่านก็ไม่ควรทำ นั่นคือการไม่ให้เกียรติลูกของท่าน ยิ่งท่านโกหกด้วยเรื่องไร้สาระเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการไม่ให้เกียรติลูกของท่านเท่านั้น จงเห็นเขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง เลิกโกหก จงพูดแต่ความจริง มีวิธีที่ดีกว่าการโกหกมากมาย ที่ทำให้ลูกของท่านหยุดร้องไห้ได้
9.อย่าถามเลยว่า ลูกๆ ของท่านจะรักท่านไหม รักพ่อหรือเปล่า รักแม่หรือเปล่า คำถามเหล่านี้แสดงถึงความต้องการที่ท่านต้องการจากลูก ท่านไม่ควรกระหายความรักจากลูก สิ่งนี้จะพัฒนาไปสู่ความคาดหวังชนิดต่างๆ พ่อแม่จงเป็นต้นไม้ใหญ่ ผู้เป็นที่พึ่งของนกน้อย ต้นไม้ไม่เคยถามนกน้อยว่า นกรักมันบ้างไหม ต้นไม้เพียงดำรงอยู่ตรงนั้น เป็นที่พึ่งที่ไม่บีบคั้นกดดัน เป็นแหล่งอาหารที่ไม่ร้องขอสิ่งใด นกน้อยจึงร่มเย็น จึงรู้สึกปลอดภัย อย่าได้ต้องการสิ่งใดๆ แม้แต่ความรักจากลูก แล้วลูกของท่านจะได้เรียนรู้หนทางแห่งรักแท้ จากจิตใจที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
10.การเลี้ยงลูกไม่ใช่การเลี้ยงลูก แต่มันคือการเรียนรู้ของพ่อแม่ เพื่อจะกลับมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อีกครั้ง!!!
บทความโดย พศิน อินทรวงค์ นิตยสาร Amarin Baby & Kids ฉบับคู่มือระวังภัย โลกยุคใหม่อันตรายรอบด้าน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
Save