อยากให้คนเป็น พ่อ-แม่ หยุดอ่าน ลูกเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนใคร คำจำกัดความเล็กๆ ที่อาจสะท้านความในใจของลูกไปสู่คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คน
เพราะเด็กๆ เกิดมาต่างกัน ต่างครอบครัว ต่างการเลี้ยงดู เมื่อคุณแม่ทุกคนเลี้ยงดูลูกด้วยหัวใจอย่างเต็มกำลัง อย่านำเด็กมาเปรียบเทียบกันเลย เพราะแท้จริงแล้วความสุขของลูกและพ่อแม่ก็อยู่ที่ใจแค่นี้เอง
อยากให้คนเป็น พ่อ-แม่ หยุดอ่าน !
เพราะ คนเรา “ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน”
และเรื่องราวที่จะบอกต่อไปนี้ เรียกได้ว่าอาจเป็นความในใจของลูกๆหลายคนซึ่งถ้าเค้าคิดออกแล้วบอกได้ในขณะที่พ่อหรือแม่กำลังเอาตัวลูกไปเปรียบกับคนอื่น ก็คงพูออกมาแล้ว ซึ่งนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่แทนใจลูกหลายๆคนได้เป็นอย่างดี แต่เป็นการบอกผ่านคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งเลี้ยงลูกมาแล้ว ได้เข้าใจกับความรู้สึกของลูกเมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะความจริงแล้ว คนเรา “ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน” บทความจากใจที่ความอยากให้คนเป็น พ่อ-แม่ หยุดอ่านสัก 2 นาที เพื่อลูก!!!
อย่าได้ “พยายาม” ปั้นลูกเราให้เหมือนลูกใคร
อย่าได้ “ขีดเส้น” ให้ลูกเราเดินตามลูกใคร
อย่าได้ “ตั้งเป้า” ให้ลูกเรามีจุดหมายแบบใคร
อย่าได้ “บังคับ” ให้ลูกเราเป็นอย่างใคร
เด็กทุกคนมี “สิ่งวิเศษ” ติดตัวมาทุกคน
และ “สิ่งวิเศษ” เหล่านั้นก็ไม่ได้เหมือนกันทุกคน
เรามีหน้าทีเพียง เฝ้ามองและค้นหา “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกเราให้เจอ
และสนับสนุน ส่งเสริม “สิ่งวิเศษ” นั้น
อย่าพยายามกดลูกลงพิมพ์ ให้ออกมาเป็นบล็อคเดียวกัน
ลูกใครเรียนอันนี้แล้วดี ก็พยายามจะส่งลูกเราไปเรียนบ้าง
ลูกใครทำได้แบบนี้ ก็พยายามกระตุ้นให้ลูกเราทำได้แบบนั้นบ้าง
ลูกใครคิดแบบนั้น ก็พยายามจะบอกให้ลูกเราคิดแบบเดียวกับเขาบ้าง
แบบนั้นไม่ใช่การค้นหา “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกเรา
แต่เรากำลังพยายาม “ลบสิ่งวิเศษ” ที่ลูกเรามี
แล้วยัดอย่างอื่นที่ได้ดั่งใจเราเข้าไปแทนที่
อ่านต่อ >> บทความจากใจที่ความอยากให้คนเป็น พ่อ-แม่ หยุดอ่านสัก 2 นาที เพื่อลูก! คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ลูกเรา ไม่ต้องเหมือนลูกใครก็ได้
ลูกเรา ไม่ต้องเก่งเท่าลูกใครก็ได้
ลูกเรา ไม่ต้องคิดเหมือนลูกใครก็ได้
ลูกเรา ไม่ต้องมีเป้าหมายเดียวกับลูกใครก็ได้
หรือแม้แต่ ลูกเราไม่ต้อง “เหมือน” เรายังได้เลย
ขอแค่ให้เค้าเป็นในสิ่งที่เค้า “ตั้งใจจะเป็น”
และอยู่ในขอบเขตของความดีงาม
นั่นหละพอแล้ว ..
เพราะเราคือผู้ให้ชีวิต เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูก
เรามีหน้าที่ประคับประคอง
ไม่ใช่เอาเชือกผูกแล้วลากลูกให้เดิน
ชี้แนะ บอกทาง แต่ไม่ใช่ “สั่งให้เดิน”
เริ่มต้นเฝ้ามอง “สิ่งวิเศษ” ในตัวเด็กของเรากันดีกว่า
หยุดเฝ้ามอง “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกคนอื่น
แล้วพยายามจะนำสิ่งเหล่านั้นมาใส่ในตัวลูกเราให้หมดทุกอย่าง
เพื่อให้เหมือนลูกคนอื่นเป็น
เด็กสวยงามเสมอ .. ถ้าได้ยิ้มอย่างมีความสุข เชื่อไหมคะ ?
ขอบคุณบทความดีๆ จาก : แม่ยุ้ย www.theplatustory.com/gifted/
https://www.facebook.com/ThePlatuStory/
เพราะพ่อแม่มีหน้าที่ของ คือ คอยเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นมาด้วยความพร้อมทั้ง ร่างกายและจิตใจ รวมถึงหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว พร้อมอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ให้การศึกษาเล่าเรียนตามสมควร และให้ความอบอุ่นอย่างใกล้ชิด ช่วยแก้ปัญหา เป็นที่พึ่งให้ลูกได้ สุดท้ายคอยชี้แนะแนวทางให้ลูกรู้จักพึ่งตนเองได้
แต่บางครั้งบางทีคุณพ่อคุณแม่ก็อาจเผลอพูดคำแสลงใจลูกไปบ้าง โดยลืมคิดไปว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร เมื่อได้ยินคำพูดเปรียบเทียบเขากับเด็กคนอื่น แม้ว่าจะทำไปด้วยความปรารถนาดี แต่มาดูกันว่า คำพูด “ เปรียบเทียบลูก ” ส่งผลอะไรกับเด็กบ้าง?
ตัวอย่างคำเปรียบเทียบ ที่มักหลุดปากพูดกับเด็กๆ
“เรียนเก่งๆ ให้ได้อย่างพี่เขาสิ”
“ทำแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน.. ทำไมไม่ทำตัวน่ารักแบบน้องบ้าง”
“ลูกบ้านโน้นเก่งจัง เก่งกว่าลูกอีก
- การเปรียบเทียบ อาจมาพร้อมกับความรู้สึกปรารถนาดี อยากให้ลูกเห็นต้นแบบดีๆ บ้าง
- การเปรียบเทียบ อาจมาพร้อมกับความคาดหวังอยู่ลึกๆ ต่อลูกหลาน อยากให้มีพฤติกรรมดีๆ
- การเปรียบเทียบ อาจมาพร้อมกับความรู้สึกโกรธ โมโห เพราะลูกหลานไม่ได้ดั่งใจ
อ่านต่อ >> “สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แม้จะเป็นความหวังดีของพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ลึกๆ แต่ผลกระทบกับยิ่งใหญ่ยิ่งนัก..ต่อหัวใจเด็กๆ ซึ่งผลกระทบที่สำคัญ คือ เด็กจะรู้สึกแย่กับตนเองเพราะคำพูดของผู้ใหญ่ เปรียบเหมือนกระจกสะท้อน เมื่อเด็กได้รับฟังอยู่ทุกวัน เขาก็จะรู้สึกว่าตนเองเป็นเด็กไม่ดี ไม่มีความสามารถทำได้เหมือนคนอื่น ทำให้รู้สึกด้อยค่า มองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจในตนเอง นานวันเข้าจะไม่กล้าลงมือทำอะไร เพราะขาดความมั่นใจว่า ตนเองจะทำสำเร็จ
ในทางตรงข้าม เด็กอาจจะรู้สึกโกรธ อิจฉา หรือแสดงพฤติกรรมต่อต้านรุนแรง ก้าวร้าวตอบโต้กลับไป มีน้อยมากที่อาจจะฮึดสู้กับคำพูดเปรียบเทียบของผู้ใหญ่ และกลายเป็นแรงผลักดันให้ทำสิ่งดีๆ เพราะส่วนใหญ่เด็กๆ มักจะทำในทางตรงข้าม คือทำสิ่งที่ไม่ดีตรงกันข้ามกับที่ผู้ใหญ่บอกให้ทำ เพื่อให้เกิดความรู้สึกสะใจที่พ่อแม่มักเปรียบเทียบกับตนเองกับผู้อื่น
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรมองเห็นในตัวเด็ก คือ ศักยภาพและความสามารถซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น
√ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ
- เลิกเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง หรือเด็กคนอื่น
- ค้นหาศักยภาพในตัวลูกแต่ละคน และเปิดโอกาสให้ศักยภาพเหล่านั้นแสดงออกอย่างเต็มที่ เช่น ลูกคนสุดท้องชอบทำอาหาร แต่ลูกคนโตชอบการทดลองวิทยาศาสตร์
- ให้กำลังใจในสิ่งที่เด็กพยายามทำ “แม่ภูมิใจมากเลยที่ลูกพยายามทำการบ้าน แม้มันจะยากอยู่บ้างนะ..แต่ลูกก็ยังไม่ท้อถอย” เด็กจะมีกำลังใจดีขึ้นและเห็นคุณค่าในตนเองสูง มีความเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ เชื่อฟัง มีความพยายามทำสิ่งใหม่ๆ และมีความรับผิดชอบ
- ชื่นชมในสิ่งที่เด็กเป็น แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เด็กทำได้ แต่พ่อแม่สามารถหยิบบางสิ่งเหล่านั้นมาพูดได้ เช่น “ดีมากเลยลูกที่ลูกเป็นเพื่อนเล่นกับน้อง หนูเป็นพี่สาวที่น่ารักมากๆ เลย”
โดยการให้ความรักและความห่วงใยกับลูก เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้ก็คือการมอบความรักและความห่วงใยให้กับลูกๆ นั่นแหละ การจับตัวอย่างอ่อนโยน หรือกอดด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจะทำให้ลูกของคุณรู้ว่าคุณใส่ใจพวกเขามากแค่ไหน อย่ามองข้ามความสำคัญของความสัมพันธ์ด้านความใกล้ชิดทางร่างกายเป็นอันขาด ต่อไปนี้เป็นวิธีการที่จะแสดงออกถึงความรักได้ ซึ่งพ่อแม่สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- กอดเบาๆ ให้กำลังใจสักนิด เห็นคุณค่าของเด็กๆ อนุญาตให้ทำสิ่งต่างๆ หรือเพียงแค่ยิ้มให้ก็จะช่วยได้มากในการเพิ่มความมั่นใจและความสุขสบายให้กับพวกเขา
- บอกรักพวกเขาทุกวันไม่ว่าจะโกรธในสิ่งที่เขาพลาดพลั้งไปมากแค่ไหนก็ตาม
- กอดกับจุ๊บเยอะๆ จะทำให้ลูกๆ ของคุณรู้สึกสบายใจที่ได้รับความรักและความห่วงใยตั้งแต่เกิด
- รักเด็กๆ อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ อย่าบังคับให้พวกเขาเป็นในสิ่งที่คุณอยากให้เป็นเพื่อที่ว่าคุณจะได้รักพวกเขา บอกให้เด็กๆ รู้ว่ายังไงคุณก็รักพวกเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
และรับฟังลูกเสมอ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่คุณจะสื่อสารกับลูกทั้งสองทาง ไม่ใช่แค่คอยย้ำเตือนกฎ แต่ควรรับฟังลูกๆ ของคุณเวลาที่พวกเขามีปัญหาด้วย คุณควรจะแสดงว่าคุณสนใจอีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็กๆ ควรทำให้ลูกรู้สึกสบายใจที่จะเข้าหาคุณเมื่อเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม โดยรับฟังและเคารพลูกๆ กับสิ่งที่เขาอยากจะทำ แต่ก็ต้องจำไว้ล่ะว่าคุณเองก็เป็นพ่อแม่ซึ่งจะช่วยกำหนดขอบเขตให้กับลูกๆ ได้ เด็กที่พ่อแม่ตามใจให้ทำอะไรก็ได้และทำตามอำเภอใจมาตลอดนั้นเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะลำบากเมื่อต้องทำตามกฎเกณฑ์ของสังคม คุณ ไม่ใช่พ่อแม่ที่แย่หรอกนะถ้าจะห้ามบางสิ่งบางอย่างบ้าง จะพูดว่าไม่ให้ก็ได้แต่ก็ควรจะเตรียมเหตุผลว่าทำไมถึงปฏิเสธไว้ด้วย หรือไม่ก็เตรียมทางเลือกไว้เสนอก็ได้
เพราะเด็กแต่ละคนมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นควรเลือกมองจุดเด่นของแต่ละคนและปลูกฝังให้เด็กทุกคนทำในสิ่งที่สนใจและไล่ตามความฝัน เพราะอาจทำให้เด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย หรือความคิดที่ว่าพวกเขาจะไม่มีวันดีพอในสายตาคุณ ถ้าคุณอยากจะช่วยให้ลูกของคุณปรับตัวให้ดีขึ้นจากสถานการณ์นี้ละก็ ลองชวนคุยเรื่องเป้าหมายและการประสบความสำเร็จแบบที่ลูกต้องการดู แทนที่จะต้องให้เขาทำตามพี่หรือเพื่อนข้างบ้าน นี่จะช่วยให้พวกเขาสร้างความเป็นตัวของตัวเองได้
รู้อย่างนี้แล้ว! ..วันนี้คุณเลิกเปรียบเทียบลูกหลานของคุณแล้วหรือยัง?
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!