AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

งดใช้ โทรศัพท์ “คุย&แชท” ต่อหน้าลูก หนึ่งในพฤติกรรมสร้างเด็กเรียกร้องเอาแต่ใจ

พ่อแม่ติดโทรศัพท์ มากเกินไปหรือเปล่าคะ? .. รู้ไหมว่าลูกอาจกำลังอยากพูดคุยกับคุณแม่หลังจากที่เขากลับจากโรงเรียน  จนกลายเป็นการเรียกร้องความสนใจ เมื่อคุณแม่ไม่สนใจเขาเลย  ซึ่งลูกอาจรู้สึกว่าเขาไม่สำคัญในสายตาคุณแม่อย่างที่เขาคิด  ไม่ได้เป็นที่หนึ่งในใจคุณแม่อีกต่อไป

พ่อแม่ติดโทรศัพท์ ติดงานอยู่ตลอด

ภาพจาก northtexaskids.com

ลูกรอคอยความสนใจจากคุณแม่มาตลอดทั้งวัน และยิ่งมาเจอคุณแม่ที่กลับบ้านก็ติดคุย ติดแชท จนทิ้งเขา เขาจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญน้อยกว่าคนทางปลายสาย  ซึ่งกลายเป็นว่าเขารู้สึกว่าคุณแม่ทิ้งเขาในช่วงระยะเวลาที่เขากำลังต้องการคุยกับคุณ  หากคุณเลี้ยงลูกเองและอยู่ด้วยกันทั้งวันซึ่งเขามักไม่เรียกร้องเวลาจากคุณมากเหมือนในกรณีแรก คุณก็น่าจะคุยโทรศัพท์ได้สักพักโดยไม่ทำให้ลูกหงุดหงิดหรืองอแง

เสียงโทรศัพท์สายสำคัญดัง

พอเสียงโทรศัพท์ดัง คุณก็หากิจกรรมที่จะดึงดูดลูกไว้ได้สักระยะ เช่น ต่อบล็อก หรือดูหนังสือนิทาน และบอกลูกว่าตอนนี้คุณต้องคุยโทรศัพท์ก่อนนะ เดี๋ยวคุยเสร็จเราค่อยมาหาอะไรสนุกๆ ทำด้วยกัน จับตามองลูกเอาไว้ด้วย ถ้าเขาเริ่มหมดความอดทนหรืองอแง คุณก็บอกคนที่โทร.มาว่าจะโทร.กลับไปคุยด้วยอีกทีตอนลูกหลับ แล้วก็วางหูซะ

อ่านต่อ >> ผลกระทบเมื่อใช้ โทรศัพท์ “คุย&แชท” ต่อหน้าลูก คลิกหน้า 2

อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

workfromhomemomsclub.blogspot. com

ลูกหงุดหงิด

แต่ถ้าลูกแผลงฤทธิ์แบบปัจจุบันทันด่วน คุณก็หยุดคุยก่อนเพื่อบอกกับเขาว่า แม่รู้ว่าหนูไม่ชอบให้แม่คุยโทรศัพท์ แต่บางทีแม่ก็มีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับคนอื่นบ้างเหมือนกัน รอนิดหนึ่งนะ แม่คุยจะเสร็จแล้วละลูกŽ ซึ่งได้ประโยชน์ถึงสองต่อเพราะคนที่โทร.มาก็จะรู้ว่าคุณคุยได้อีกไม่นาน อย่าลืมทำตามสัญญา และทุ่มเทความสนใจให้ลูกทันทีที่คุยเสร็จด้วยล่ะ

พ่อแม่ติดมือถือ กระทบพัฒนาการลูกแค่ไหน

ทั้งนี้พฤติกรรมการที่พ่อแม่ติดโทรศัพท์เช่นนี้อาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพ่อแม่และลูกน้อย ทำให้ความสุขในการได้พูดคุยกับลูกหายไป และแทนที่ด้วยพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความเบื่อหน่ายในการเลี้ยงดูลูก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าปัญหา พ่อแม่ติดโทรศัพท์ เป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัวในปัจจุบัน

หากคุณพ่อคุณแม่ติดโทรศัพท์มือถือ มัวแต่จดจ่อกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ก็จะไม่ได้พูดคุยกับลูกมากพอ ซึ่งการพูดคุยนั้นสำคัญต่อพัฒนาการสมองของเด็กอย่างมาก สำหรับเด็กที่พ่อแม่พูดคุยด้วยจะสามารถสะสมคำศัพท์ในหัวและเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ถูกปล่อยให้นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบ

ผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆ เมื่อพ่อแม่ติดโทรศัพท์

นักวิจัยได้สังเกตผู้เลี้ยงดูเด็กขณะอยู่ในร้านอาหารพบว่า ผู้เลี้ยงดู 40 คน จาก 55 คน ใช้สมาร์ทโฟนระหว่างมื้ออาหาร นักวิจัยกล่าวว่า พ่อแม่ที่จดจ่อกับอุปกรณ์ในมือมีแนวโน้มที่จะตอบสนองลูกน้อยด้วยความรุนแรง ซึ่งพ่อแม่มักเช็กโทรศัพท์มือถือบ่อยเกินไป ทำให้ลูกรู้สึกไม่ได้รับความสำคัญและไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ และไม่กล้าที่จะพูดคุยกับพ่อแม่

เพราะการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเล่าเรื่อง คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูกน้อยบ่อยๆ ชี้ชวนให้ลูกดูสิ่งรอบตัว แล้วเล่าถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณและลูกเห็นในขณะนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวสำหรับลูกนั่นเอง เพราะสมองของลูกในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพูดจะ “สว่างขึ้น” เมื่อลูกมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ ภาพสมองเช่นนี้แสดงว่าลูก “พยายามที่จะพูดคุย”

สุดท้ายนี้ ไม่เพียงแต่โทรศัพท์ การแชท หรือใช้โปรแกรมติดต่อสื่อสารต่อหน้าลูกก็ส่งผลเสียเช่นเดียวกันได้ คุณแม่ๆ ควรดูแลจิตใจของตัวเองและแบ่งเวลาให้กับลูกมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ และเลือกรับสายสำคัญ  งดบ่นเรื่องไม่ดีทางโทรศัพท์ต่อหน้าลูก เพราะจะทำให้เด็กเลียนแบบและจดจำ … Amarin Baby & Kids เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนค่ะ ^^

อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!


บทความโดย: กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids