พ่อแม่ติดโทรศัพท์ มากเกินไปหรือเปล่าคะ? .. รู้ไหมว่าลูกอาจกำลังอยากพูดคุยกับคุณแม่หลังจากที่เขากลับจากโรงเรียน จนกลายเป็นการเรียกร้องความสนใจ เมื่อคุณแม่ไม่สนใจเขาเลย ซึ่งลูกอาจรู้สึกว่าเขาไม่สำคัญในสายตาคุณแม่อย่างที่เขาคิด ไม่ได้เป็นที่หนึ่งในใจคุณแม่อีกต่อไป
พ่อแม่ติดโทรศัพท์ ติดงานอยู่ตลอด
ลูกรอคอยความสนใจจากคุณแม่มาตลอดทั้งวัน และยิ่งมาเจอคุณแม่ที่กลับบ้านก็ติดคุย ติดแชท จนทิ้งเขา เขาจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญน้อยกว่าคนทางปลายสาย ซึ่งกลายเป็นว่าเขารู้สึกว่าคุณแม่ทิ้งเขาในช่วงระยะเวลาที่เขากำลังต้องการคุยกับคุณ หากคุณเลี้ยงลูกเองและอยู่ด้วยกันทั้งวันซึ่งเขามักไม่เรียกร้องเวลาจากคุณมากเหมือนในกรณีแรก คุณก็น่าจะคุยโทรศัพท์ได้สักพักโดยไม่ทำให้ลูกหงุดหงิดหรืองอแง
เสียงโทรศัพท์สายสำคัญดัง
พอเสียงโทรศัพท์ดัง คุณก็หากิจกรรมที่จะดึงดูดลูกไว้ได้สักระยะ เช่น ต่อบล็อก หรือดูหนังสือนิทาน และบอกลูกว่าตอนนี้คุณต้องคุยโทรศัพท์ก่อนนะ เดี๋ยวคุยเสร็จเราค่อยมาหาอะไรสนุกๆ ทำด้วยกัน จับตามองลูกเอาไว้ด้วย ถ้าเขาเริ่มหมดความอดทนหรืองอแง คุณก็บอกคนที่โทร.มาว่าจะโทร.กลับไปคุยด้วยอีกทีตอนลูกหลับ แล้วก็วางหูซะ
อ่านต่อ >> ผลกระทบเมื่อใช้ โทรศัพท์ “คุย&แชท” ต่อหน้าลูก คลิกหน้า 2
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- อุทาหรณ์เตือนใจ ลูกจมน้ำตาย เพราะมือถือ
- 7 พฤติกรรมก่ออันตรายให้ลูก ที่พ่อแม่ติดมือถือต้องหยุดทำ!
- แม่ต้องระวัง..เมื่อนั่งเล่นมือถือกับลูกคนเดียว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ลูกหงุดหงิด
แต่ถ้าลูกแผลงฤทธิ์แบบปัจจุบันทันด่วน คุณก็หยุดคุยก่อนเพื่อบอกกับเขาว่า แม่รู้ว่าหนูไม่ชอบให้แม่คุยโทรศัพท์ แต่บางทีแม่ก็มีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับคนอื่นบ้างเหมือนกัน รอนิดหนึ่งนะ แม่คุยจะเสร็จแล้วละลูก ซึ่งได้ประโยชน์ถึงสองต่อเพราะคนที่โทร.มาก็จะรู้ว่าคุณคุยได้อีกไม่นาน อย่าลืมทำตามสัญญา และทุ่มเทความสนใจให้ลูกทันทีที่คุยเสร็จด้วยล่ะ
พ่อแม่ติดมือถือ กระทบพัฒนาการลูกแค่ไหน
ทั้งนี้พฤติกรรมการที่พ่อแม่ติดโทรศัพท์เช่นนี้อาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพ่อแม่และลูกน้อย ทำให้ความสุขในการได้พูดคุยกับลูกหายไป และแทนที่ด้วยพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความเบื่อหน่ายในการเลี้ยงดูลูก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าปัญหา พ่อแม่ติดโทรศัพท์ เป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัวในปัจจุบัน
หากคุณพ่อคุณแม่ติดโทรศัพท์มือถือ มัวแต่จดจ่อกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ก็จะไม่ได้พูดคุยกับลูกมากพอ ซึ่งการพูดคุยนั้นสำคัญต่อพัฒนาการสมองของเด็กอย่างมาก สำหรับเด็กที่พ่อแม่พูดคุยด้วยจะสามารถสะสมคำศัพท์ในหัวและเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ถูกปล่อยให้นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบ
ผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆ เมื่อพ่อแม่ติดโทรศัพท์
- พ่อแม่ที่ติดโทรศัพท์มือถือมักไม่ค่อยพาลูกออกไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งเป็นกีดกันพัฒนาการของเด็ก เพราะการพาลูกออกไปเล่นนอกบ้านนั้นคือการสร้างพัฒนาด้านร่างกาย และสมองของเด็กเพราะเด็กอยู่ในช่วงกำลังเรียนรู้ สิ่งต่างๆรอบตัว เช่น การเข้าสังคม การสื่อสาร การรู้จักแก้ปัญหา ทำให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- เด็กๆ ขาดทักษะทางสังคม มีปัญหาด้านการพูด การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเข้าห้องน้ำ การใส่รองเท้า การล้างมือ เป็นต้น ปัญหาที่เกิดกับเด็กเหล่านี้มาจากพวกเขาถูกละเลยทอดทิ้งโดยพ่อแม่
- พัฒนาการของลูกน้อยวัยทารกไม่ได้เกิดจากการได้ยินถ้อยคำเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบของพ่อแม่อีกด้วย หากลูกน้อยไม่ได้รับการปฏิสัมพันธ์หรือการโต้ตอบจากพ่อแม่เลย ก็อาจทำให้ลูกมีพัฒนาการช้า และไม่สนใจคนรอบข้าง
เพราะการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเล่าเรื่อง คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูกน้อยบ่อยๆ ชี้ชวนให้ลูกดูสิ่งรอบตัว แล้วเล่าถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณและลูกเห็นในขณะนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวสำหรับลูกนั่นเอง เพราะสมองของลูกในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพูดจะ “สว่างขึ้น” เมื่อลูกมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ ภาพสมองเช่นนี้แสดงว่าลูก “พยายามที่จะพูดคุย”
สุดท้ายนี้ ไม่เพียงแต่โทรศัพท์ การแชท หรือใช้โปรแกรมติดต่อสื่อสารต่อหน้าลูกก็ส่งผลเสียเช่นเดียวกันได้ คุณแม่ๆ ควรดูแลจิตใจของตัวเองและแบ่งเวลาให้กับลูกมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ และเลือกรับสายสำคัญ งดบ่นเรื่องไม่ดีทางโทรศัพท์ต่อหน้าลูก เพราะจะทำให้เด็กเลียนแบบและจดจำ … Amarin Baby & Kids เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนค่ะ ^^
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- ถูกใจชาวเน็ตอย่างแรง! การบ้านลูก กับวิธีแก้ปัญหา คุณแม่ติดโทรศัพท์ ตามฉบับอริยสัจ 4
- โทรศัพท์ touch screen ทำ สมองลูกเติบโตช้า
- โทรศัพท์มือถืออันตราย กับลูกน้อยจริงหรือไม่?
- อย่ามัวแต่ก้มมองมือถือ จนลืมลูกน้อยข้างตัว
บทความโดย: กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids