AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

สอนลูกฉลาดทำบุญ 16 วิธี ทำบุญโดยไม่ต้องไปวัด!

ทำบุญโดยไม่ต้องไปวัด …หลายๆคนเมื่อนึกถึงการทำบุญมักจะนึกถึง การเข้าวัด ไหว้พระ เท่านั้น แต่วันนี้ ทีมแม่ ABK มาสายธรรมะ ขอนำเสนอวิธีการทำบุญโดยที่ไม่ต้องเข้าวัดมาฝากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อพาลูกๆทำบุญกันค่ะ เพียงแค่ทำเช่นข้อใดข้อหนึ่ง (หรือจะทำครบทุกข้อก็ได้) ต่อไปนี้แค่นี้ก็เป็นการทำบุญแล้วค่ะ

ความหมายของคำว่า “บุญ” ทำบุญโดยไม่ต้องไปวัด

บุญ คือ การทำความดีด้วยวิธีการต่างๆ ที่ทำให้อิ่มเอิบเบิกบานใจโดยทั่วไป บุญ แปลว่าเครื่องชำระให้สะอาดบริสุทธิ์ ชำระอย่างแรกคือชำระพฤติกรรม ให้งดงาม เป็นไปในทางที่ถูกต้อง ชอบธรรม เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ชำระประการต่อมาก็คือชำระจิตใจ ให้หายเศร้าหมอง พ้นจากความเร่าร้อน เกิดความสว่างไสวในทางปัญญา คิดถูกคิดชอบ ไม่หลงไปตามอารมณ์ชั่วแล่น

บุญ ยังแปลว่า ความอิ่มเอิบเบิกบานใจ เพราะได้ทำความดีและได้สร้างสรรค์ความเจริญงอกงามให้เกิดขึ้น คนเราทุกคนต้องการทำความดี อยากให้ความดีภายในได้เปล่งประกายออกมา เหมือนกับดอกไม้ที่อยากเบ่งบาน สยายกลีบ โดยไม่สนใจว่าจะมีคนเห็นหรือไม่ การทำความดีช่วยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ดุจเดียวดับดอกไม้ที่บรรลุความสมบูรณ์เมื่อได้สร้างความงดงามให้แก่โลก

ผู้ให้ความสุขย่อมได้ความสุข ♥

บุญนั้นเริ่มต้นด้วยการรู้จักให้ การให้ (หรือทาน) ช่วยให้เราไม่คิดจะเอาเข้าตัวอยู่ร่ำไป ชีวิตที่คิดแต่จะเอาเป็นชีวิตที่ไม่สมดุล จิตที่คิดแต่จะเอาเป็นจิตที่คับแคบ เห็นแก่ตัว ทำให้เป็นคนไม่น่ารัก และมีความสุขยาก

เด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาได้เพราะเป็นฝ่ายรับจากผู้อื่นมาตั้งแต่เกิด ทั้งน้ำนม อาหาร ความอบอุ่น ตลอดจนความรู้ แต่ถ้าไม่รู้จักให้เสียเลย ก็จะเกิดความเข้าใจผิดว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่อจะเป็นผู้รับฝ่ายเดียวเท่านั้น การสอนเด็กให้รู้จักให้ คือการสอนบทเรียนชีวิตข้อแรกว่า เมื่อรับแล้วต้องรู้จักให้ ต้นไม้ทุกต้นเติบโตเพราะดูดน้ำและอาหารจากพื้นดิน แต่เวลาเดียวกันเขาก็รู้จักคายน้ำและทิ้งกิ่งใบให้เป็นปุ๋ย เป็นการตอบแทนผืนดินที่หล่อเลี้ยงเขามา อีกทั้งยังให้อาหารและที่พักพิงแก่เพื่อนร่วมโลก เช่น นก กระรอก รวมทั้งมนุษย์

Must readวิธีเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กมีน้ำใจ รู้จักให้ และเสียสละ

แต่การให้มิได้หมายถึงการตอบแทน หรือเป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น การให้ยังช่วยให้เราได้รับความสุข การสอนลูกให้รู้จักให้ คือการสอนให้เขารู้จักความสุขจากการให้ “ผู้ให้ความสุขย่อมได้รับความสุข” เป็นสัจธรรมที่เด็กควรรับรู้ …ด้วยเหตุนี้ ผู้ใหญ่สมัยก่อนจึงนิยมพาลูกหลานใส่บาตรตั้งแต่ยังตัวเล็ก ๆ ทีแรกก็เป็นฝ่ายเฝ้าดูพ่อแม่หรือตายายเอาอาหารหวานคาวใส่บาตร ต่อมาก็ใส่บาตรด้วยตนเอง ใส่แล้วก็พนมมือจรดหัว

Must read10 เทคนิคสอนลูกให้เป็นเด็กกตัญญู

ทำบุญที่ใจ ♥

คนเราสามารถทำบุญได้ตลอดเวลา ไม่ว่าที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือบนท้องถนน ไม่มีเงินหรือไม่ใช้เงินเลย ก็ทำบุญได้แม้กระทั่งอยู่เฉย ๆ แต่ทำใจให้ถูกต้อง จนเกิดความรู้สึกดี ๆ ขึ้นมา ก็เป็นบุญ เช่น ยินดีปลาบปลื้มเมื่อเห็นคนอื่นทำความดี ไม่อิจฉา หรือค่อนแคะเขาว่าอยากดัง การสอนให้ลูกชื่นชมคนดีคือการสร้างนิสัยใฝ่ดีขึ้นมาในตัวเด็ก ขณะเดียวกัน เมื่อทำความดี ก็ไม่หวงความดีไว้คนเดียว ชักชวนหรือเปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำความดีด้วย ตลอดจนแผ่บุญกุศลจากความดีนั้นให้แก่คนอื่น ให้เขาได้รับประโยชน์ด้วย นี้ก็เป็นบุญด้วยเช่นกัน

การทำบุญที่ใจ ทำให้ใจเป็นกุศล และมีความสุข ตรงกันข้าม การอิจฉาคนอื่นที่ทำดีกว่าตน หรือถือตัวถือตน ทำให้จิตใจเร่าร้อนและเครียดง่าย แต่ถ้าอยากให้ลูกมีสุขภาพใจที่สมบูรณ์ พ่อแม่ควรสอนลูกให้รู้จักฝึกจิตฝึกใจให้มีภูมิคุ้มกันความทุกข์ ฉลาดในการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบใจด้วย

Must read37 แนวทาง เลี้ยงลูกให้ถูกธรรม!! ตามคำสอนพุทธ เพื่อให้ลูกเป็นคนดีและมีสุข
Must read3 เทคนิค สอนลูก เข้าใจธรรมะ
Must read16 ข้อ ธรรมะสอนลูก ใช้ในชีวิตประจำวัน

ขอบคุณบทความจาก : พระไพศาล วิสาโล

ทั้งนี้มีหลายๆ คนเมื่อนึกถึงการทำบุญมักจะนึกถึง การเข้าวัด ไหว้พระ เท่านั้น แต่วันนี้เราขอนำเสนอการทำบุญโดยที่ไม่ต้องเข้าวัดมาฝากกัน เพียง แค่ทำ 1 ใน 16 ข้อต่อไปนี้แค่นี้ก็เป็นการทำบุญแล้วค่ะ

อ่านต่อ >> “16 วิธี ทำบุญโดยไม่ต้องไปวัด” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

โดยปกติแล้วหากคุณพ่อคุณแม่อยากพาลูกๆ ทำบุญ มักไปทำบุญที่วัด แต่ทั้งนี้ การทำบุญ ทำทาน เพื่อให้ได้กุศลผลบุญก็ยังมีวิธีการทำวิธีอื่นๆ อีกหลายวิธี ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องไปวัด

1. ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่อยู่ในบ้าน ให้ท่านมีความสุข อย่าทำให้ท่านเดือดร้อนใจ หรือเป็นทุกข์ ถ้ามีโอกาสอาจซื้อของมาฝาก และเรียกพวกท่านให้รับประทานของที่เราซื้อมา

2. ตักบาตรตอนเช้าก่อนที่จะไปเรียนหนังสือ หรือไปทำงาน

3. ถวายน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือ อาหารคาวหวาน หรือ จะเป็นดอกไม้พวงมาลัย ให้พระพุทธรูปที่บ้าน

4. ตื่นเช้าขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งดีๆ ทันทีที่ตื่นนอน หากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีที่งาม ก็จะทำให้จิตใจเราสดชื่น กระตือรือร้น พร้อมที่จะรับมือ กับชีวิตประจำวันด้วยความรื่นเริง ไม่หงุดหงิดโมโห แค่นี้ นอกจากเราจะมีความสุขแล้ว คนรอบข้างเราก็มีความสุขไปด้วยถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง

5. ฝึกจิตให้สงบ สวดมนต์ วันละ 1 บท ทุกๆ คืนก่อนนอน ก็ควรสวดมนต์ไหว้พระที่เรานับถือ โดยอาจเลือกบทสวดสั้นๆ ที่ชอบ เสร็จแล้วก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้กับตัวเอง และผู้อื่นตามสมควรที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าเป็นการทำความดีที่ไม่ต้องใช้เงินเลย แต่สามารถปฏิบัติในชีวิตประจำวันของเราได้ โดยไม่ยากเย็นเข็ญใจจนเกินไปอีกทั้งปฏิบัติแล้วก็เป็นบุญกุศลที่จะเกื้อหนุนให้เราและคนรอบตัวมีความสุข เพราะ’บุญ’ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เครื่องชำระกาย ใจให้บริสุทธิ์ เป็นการทำประโยชน์ให้แก่ตัวเราเองและผู้อื่น และยังช่วยลดกิเลส ความเศร้าหมองต่างๆ ได้

6. ทำใจให้สบาย นั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที ฟังดูเหมือนยาก แต่จริงๆ เราทำได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไรอยู่ เช่น กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ อยู่ที่ทำงาน หัวใจหลักคือให้เอาใจไปจดจ่อในสิ่งที่ทำเพียงอย่างเดียว จะทำให้เราทำทุกอย่างได้ดีขึ้น เพราะไม่พะวักพะวนคิดหรือทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันอันทำให้ขาดสติ

7. รักษาศีล 5 รับประทานอาหารเจ ไม่กินเนื้อสัตว์ และไม่เบียดเบียน หรือทำร้ายใคร

8. พูดคุย หรือ สั่งสอนเรื่องธรรมะ การมีเมตตา แนะนำในสิ่งที่ดี มีประโยชน์และคุณค่าต่อผู้อื่น หรือสอนในสิ่งที่เราชำนาญให้แก่ผู้อื่น ก็จะเป็นการช่วยเกื้อกูลสังคมให้ดียิ่งขึ้น และผลก็จะย้อนมาสู่ตัวเราผู้ทำด้วย เช่น แนะวิธีออกกำลังกายให้พ่อแม่ ท่านก็แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่ายเราก็สบายใจ หรือแม้แต่การแนะนำให้ความรู้ที่เรามี หรือทราบมาแก่คนไม่รู้จัก อย่างที่แนะนำหมอ ยาดีๆ หรือธรรมะที่ดีแก่คนอื่น ทำให้เขาหายป่วยหรือรู้สึกดีขึ้น เขาก็จะอธิษฐานหรือให้พรเราทำให้เราพบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต

อ่านต่อ >> “16 วิธี ทำบุญโดยไม่ต้องไปวัด” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

9. ทำบุญกับพระสงฆ์ที่พบระหว่างการเดินทาง เช่น หากพบเจอพระสงฆ์ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็อาจะไปบอกท่านว่า เราต้องการทำบุญ เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปที่วัด และขอเสนอตัวไปขับรถไปส่งท่าน ณ. จุดมุ่งหมาย หรือ อาจถวายเงิน, ผ้าไตร, ผ้าจีวร หากพบว่าท่านกำลังซื้ออยู่ หรือ มีร้านอยู่ใกล้ ๆ พอดี

10. ถ้าทราบว่าใครเดือดร้อนเรื่องใด ๆ ก็ให้ช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจและเราก็จะต้องไม่เดือดร้อน ทำตามกำลังความสามารถของเรา อาทิ ช่วยคนแก่ให้ข้ามถนน, แอบได้ยินคนคุยกันว่าไม่มีเงินกินข้าวหรือเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดก็ให้เงินเขาไปทั้ง ๆ เขาไม่ได้เดินมาขอ เป็นต้น

11. ให้คำแนะนำที่ดี ๆ กับผู้ที่มีความทุกข์และเดินเข้ามาขอคำแนะนำจากเรา ให้มีความสบายใจโดยที่คำแนะนำของเรานั้นจะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือช่วยแก้ไขปัญหา หลายๆครั้งที่เพื่อนฝูงญาติมิตรอาจประสบ ปัญหาชีวิต และเกิดความทุกข์ใจแสนสาหัส สิ่งที่ดีที่สุดคือความเป็นมิตรและถ้อยคำที่ปลุกปลอบให้กำลังใจ คำพูดดีๆ ที่มาจากใจจะทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในหวงทุกข์ รู้สึกดีขึ้นและมีพลังที่ต่อสู้ชีวิตต่อไปได้

12. ช่วยคนที่เขาเอาของมาขายกับเรา (ตรงนี้ยกเว้นล็อตเตอร์รี่ เพราะเราหวังผลจากล็อตเตอร์รี่ที่ซื้อไปว่าอาจจะถูกรางวัล ซึ่งการทำตรงนี้เราจะต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น)

13. ดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้านเป็นอย่างดี อาทิ อาบน้ำ, จานใส่อาหารต้องสะอาด,ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของกรงหรือที่อยู่อย่าให้มีกลิ่นเหม็น, หมั่นพูดคุย, คอยสังเกตว่าเขาชอบหรือรักอะไรก็ให้เขาไป เช่น ชอบนอนในถุง หรือ ชอบนอนกับตุ๊กตา, วโรกาสพิเศษก็มอบของให้เขาด้วยเช่นกัน อย่าคิดว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยง

14. จาน ชาม กินเสร็จแล้วควรล้างขึ้นมาทันที หรือ ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยที่สุดก็ควรล้างเอาเศษอาหารออกให้หมดก่อน เพราะมดจะได้ไม่ขึ้นมาบนเศษอาหาร ทำให้เวลาล้างต้องราดน้ำไปที่มดทั้งหมด

15. ให้อภัยในสิ่งที่เขามาว่าเราไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็ตาม การให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น โดยทั่วไปคนเรามักจะให้อภัยตัวเองง่ายและมีข้อแก้ตัวให้ตนต่างๆ นานา แต่ถ้าผู้อื่นผิดพลาดแล้ว เรามักเห็นเป็นเรื่องใหญ่และตำหนิติเตียนไม่รู้จักแล้วจบ ดังนั้น เราจะต้องหัดมีเมตตารู้จักให้อภัยต่อผู้อื่นให้ง่าย เหมือนให้อภัยแก่ตัวเราเอง เพราะการให้อภัยจะทำให้เราไม่ผูกใจเจ็บ ไม่อาฆาตมาดร้าย ไม่ก่อศัตรู แต่ทำให้จิตใจเราสงบเย็นเป็นการฝึกจิตพื้นฐานอย่างหนึ่ง ที่จะนำไปสู่กุศลขั้นสูงอื่นๆ ต่อไป

16. แบ่งปันน้ำใจ สิ่งของที่ไม่ใช้ก็ให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์ต่อ และช่วยเหลือเอื้อเฟื้อ สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา เช่น ช่วยพ่อแม่จัดโต๊ะอาหารล้างถ้วยชาม ลุกให้เด็ก ผู้หญิงท้อง หรือคนแก่นั่ง ช่วยถือของหนักให้คนในรถเมล์ หยุดรถให้คนข้ามถนน หรือรถอื่นไปก่อน ช่วยแบ่งเบาภาระงาน ให้เพื่อนในที่ทำงาน เป็นต้น การให้ความช่วยเหลือเช่นนี้ เป็นการทำบุญด้วยการลดความเห็นแก่ตัวของเราลงและ ทำให้เราได้รับมิตรไมตรีสนองตอบกลับมาด้วย

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.visalo.org