พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสอนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เรื่อง ” ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด !”
ความใฝ่พระราชหฤทัยในการเรียนรู้ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีมาแต่ยังทรงพระเยาว์ เด็กทั่ว ๆ ไปมีบิดามารดาเป็นครูคนแรก พระองค์ท่านก็เช่นเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเปรียบเสมือนครูพระองค์แรกของพระองค์
ทรงซึมซับพระนิสัยใฝ่รู้ใฝ่ศึกษาจากพระราชบิดาและพระราชมารดา เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงพัฒนาที่ใด จะทรงศึกษาลักษณะพื้นที่และสภาพแวดล้อมของที่นั้น ๆ ก่อนเสมอ ทรงปลูกฝังเรื่องความรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรงสอนให้รู้จักวิธีการคิดอย่างเป็นระบบ ทรงสอนให้พระราชโอรสและพระราชธิดารู้จักสังเกตสภาพแวดล้อม สภาพภูมิประเทศ รู้จักการคำนวณเวลาจากระยะทางและความเร็ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีจึงทรงได้รับการปลูกฝังพระนิสัยช่างสังเกตให้รู้จักสนพระทัยใฝ่เรียนรู้จากสิ่งรอบด้านที่ได้พบเห็น ไม่เพียงความรู้จากในตำรา.
ซึ่งในโลกออนไลน์ก็ได้มีการแชร์เรื่องราวคำสอนของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ โดยทาง คุณ @wlmme ได้หยิบเอาบทความตอนหนึ่งเรื่อง ” บทเรียนจากการนับข้าวสาร”จากหนังสือความสุขของสมเด็จพระเทพฯ เขียนโดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ มีทั้งเรื่องราวของความสุขเมื่อทรงดนตรี สักวาพาเพลิน ความสุขกับการ์ตูนฝีพระหัตถ์ สารพันกีฬากับสมเด็จพระเทพฯ ความสุขในการเรียนรู้ตลอดชีวิต มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน
ซึ่ง “บทเรียนจากการนับข้าวสาร” เป็นเรื่องราวเมื่อครั้งที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระชนมายุ 8 พรรษา ได้ทูลถามพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า “…ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด…” และเมื่อได้คำตอบจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทำเอาสมเด็จพระเทพฯ ทรงทูล กลับไปว่า ไม่อยากรู้แล้ว !
อ่านต่อ >> “บทเรียนจากการนับข้าวสาร”คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทเรียนจากการนับข้าวสาร ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด ?
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระชนมายุ 8 พรรษานั้น ได้เคยทูลถามพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า “…ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด…” พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ ทรงอธิบายว่า… “…ข้าวสาร 1 กระสอบมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม กิโลกรัมหนึ่งมีเครื่องชั่งวัดได้ 10 ขีด ดังนั้น ก็เอาภาชนะไปตวงข้าวสารมาชั่งได้ 1 ขีด แล้วก็นับข้าวสารที่ตวงมานั้นมีกี่เม็ด แล้วก็เอา 10 คูณ เสร็จแล้วเอา 100 คูณผลลัพธ์อีกทีก็จะได้จำนวนเม็ดข้าวใน 1 กระสอบ…” สมเด็จพระเทพฯ ทรงทูลว่า ไม่อยากรู้แล้ว พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สอนว่า "ไม่ได้หรอก หากถามก็แสดงว่าอยากรู้ ดังนั้นจงไปหาข้าวสารมาตวงและนับเสีย เมื่อได้ผลเป็นอย่างไรให้มาบอกด้วยว่าข้าวสารหนึ่งกระสอบมีกี่เม็ด เพราะว่าก็อยากรู้เหมือนกัน" ทั้งนี้ นับเป็นบทเรียนสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เลยก็ว่าได้
บทเรียนจากการนับข้าวสาร จึงนำมาซึ่ง แง่คิด “เมื่อสงสัย ใฝ่รู้ ควรมุ่งมั่นหาคำตอบ”
จากบทเรียนสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นั้นคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถนำไปสอนลูกๆ ได้ เช่นเดียวกันในเรื่องของการต่อยอดและฝึกพัฒนาสมองให้กับลูก เมื่อลูกเป็นเด็กรู้จักสงสัยและตั้งคำถาม นั้นก็หมายความว่าลูก เริ่มมีความใฝ่รู้
เพราะ การฝึกคิด ใช้เหตุผล วิเคราะห์ปัญหา แก้ปัญหา จะทำได้ง่ายๆ ด้วยการฝึกเป็น “คนช่างสงสัย” การเป็นคน “ช่างสงสัย ใฝ่รู้” เป็นเรื่องสำคัญ คือ เมื่อหมั่นตั้งคำถาม ก็ต้องหมั่นคิดค้นคว้าหาคำตอบด้วย คำถามสำคัญที่สุดในการพัฒนาปัญญา ใช้เหตุผล คือ “ทำไม” และ “ทำได้อย่างไร”
คำถาม “อะไร” “ที่ไหน” “เมื่อไร” จะได้คำตอบที่เป็นข้อเท็จจริง แต่คำถาม “ทำไม” หรือ “ทำอย่างไร” จะเชื่อมโยงสร้างความสัมพันธ์ จัดลำดับความสัมพันธ์ก่อนหลัง จัดลำดับความสัมพันธ์ของเหตุและผล ตลอดจนลำดับความสำคัญมาก-น้อยต่างกันออกไป เพื่อความมุ่งหมายที่จะให้ได้คำตอบ
ซึ่งก็คือ การ “ฝึกคิด วิเคราะห์” โดยตรง เช่น คำถาม ชื่ออะไร เวลาเท่าไร เมื่อไร ที่ใด ก็จะได้คำตอบเป็น “นาย ก” “เวลาเช้าพรุ่งนี้” “ที่เชียงใหม่” ที่เป็นข้อเท็จจริง
แต่ถ้าถามว่า “ทำไม” “อย่างไร” ต้องหาคำตอบที่เป็นเหตุเป็นผล เช่น ทำไมกลางวันจึงสว่าง ทำไมกลางคืนจึงมีด ทำไมนกจึงบินได้ เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่พ่อแม่หมั่นฝึกให้ลูก รู้จักตั้งคำถาม ฝึกสงสัย ตั้งแต่เด็กก็จะติดเป็นนิสัย “สงสัย ใฝ่รู้” และมุ่งมั่นหาคำตอบ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
เลี้ยงลูกให้ดีงาม เดินตามคำสอนพ่อ
คำพ่อสอน และ 9 คำสอนของพ่อหลวง
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : ทวิตเตอร์ @wlmme, หนังสือความสุขของสมเด็จพระเทพฯ เขียนโดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ , www.gotoknow.org