*ในบรรดาลูกทั้ง 3 ประเภทนี้2
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ประเภทอวชาตบุตร จัดว่าเป็นลูกที่เลว หรือต่ำกว่าตระกูล ในบรรดาความชั่วที่ร้ายแรงทั้งหมดของคนในโลกนี้ คงจะไม่มีความชั่วอะไรที่ร้ายแรงเกินไปกว่าการละเมิดศีล 5 ข้อไปได้อีกแล้ว ซึ่งในที่นี้ สังเกตดูได้จากนักโทษในคุก ที่มักทำผิดโดยเกี่ยวกับการละเมิดศีล 5 ข้อ ทั้งสิ้น
- ฆ่าเขา ทำร้ายร่างกายเขา ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 1
- ลัก ปล้น จี้ ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 2
- เป็นชู้เมียหรือผัวเขา ข่มขืน ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 3
- โกหก ผิดสัญญา หลอกลวง ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 4
- ทำชั่วหรือทำผิดต่างๆ ก็เพราะขาดสติ ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 5
*การละเมิดศีล 5 จึงเป็นเหตุแห่งความชั่วต่างๆ ได้สารพัด และเพื่อป้องกันมิให้ลูกต้องล่วงศีล 5 จึงควรที่พ่อแม่จะต้องรีบปลูกฝังคุณธรรม 5 ที่คู่กับศีล 5 ให้ในใจลูกก่อนดังนี้
1.เมตตา มีความรักต่อคนและสัตว์ทั่วไป
2.สัมมาชีพ ทำมาหากินในทางสุจริต
3.สทารสันโดษ หรือกามสังวร ยินดีเฉพาะในคู่ครองของตน
4.สัจจะ มีความสัตย์จริงหรือซื่อสัตย์ต่อกัน
5.มัชวิรัติ หรือเจริญสติ เว้นจากสิ่งมึนเมา
*เมื่อมีเบญจธรรม 5 ข้อนี้แล้ว ก็จะคุ้มครองศีล 5 ไว้ได้เอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่รักษาศีล 5 ก็ได้ เพราะเบญจธรรมเหนือกว่าศีลมากมายนัก เช่น เมตตาซึ่งคู่กับศีล ข้อ 1 เรายังไม่คิดจะฆ่าแม้แต่มดหรือยุงตัวเล็กๆ แล้ว เราจะไปฆ่าคนได้อย่างไร
แต่สำหรับชาวบ้านทั่วไป เอาแค่ไม่ฆ่าคนก็น่าจะพอแล้ว เพราะบางอาชีพก็ยังต้องฆ่าสัตว์เล็กๆ เพื่อเป็นอาหารอยู่ เอาแค่ไม่ฆ่าคนเสียได้คุกก็จะว่างนักโทษขึ้นอีกแยะเลย แต่ถึงแม้ว่าจะมีศีล 5 แล้ว ก็ยังไม่อาจจะปลอดภัยนัก สักวันหนึ่งเราอาจจะเผลอไปล่วงศีลเข้าก็ได้ ทางที่ดีนอกจากเราจะมีธรรม 5 แล้ว ก็ควรที่จะละเว้นจากอบายมุข 5 เสียด้วย คือ
1.การดื่มน้ำเมา (รวมทั้งสิ่งเสพติดต่างๆ)
2.การเป็นคนเจ้าชู้
3.การเล่นการพนัน
4.การคบมิตรชั่ว
5.การเกียจคร้าน
โดยเฉพาะใน 3 ข้อหลังนี่สำคัญมาก ใน 2 ข้อแรกมีอยู่ในศีล 5 แล้ว และที่อยากจะเน้นเป็นพิเศษกว่าข้ออื่นๆ ก็คือ การคบคนชั่ว คนทุจริตหรือคนพาลเป็นมิตร นี่จะเป็นสะพานไต่ไปสู่ความผิดและความชั่วต่างๆ ได้สารพัด การเลือกคบแต่เพื่อนที่ดีจึงเป็นบันไดขั้นแรก ที่พ่อแม่ควรจะสอนให้ลูกสำนึกไว้ก่อนที่ลูกจะออกไปสู่โลกกว้าง หรือพ้นจาก อกของพ่อแม่
เหตุเพราะว่า ลูกไม่อาจที่จะอยู่คนเดียวในโลกได้ เพื่อนฝูงจึงมีความจำเป็นที่ลูกจะต้องคบหา แม้ระดับโรงเรียนชั้นประถมหรือเพื่อนบ้านก็ตามที แม่จึงควรที่จะให้ความรู้แก่ลูกว่าเพื่อนที่ดีและชั่วนั้นต่างกันอย่างไร ชี้ให้ลูกเห็นความแตกต่าง ที่ลูกได้คบเพื่อนดีหรือชั่ว และจะดูหรือแยกได้อย่างไรว่าใครจะเป็นเพื่อนดีหรือเพื่อนชั่ว
พ่อแม่ที่ดีของลูก จึงไม่ควรที่จะละเลยในข้อนี้ ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกว่าศีล 5 หรือธรรมข้ออื่นๆ เสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าถ้าลูกไปคบกับคนพาลหรือมิตรชั่วเข้าแล้ว ทั้งศีลและธรรมก็อาจละเมิดเสียได้ทุกข้อ เพราะความใกล้ชิด ความเกรงใจ ความเห็นใจ ลูกเราก็เลยต้องยอมทำตามเพื่อนไปหมดทุกอย่าง แม้ว่าในครั้งแรกๆ ลูกอาจจะไม่เต็มใจ แต่พอทำตามหลายๆ ครั้งเข้า มันก็จะเกิดความเคยชินไปเองจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา การป้องกันไว้ก่อนจึงย่อมจะดีกว่าไปคิดแก้ในภายหลัง
อ่านต่อ >> “วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่