เลือกรองเท้าให้ลูก อย่างไรให้เหมาะกับวัยกำลังหัดเดิน …โดยส่วนใหญ่เด็กจะเริ่มหัดเดินในช่วงอายุประมาณ 10-12 เดือน ซึ่งเมื่อแรกเริ่มหัดเดิน ลูกน้อยอาจจะยังไม่ต้องรีบใช้รองเท้า เพราะการเดินด้วยเท้าเปล่าบนพื้นซึ่งคุณแม่ได้จัดเตรียมไว้ จะช่วยให้ลูกเคลื่อนไหวอย่างอิสระ มีการฝึกทรงตัวที่ดีขึ้น และยังได้สัมผัสกับพื้นผิวที่แตกต่างกันไป เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับลูกน้อยได้อีกด้วย
แต่เมื่อลูกน้อยอายุ 1 ขวบขึ้นไป การเดินจะทำได้คล่องแคล่วขึ้น ประกอบกับเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย ทำให้บางครั้งลูกอาจเดินสำรวจไปมาจนคุณแม่คอยตามดูไม่ทัน และเกิดความกังวลได้ว่าพื้นผิวที่เท้าของลูกสัมผัสนั้นจะสะอาดเพียงพอไหม? ดังนั้นแล้วหากจะซื้อรองเท้าให้ลูกวัยหัดเดินนี้ จะต้องเริ่มต้นอย่างไรดี Amarin Baby & Kids มีวิธีเลือกรองเท้าคู่แรกให้ลูกวัยหัดเดินมาฝาก
หากลูกเริ่มหัดเดินแล้ว ขณะอยู่ในบ้าน ควรเป็นเท้าเปล่า ด้วยเหตุผลดังนี้
1.ให้ลูกฝึกการลงน้ำหนักเท้าและการทรงตัวที่ถูกต้อง
2.ให้ลูกได้รู้สึกถึงผิวสัมผัสของพื้น ได้พัฒนากล้ามเนื้อเท้าและนิ้วเท้าด้วย
3.เพื่อให้เท้าไม่ถูกจำกัดการเคลื่อนไหว และ จำกัดการเจริญเติบโตของเท้า
วิธี เลือกรองเท้าให้ลูก
1. ขอขนาดพอดี
พอดีหรือไม่ให้ดูตอนใส่แล้วยืน น้ำหนักตัวจะลงที่เท้าทั้งสองข้าง ขณะเดียวกันลองลูบบริเวณน่องของลูกจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาและช่วยให้นิ้วเท้าไม่งอ เพราะเด็กที่ยังไม่คุ้นกับรองเท้ามักจะติดงอนิ้ว เมื่อลูกสวมรองเท้าแล้ว ลองทดสอบความพอดีกันดังนี้
- ความกว้าง ทดสอบโดยจับด้านข้างรองเท้าตรงส่วนกว้างที่สุด ลองบีบ ถ้าตัวรองเท้าถูกบีบได้เล็กน้อยแสดงว่ากว้างพอดี ถ้าบีบแล้วพับเข้ามาเลย แสดงว่ากว้างเกินไป และถ้าบีบเข้าหากันไม่ได้เลย แปลว่าคู่นั้นคับไป
- ความยาว ใช้นิ้วโป้งของคุณกดไปบนรองเท้าตรงนิ้วที่ยาวที่สุดของลูก (เด็ก / ผู้ใหญ่บางคนนิ้วชี้ /นิ้วกลางยาวกว่านิ้วโป้ง) ตามแนวขวางให้มีที่เหลือราว 1/2 นิ้ว หรือ เท่ากับความกว้างของนิ้วโป้งคุณที่กดลงไป จะเป็นความยาวที่พอดี จากนั้นดูนิ้วอื่นๆ ให้แน่ใจว่าในรองเท้ามีพื้นที่ให้นิ้วเท้าของลูกขยับหรือกระดิกได้สบายๆ
- ส้นรองเท้า ใช้นิ้วก้อยของคุณแทรกไประหว่างส้นเท้าและหลังรองเท้า ขนาดที่พอดีคือ คุณควรแทรกนิ้วได้พอดีๆ ถ้าแทรกนิ้วก้อยไม่ได้เลยหรือแน่นไป ถือว่าคู่นั้นเล็กไป จะเสียดสีกับส้นเท้าของลูก ถ้านิ้วก้อยคุณเลื่อนไปได้รอบคู่ แปลว่าคู่นั้นใหญ่ไป
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
2. ใช้งานได้
ถ้าลูกยังเดินไม่แข็ง ช่วยจูงให้เขาลองเดินกับรองเท้าที่เลือกนั้นสัก 2- 3 ก้าว เพื่อดูว่ารูปรองเท้าเป็นอย่างไรเวลาเดิน ลูกต้องลากเท้าหรือไม่ และส้นเท้าเลื่อนขึ้น – ลง หรือไม่
3. ตรวจดูเท้าหลังลองรองเท้าด้วย
ดูว่าเท้าของลูกไม่มีรอยกด รอยแดง จากรองเท้าไม่พอดี ถ้าสวมถุงเท้าลองถอดถุงเท้าแล้วตรวจดูเท้าลูก ถุงเท้าที่เหมาะกับลูก (และใส่ลอง) คือ ขนาดพอดี คู่ใหญ่หรือเล็กไปจะทำให้เป็นรอย และเสียดสีกับเท้าลูกได้ เนื้อผ้าไม่หนาหรือบางเกินไป ซับเหงื่อได้
4. ไม่ซื้อเผื่อโต
รองเท้าคู่ใหญ่มากจะทำให้เกิดการระคายเคือง และแผลพอง หรือ ทำให้ลูกหกล้มง่ายโดยไม่จำเป็นแถมเดินไม่สะดวก ไม่ส่งเสริมการเดิน เวลาเหมาะที่จะซื้อรองเท้าคู่ใหญ่ขึ้น คือเมื่อส่วนของรองเท้าที่เหลือตรงส่วนนิ้วที่ยาวที่สุดน้อยกว่าครึ่งนิ้วโป้งของคุณ
5. เวลาเหมาะสม
การเลือกรองเท้าต้องอาศัยความร่วมมือจากลูกอย่างมาก ควรเป็นช่วงที่ลูกอิ่มแล้ว ได้นอนแล้ว ช่วงที่คนในร้านไม่พลุกพล่านก็ยิ่งเหมาะ และจะพาตุ๊กตาเพื่อนสนิทของลูกไปด้วย เพื่อยืดเวลาให้เขาอยู่ในร้านนานขึ้นก็ได้
ทั้งนี้นอกจากเทคนิคการเลือกรองเท้าให้ลูกน้อยในวัยหัดเดินแล้ว ยังมีหลักเกณฑ์การเลือกรองเท้าที่ดี เพื่อช่วยปกป้องเท้าคู่น้อยๆให้กับหนูน้อยวัยกำลังซน ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
อ่านต่อ >> “คำแนะนำดีๆในการเลือกรองเท้าคู่แรกให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2
หลักเกณฑ์การเลือกรองเท้าที่ดีให้ลูกวัยหัดเดิน
- เลือกรองเท้าที่มีพื้นอ่อนทำจากวัสดุที่นุ่ม เบา และยืดหยุ่นได้ดี จะช่วยให้ลูกควบคุมเท้า และทรงตัวในขณะเดิน ได้มากกว่ารองเท้าที่มีพื้นแข็งค่ะ เพราะรองเท้าที่มีพื้นแข็งนั้นเมื่อไปเดินในที่ขรุขระ เท้าของเจ้าตัวเล็กก็จะบิดเบี้ยวไปมา ทำให้ควบคุมการเดินได้ยากกว่ารองเท้าพื้นอ่อน
- ระบายอากาศได้ดีรองเท้าที่ทำจากวัสดุพวกผ้าใบคุณภาพดี หนังฟอกเนื้อโปร่ง เหมาะกับบ้านเราที่อากาศร้อน รองเท้าที่โปร่งจะช่วยให้การระบายอากาศดี ไม่อับชื้นเวลาที่เหงื่อออกนะคะ
- เลือกรองเท้าเด็กที่กระชับคือมีสายรัดกระชับข้อเท้าและที่ส้นรองเท้า เพื่อช่วยประคองกล้ามเนื้อเท้าในเวลาเดิน จะช่วยให้ลูกเดินทรงตัวได้ดีขึ้น
- เลือกรองเท้าเด็กหัดเดินที่หัวไม่บีบซึ่งควรจะเป็นรองเท้าที่มีหัวกว้างๆ หรือป้านๆ เพื่อให้นิ้วเท้าแบออกได้เต็มที่ ไม่ถูกบีบ ยืดหยุ่นตามการเคลื่อนไหวของเท้า มิเช่นนั้นนิ้วเท้าของเจ้าตัวเล็กก็จะถูกกดให้งองุ้ม แล้วยังส่งผลต่อการเดินของลูกด้วยนะคะ
- ตรวจดูการตัดเย็บด้วยว่าด้านในต้องไม่มีรอยต่อตะเข็บหรือขอบแข็ง เพราะจะไปเสียดสีกับเนื้ออ่อนๆ ของเจ้าตัวเล็กทำให้เท้าเจ็บได้ค่ะ
- ถ้าเป็นรองเท้าคู่แรก อย่าเลือกรองเท้ามือสองที่เคยใช้มาแล้ว เพราะเด็กแต่ละคนรูปเท้าไม่เหมือนกัน และรองเท้าคู่นั้นอาจจะเปลี่ยนตามรูปเท้าเจ้าของเดิมไปแล้วก็ได้ค่ะ
- เท้าเด็กๆ โตเร็วค่ะคุณพ่อแม่ไม่ควรซื้อรองเท้าหัดเดินมาเก็บไว้หลายคู่นะคะ เพราะเด็กๆ โตเร็ว ขนาดของเท้าก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นมีแค่สองคู่ไว้ใส่สลับกัน เผื่อเวลาที่อีกคู่หนึ่งนำไปทำความสะอาดเจ้าตัวเล็กจะได้มีใส่ก็พอค่ะ
- มองหารองเท้าจากร้านที่ได้มาตรฐานเพราะจะมีรองเท้าที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งมีพนักงานที่เชี่ยวชาญคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ นอกจากนี้ แนะนำว่าควรพาลูกน้อยไปเลือกซื้อด้วยนะคะ ให้ลูกได้มีโอกาสลองใส่เดิน จะทำให้คุณแม่ได้รองเท้าที่เหมาะกับเท้าของลูก และเจ้าตัวเล็กเองก็ชื่นชอบด้วยค่ะ
- ควรพาลูกไปซื้อรองเท้าเด็ก รองเท้าหัดเดินในช่วงบ่ายของวัน เนื่องจากช่วงบ่าย-เย็น เท้าจะขยายออกประมาณ 5% จากขนาดปกติ การลองสวมใส่รองเท้าในช่วงนี้จะทำให้ได้รองเท้าที่ลูกสามารถสวมใส่ได้สบายตลอดวัน
- ให้ลูกทดลองสวมรองเท้าและเดินในร้านสักพัก เพื่อดูว่าลูกเจ็บเท้าหรือไม่
- ถ้าเป็นรองเท้าเด็กแบบผูกเชือก ต้องดูว่าเชือกยาวพอที่จะมัดปม 2 ชั้นได้ (หากมัดปมชั้นเดียว เชือกรองเท้าจะหลุดได้ง่าย)
- ถ้าเป็นรองเท้าเด็ก รองเท้าเด็กหัดเดินแบบใช้แถบตีนตุ๊กแก (Velcro Strap) ข้อดีคือสวมใส่ง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องเชือกหลุด แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ เด็กจะสามารถถอดเองได้ง่าย อาจทำให้ต้องคอยใส่รองเท้าให้ลูกบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม หากลูกยังเล็ก รองเท้า
แบบนี้ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ เพราะง่ายต่อการสวมใส่ และลูกก็ยังไม่สามารถถอดรองเท้าเองได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เพราะว่าการเลือกรองเท้าที่เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก เพราะจะทำให้การเดินมีความมั่นคง ปลอดภัย และยังช่วยปกป้องอันตรายที่มีต่อเท้า และหากลูกโตพอที่จะเลือกรองเท้าที่ลูกชอบได้เอง จะทำให้ลูกอยากใส่รองเท้า และ ทำให้ลูกเดินเองได้อย่างมีความสุข
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!