ในเด็กวัยแรกเกิดนั้น พัฒนาการต่าง ๆ สำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่จะสามารถเห็นความแข็งแรงของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วในวัยนี้ และพัฒนาการที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามคือ พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และ พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพัฒนาการขั้นพื้นฐานที่จะส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ต่าง ๆ ของลูกได้เลย
พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ของทารกวัยแรกเกิด ถึง 3 ปี
พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ คืออะไร?
ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Skills) คือ ความสัมพันธ์กันของอวัยวะต่าง ๆ รวมถึง กล้ามเนื้อบริเวณลำตัว แขน ขา พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ จะช่วยให้เด็กรู้จักการทรงตัว สร้างสมดุลให้กับร่างกายได้ มีความแข็งแรง มีความทะมัดทะแมง ความไวในการเปลี่ยนท่าทาง ได้แก่ การวิ่ง การคลาน การกระโดด เป็นต้น โดย พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ นี้จะเริ่มพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ โดยเริ่มตั้งแต่แรกเกิด และจะพัฒนาโดยเริ่มจากส่วนหัวไปสู่ส่วนขา โดย คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ซึ่งจัดทำโดย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึง พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และกล้ามเนื้อมัดเล็ก ดังนี้
- ชันคอ (1-3 เดือน) โดยจะเริ่มชันคอได้ชั่วขณะเมื่ออายุได้ 1 เดือน และชันคอได้ 45 องศาเมื่ออายุได้ 2 เดือน และสามารถชันคอได้ตั้ง 90 องศาเมื่ออายุได้ 3 เดือน พัฒนาการในช่วงนี้ จะใช้กล้ามเนื้อคอ แขน ประสานกัน
- พลิกคว่ำ พลิกหงาย (4-5 เดือน) โดยก่อนจะพลิกคว่ำ พลิกหงายได้นั้น ทารกควรที่จะชันคอได้แข็งและสามารถรับน้ำหนักของศีรษะของตัวเองให้ได้เสียก่อน ถึงจะเริ่มพลิกคว่ำ โดยการพลิกคว่ำนี้ เป็นการพัฒนากล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ลำตัวส่วนบนขึ้นไป และพัฒนาแขน ขา ไปพร้อม ๆ กัน
- นั่งได้ (5-7 เดือน) ทักษะในการนั่งนั้น การทรงตัวมีส่วนสำคัญในทักษะนี้ ดังนั้น ลูกควรฝึกทรงตัวไปพร้อมกับการพัฒนากล้ามเนื้อ ท้อง สะโพก และขา โดยในช่วงแรก ลูกอาจจะเริ่มนั่งโดยการใช้มือยันตัวเองเอาไว้ เมื่อลูกพร้อมที่จะทรงตัวแล้ว จะเริ่มปล่อยมือ จนสามารถนั่งหลังตรงได้
- คลานและเกาะยืน (7-9 เดือน) เมื่อลูกพลิกคว่ำ พลิกหงายจนคล่องแล้ว และสามารถทรงตัวจากการนั่งได้แล้ว และกล้ามเนื้อ คอ แขน มือ ท้อง สะโพก และ ต้นขา ก็จะเริ่มแข็งแรงขึ้นแล้ว ลูกก็จะอยากที่จะเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองแล้วค่ะ โดยลูกจะเริ่มจากท่านั่งแล้วเปลี่ยนมาอยู่ในท่าคลาน และค่อย ๆ เคลื่อนไหวได้เอง
(อ่านต่อ 7 ท่าคลานทารก เมื่อลูกน้อยคลาน ลูกเราคลานท่าไหนนะ)
- เกาะเดิน (10 เดือน) ในตอนนี้ พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ลงมาสู่ช่วงขาแล้วค่ะ โดยลูกจะใช้มือในการช่วยพยุงน้ำหนักแทนการใช้ขา เพราะยังใช้ขาได้ไม่คล่อง และกล้ามเนื้อบริเวณขายังไม่แข็งแรงพอ ในช่วงนี้ ลูกจะเริ่มใช้มือดึงตัวเองให้อยู่ในท่ายืน แล้วค่อย ๆ เกาะ โต๊ะ หรือ เก้าอี้ เพื่อเคลื่อนตัวไปด้านข้าง
- ยืนเอง หรือตั้งไข่ (12 เดือน) เมื่อกล้ามเนื้อขาเริ่มมีความแข็งแรงจากการเกาะเดินแล้ว ลูกจะเริ่มฝึกการทรงตัวโดยการใช้ขา สะโพก และ ลำตัว ผ่านการยืนนั่นเองค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ของทารกวัยแรกเกิด ถึง 3 ปี
พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก ของเด็กวัย 0-3 ปี
- เดินได้เอง (12-15 เดือน) เมื่อลูกตั้งไข่ได้ดีแล้ว ลูกจะเริ่มก้าวขา โดยในช่วงแรก ๆ จะก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็อาจจะเปลี่ยนไปอยู่ในท่านั่งและคลานแทน (เพราะเร็วกว่า) แต่เมื่อลูกเดินได้คล่องแล้ว ก็จะไม่ค่อยกลับมาคลานแล้วค่ะ เพราะลูกเตรียมพร้อมที่จะวิ่งแล้วค่ะ!
(อ่านต่อ ลูก 1 ขวบยังไม่เดิน ช้าไปไหม?)
- วิ่ง (18 เดือน) ช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องระวังกันอยู่ตลอดเวลา เพราะในช่วงนี้ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของลูกเริ่มทำงานประสานกันได้ทั้งร่างกายแล้ว ทำให้เด็กในวัยนี้ มีความสุขที่จะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา (ก็ร่างกายหนูพร้อมแล้วค่ะ/ครับ)
- เกาะราวขึ้นบันไดหรือเตะบอล (19-21 เดือน) โดยการเกาะขึ้นราวบันได จะเริ่มใช้เพียงขาข้างใดข้างหนึ่งก้าวนำขึ้นไปก่อน จะยังไม่สามารถใช้ขาทั้งสองข้างก้าวขึ้นบันไดสลับกัน และสำหรับการเตะบอล ลูกจะเริ่มใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก (ตา) ให้สัมพันธ์กันกับการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่
(อ่านต่อ 4 อุบัติเหตุไม่คาดฝันในบ้าน พ่อแม่ห้ามประมาท)
- ลงบันไดพร้อมเกาะราวหรือขว้างลูกบอล (2 ปี) เช่นเดียวกันกับ การเกาะราวขึ้นบันไดและการเตะบอล คือ เริ่มแสดงให้เห็นถึงการทำงานประสานกันระหว่างกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่
สำหรับทารกบางคน พัฒนาการอาจจะไม่ตรงตามที่ระบุไว้ อาจจะข้ามพัฒนาการบางขั้นตอนไปได้ เช่น ลูกไม่พลิกคว่ำ พลิกหงาย แต่กลับนั่งได้เร็ว เป็นต้น การข้ามขั้นตอนนี้ ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ แต่การช่วยเหลือที่มากจนเกินไปของพ่อแม่ ก็อาจะเป็นสาเหตุให้ลูกไม่มีโอกาสในการพัฒนากล้ามเนื้อในด้านนั้น ๆ จนทำให้เกิดความล่าช้าได้ เช่น อุ้มลูกไว้ตลอดเวลา โดยไม่ปล่อยให้ลูกได้มีโอกาสได้คลานหรือนั่งเองเลย เป็นต้น ดังนั้น พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกมีโอกาสเคลื่อนไหว และใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของตนเองตาม วัย และหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกใช้รถหัดเดิน เพราะนอกจากไม่ได้ช่วยลูกให้เดินได้ด้วยตัวเอง แต่กลับยิ่งทำให้ มีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ล่าช้าได้ ลูกมักเดินด้วยปลายเท้า เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
วิธีสังเกตว่าพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ล่าช้าหรือเคลื่อนไหวผิดปกติหรือไม่?
แม้ว่าพัฒนาการของเด็กทารกแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจมีพัฒนาการบางอย่างล่าช้า แต่กลับมีพัฒนาการอีกอย่างที่พัฒนาได้รวดเร็วจนเกินไป ทางราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย จึงได้ให้ข้อสังเกตมาว่า หากลูกอยู่ในช่วงวัยต่อไปนี้ แล้วยังไม่สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ ควรรีบพาลูกไปปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและวางแผนการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
- อายุ 5 เดือน แล้วยังคอไม่แข็ง
- พลิกคว่ำ พลิกหงายได้ก่อนอายุ 3 เดือน
- มีความตึงตัวของกล้ามเนื้อน้อย เช่น รู้สึกว่าลูกตัวอ่อนผิดปกติ
- มีความตึงตัวของกล้ามเนื้อมากเกินไป เช่น ตัวเกร็ง อุ้ม จัดท่าได้ยาก เวลาจับยืนแล้วปลายเท้าชอบจิกพื้น เป็นต้น
- มีการถนัดของการใช้แขนขาข้างใดข้างหนึ่งก่อนอายุ 18 เดือน
พัฒนาการของเด็กในวัยแรกเกิดจึงถึง 3 ปี เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะบ่งบอกถึงความแข็งแรง และความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของคุณพ่อคุณแม่ ที่ได้เห็นลูกเจริญเติบโตอย่างสมวัยอีกด้วย
อ่านต่อบทความดี ๆ ได้ที่นี่
ระวังลูกนั่งหลังโก่ง-ค่อม เสี่ยงพัฒนาการช้า!
10 กิจกรรมเล่นกับลูก เสริมสร้าง พัฒนาการทารกแรกเกิด
ฝึกลูกนั่งกระโถน ก่อนวัย 1 ขวบ ด้วย 6 เทคนิคง่ายๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่