อยากให้ลูกมี ทักษะด้านภาษา ที่ดี แข็งแรงตั้งแต่ยังเล็ก … วิจัยชี้! แค่พ่อแม่ทำสิ่งนี้ รับรองดีแน่!
คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนหรอกใช่ไหมคะ ที่ไม่อยากให้ลูกพูดได้ไว ๆ ยิ่งยุคนี้สมัยนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าพูดได้ 2 ภาษา หรือ 3 ภาษานั้นยิ่งได้เปรียบ แต่ทว่ากว่าจะถึงวันนั้นคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านก็อาจจะยังเริ่มต้นไม่ถูก รู้เพียงอย่างเดียวว่า ตอนนี้ต้องสำรองเงินไว้เพราะเมื่อลูกโตขึ้นจะต้องให้เรียนพิเศษเยอะ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านภาษาด้วยแล้ว ยิ่งอัดภาษาได้มากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งสามารถมี ทักษะด้านภาษา มากขึ้นเท่านั้น
แต่ในมุมกลับกันนักวิจัยชาวต่างชาติก็ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการกระตุ้นทักษะด้านภาษาของเด็กพร้อมกับเปิดเผยถึงวิธีการกระตุ้นด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งผลการวิจัยจะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
ดร. วิคตอเรีย เหลียง หัวหน้า Baby LINC Lab ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษได้ทำการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นคู่แม่ลูก โดยลูกนั้นยังเป็นเด็กเล็ก ซึ่งรวมไปถึงเด็กทารกด้วย
โดยยกตัวอย่างวิธีการทดลองของแม่ลูกคู่หนึ่งโดย เฮเลน หนึ่งในคุณแม่ได้ร้องเพลงกล่อมให้ลูกสาว อันยา วัย 8 เดือนฟัง ซึ่งขณะที่ร้องเพลงนั้นก็มองสบตากันและกันไปด้วย หลังจากนั้น เฮเลน ก็ลองร้องเพลงกล่อมเพลงเดิม แล้วหันหลบสายตาของลูกไป
ซึ่งระหว่างการทดลองนั้น คู่แม่ลูกจะต้องสวมหมวกคลุมพิเศษที่ศีรษะที่มีเซ็นเซอร์หลายตัวติดไว้สำหรับตรวจจับสัญญาณสมองของทั้งคู่แม่ลูก เพื่อจะส่งสัญญาณต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการวิเคราะห์
จากการทดลองพบว่า คลื่นสมองของทั้งคู่นั้นมีความเท่าเทียมและขนานกันในเวลาที่ทั้งคู่สบตากัน และยังสามารถจับคลื่นได้อีกด้วยว่า ทารกนั้นมีระยะเวลาของการเปล่งเสียงตามและเป็นระยะยาว ทำให้ทีมนักวิจัยชี้ว่า สิ่งนี้อาจจะช่วยกระตุ้นทักษะด้านภาษาและการเรียนรู้ให้กับทารกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร. วิคตอเรีย กล่าวว่า นี่อาจแสดงให้เห็นว่า การสบตากันตรง ๆ ระหว่างทารกกับมารดา หรือผู้เลี้ยงดู สามารถช่วยกระตุ้นการพัฒนาด้านการสื่อสารและภาษาของทารกได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คะ ถ้าอยากให้ลูกของเราพูดไว พูดได้หลากหลายภาษา มีพัฒนาการที่ดีละก็ การพูดคุยกับลูกตั้งแต่ลูกยังเป็นทารกหรือตั้งแต่ลูกยังเล็กอยู่นั้น ก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ ไม่ต้องเสียเงิน อีกทั้งยังสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้นได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับพัฒนการทาง ทักษะด้านภาษา ของเด็กในแต่ละวัยมาฝากด้วยเช่นกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
พัฒนาการ ทักษะด้านภาษา ของเด็กในแต่ละวัย
พัฒนาการภาษาและการสื่อสารลูกน้อยวัยเตาะแตะ ถือเป็นวัยเริ่มต้นการอ่าน เพราะแม้เขาจะอ่านไม่ได้ และยังพูดไม่เก่ง สื่อสารได้เป็นคำ ๆ แต่ลูกก็สามารถจดจำใบหน้า และเสียงของคุณแม่ได้อย่างรวดเร็ว นี่คือโอกาสทองของการสร้างความผูกพันกับหนังสือและการอ่าน เพราะเมื่อไหร่ที่พ่อแม่อ่านนิทานให้ลูกน้อยวัยนี้ฟัง เขาจะเริ่มเข้ามาใกล้ชิด และนั่งฟังอย่างถูกมนต์สะกดเลยทีเดียวค่ะ
พัฒนาการภาษา เด็ก 1-2 ขวบ: เด็กวัยนี้ไม่ใช่เด็กทารกแบเบาะอีกแล้วนะคะ ลูกสามารถทำได้หลายอย่างมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
- บอกจำนวนได้
- รู้คำศัพท์ราว 300-500 คำ
- จำหนังสือเล่มโปรดจากปกได้
- ทำท่าเหมือนอ่านหนังสือเป็น
- รู้ว่าถือหนังสืออย่าไร
- ชี้หรือบอกชื่อสิ่งของที่รู้จักจากภาพในหนังสือได้
- ชอบฟังเรื่องหลากหลาย
- เข้าใจประโยค
- สามารถพูดประโยคยาว 4-5 คำได้
พัฒนาการทางภาษา เด็ก 3 ขวบ:
- บอกชื่อสีต่าง ๆ ได้ถูกต้อง
- พอเข้าใจเรื่องการนับจำนวนและอาจนับได้นิดหน่อย
- เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ
- จดจำเรื่องที่ฟังได้พอสมควร
- สามารถพูดประโยคยาว 5-6 คำได้
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่อย่างเราในการช่วยกันเสริมสร้างสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นให้กับลูก ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่น่าสนใจก็คือ การเล่านิทานก่อนนอน นั่นเองค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ลูกฝันดีแล้ว ในช่วงเวลาสงบ ๆ อันปราศจากสิ่งรบกวนรอบข้าง ก็ช่วยทำให้ลูกมีสมาธิในการเรียนรู้มากขึ้นตามไปด้วย
ขอบคุณที่มา: VOA Thai
เรียบเรียงโดย ฝ่ายบรรณาธิการ Amarin Baby and Kids
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่