ดร. วิคตอเรีย เหลียง หัวหน้า Baby LINC Lab ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษได้ทำการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นคู่แม่ลูก โดยลูกนั้นยังเป็นเด็กเล็ก ซึ่งรวมไปถึงเด็กทารกด้วย
โดยยกตัวอย่างวิธีการทดลองของแม่ลูกคู่หนึ่งโดย เฮเลน หนึ่งในคุณแม่ได้ร้องเพลงกล่อมให้ลูกสาว อันยา วัย 8 เดือนฟัง ซึ่งขณะที่ร้องเพลงนั้นก็มองสบตากันและกันไปด้วย หลังจากนั้น เฮเลน ก็ลองร้องเพลงกล่อมเพลงเดิม แล้วหันหลบสายตาของลูกไป
ซึ่งระหว่างการทดลองนั้น คู่แม่ลูกจะต้องสวมหมวกคลุมพิเศษที่ศีรษะที่มีเซ็นเซอร์หลายตัวติดไว้สำหรับตรวจจับสัญญาณสมองของทั้งคู่แม่ลูก เพื่อจะส่งสัญญาณต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการวิเคราะห์
จากการทดลองพบว่า คลื่นสมองของทั้งคู่นั้นมีความเท่าเทียมและขนานกันในเวลาที่ทั้งคู่สบตากัน และยังสามารถจับคลื่นได้อีกด้วยว่า ทารกนั้นมีระยะเวลาของการเปล่งเสียงตามและเป็นระยะยาว ทำให้ทีมนักวิจัยชี้ว่า สิ่งนี้อาจจะช่วยกระตุ้นทักษะด้านภาษาและการเรียนรู้ให้กับทารกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร. วิคตอเรีย กล่าวว่า นี่อาจแสดงให้เห็นว่า การสบตากันตรง ๆ ระหว่างทารกกับมารดา หรือผู้เลี้ยงดู สามารถช่วยกระตุ้นการพัฒนาด้านการสื่อสารและภาษาของทารกได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คะ ถ้าอยากให้ลูกของเราพูดไว พูดได้หลากหลายภาษา มีพัฒนาการที่ดีละก็ การพูดคุยกับลูกตั้งแต่ลูกยังเป็นทารกหรือตั้งแต่ลูกยังเล็กอยู่นั้น ก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ ไม่ต้องเสียเงิน อีกทั้งยังสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้นได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับพัฒนการทาง ทักษะด้านภาษา ของเด็กในแต่ละวัยมาฝากด้วยเช่นกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ