คำสอนหลวงพ่อจรัญ ช่วยได้!! หากบ้านไหนมีลูกดื้อ หรือเกเร จนนำความทุกข์แสนสาหัสใจมาให้แก่คนเป็นพ่อเป็นแม่ ซึ่งแม้จะสรรหาวิธีแก้ไขมามากมาย แต่ก็จนปัญญาแก้ไม่ได้ ลองดูคำสอนวิธีแก้จากหลวงพ่อจรัญ ซึ่งท่านได้มอบคาถาเด็ดไว้ให้ แก่คนเป็นพ่อเป็นแม่ เพื่อให้นำไปใช้แก้ไขเมื่อมีลูกดื้อ
จาก คำสอนหลวงพ่อจรัญ ที่ท่านเคยฝากไว้ว่า “ลูกไม่ดี แก้ที่พ่อแม่ , พ่อแม่ไม่ดี แก้ที่ลูก”
เพราะสถาบันครอบครัว ถือเป็นสถาบันหลัก ที่มีพ่อ แม่ ลูก ซึ่งนับเป็นสายใยความผูกพันเชื่อมโยงกัน การพัฒนาสถาบันครอบครัวให้ดี จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะมีส่วนในการสร้างสังคมให้สงบสุขตามมาด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม… หากครอบครัวใดมี ลูกเหลวไหล เป็นเด็กเกเร ผู้ที่แสนจะทุกข์ใจที่สุด ก็คือ พ่อแม่
เพราะในทุกครอบครัวมักมีปัญหาการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานความแตกต่าง ปัญหาที่ทำให้ครอบครัวไม่มีความสุข มักเกิดจากขาดความรัก ความผูกพัน แก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ เกิดความเครียด ซึ่งปัญหาเหล่านี้นั้นถือเป็นเวรกรรมของใคร พ่อ แม่ หรือว่าลูก!!!
คำถามนี้พ่อแม่ทุกคนควรกลับมาคิดว่า เราสร้างความไม่ดีไว้กับลูกหลาน รักเค้าไม่ถูกวิธี หรือทำความไม่ดีให้ลูกเราเห็นหรือไม่? ซึ่งความไม่ดีต่างๆ ที่ทำกับพ่อแม่นั้น อาจทำให้ลูกหันมาเถียงพ่อแม่ ซึ่งนั้นก็เป็นผลทำให้ลูกไม่เจริญ รับราชการก็ไม่ก้าวหน้า ค้าขายก็ขาดทุน เอาดีไม่ได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับบทของกฎหมายที่มีโจทย์ จำเลย เมื่อผู้ใดลงมือทำผิดจะถูกกำหนดโทษ มีคำยืนยันจากเอกสาร ศาลเป็นผู้ตัดสินเรื่องราวก็จบ แต่การดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่กฎหมาย เพียงแค่คิดไม่ดีก็บาปแล้ว แม้จะไม่ได้ลงมือกระทำก็ตาม
ซึ่งหากพ่อแม่ยอมรับตรงนี้ได้ ก็ให้เริ่มเรียนรู้และเข้าใจลูกว่าเด็กทุกคนจะเรียบร้อยเหมือนกันไม่ได้ บางคนไหว้พระสวดมนต์ อ่อนน้อมถ่อมตน บางคนก้าวร้าว ซึ่งทั้งหมดนั้นมาจากไหน?……ตอบได้ชัดเจนเลยว่ามาจากสิ่งแวดล้อมของพ่อแม่
ถ้าสิ่งแวดล้อมของพ่อแม่ไหว้พระสวดมนต์ ลูกก็สวดเองตามอัตโนมัติ บ้านก็เป็นสุข ดังนั้นการสอนลูกให้ดี พ่อแม่สำคัญต้องสอนเขาด้วยความดีที่เราทำ ให้การศึกษา อบรมสั่งสอน รักครอบครัว รักผู้อื่นมากกว่ารักตัวเอง เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น สร้างตัวให้ดี ดูแลลูกให้ได้ และรู้จักแผ่เมตตาให้ลูก ดังเช่นคำพระที่หลวงพ่อจรัญท่านเคยว่าไว้ “กันอยู่ที่แม่ แก้อยู่ที่พ่อ ก่ออยู่ที่ลูก ปลูกอยู่ที่ครู ความรู้อยู่ที่ศิษย์ จะได้เป็นมิตรกัน ”
ถ้าพ่อแม่ไม่ดี ลูกก็จะก่อเรื่องนำความทุกข์มาให้ ถ้าในครอบครัวมีแม่ดีสักคนลูกก็ต้องได้ดี การที่พ่อแม่ดำรงตนอย่างมีสติ ดำเนินตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า รู้จักการสวดมนต์ อธิษฐานจิต สมาธิ ภาวนา เพียงแค่สวดบทพุทธคุณ พาหุงมหากา คาถาสมเด็จพระนพรัตน์ วัดป่าแก้ว ถวายพรชัยมงคล สมเด็จพระนเรศวรไม่เคยแพ้ทัพ (คำกล่าวของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หลวงพ่อจรัญ) ปัญหาทุกอย่างมีทางออก อยู่ที่ใครจะเลือกวิธีใด
อ่านต่อ >> “คำสอนหลวงพ่อจรัญ คาถาเด็ด! “แก้ลูกดื้อ เกเร” พลิกชีวิตดี ทั้งครอบครัว” คลิกหน้า 2
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- ลูกดื้อมาก เอาแต่ใจ ปราบได้ง่ายๆ แค่เริ่มต้นที่ พ่อแม่!
- เหตุผลดี 7 ข้อ ของการมีลูกดื้อ!
- เปลี่ยน จากติดสินบนลูก เป็น ทำข้อตกลง กันเถอะ
- ใช้ธรรมะสอนลูกอย่างไร ให้เป็นคนดี! โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นคนดี ซึ่งสิ่งสำคัญคือ พ่อแม่ต้องสอนตัวเองให้ได้ จากนั้นอย่าให้ลูกอยู่ว่าง เพราะการที่เด็กอยู่ห่างจากผู้ใหญ่จะหลงทางได้ง่าย ต้องเสียใจภายหลังแก้ไขอะไรไม่ได้ อย่าตามใจตัว ไม่รู้จักฝืนใจ เพราะคนที่เลวร้ายคือคนที่ทำอะไรตามใจตัว กลัวความลำบากความยากจะเกิดขึ้น ส่วนคนไม่ตามใจตัว ไม่กลัวความลำบาก ฝืนใจไปสู่ความดีได้
มีพ่อแม่หลายคนปล่อยให้ลูกทำตามใจตัวเอง แล้วตัวเองก็ตามใจด้วย รับรองลูกไม่ได้ดีแน่นอน พยายามให้ลูกได้เรียนหนังสือ จะยากดีมีจนก็ต้องให้ลูกมีสติปัญญา ซึ่งหลวงพ่อจรัญได้ยกตัวอย่างครอบครัวหนึ่งซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาลูกดื้อเกเร ได้ผลชะงัด
…มีพ่อแม่เป็นจับกังหาเช้ากินค่ำ อดทนหาเงินส่งลูกเรียน เวลาว่างพาลูกสวดมนต์ ภาวนาเจริญพระกรรมฐานลูกทุกคนได้ดีหมด กับอีกครอบครัว พ่อเป็นนายพล เป็นเศรษฐีตามใจลูก ไม่สอนให้รู้จักผิดถูก ให้ท้ายลูกเพราะทนให้คำตำหนิลูกไม่ได้ ลูกเสียอนาคตทุกคน
ขอให้ทุกคนในฐานะพ่อ แม่ ลองปฏิบัติตนก่อน เริ่มจากการสวดมนต์แผ่เมตตา นั่งกรรมฐาน ให้รู้จักตนเองก่อนจึงค่อยสอนลูก คำว่า ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่ พ่อแม่ไม่ดีแก้ที่ลูก ดังเช่น สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่ พ่อแม่กินเหล้าเมายา สอนลูกเป็นโจร ต้องแก้ที่ลูก ให้ลูกสร้างแต่ความดี
เพราะการเข้าวัดให้พระช่วยไม่ใช่การแก้ปัญหา ท่านช่วยเราไม่ได้ นอกจากชี้แนะหนทางให้เรา ทำหน้าที่ของความเป็นมนุษย์เท่านั้น พ่อแม่ทำดีให้ลูกเห็น พ่อแม่ไม่มีกรรมฐาน ไม่มีศีล สมาธิ ปัญญา จะสร้างแต่ความไม่ดีให้กับลูก เช่น ทะเลาะกัน ดื่มเหล้า เล่นการพนัน ให้ลูกดูให้ลูกเห็นเป็นประจำ ลูกก็จดจำเป็นกฎแห่งกรรมต่อไปเป็นทอด ๆ
ซึ่งการพาลูกหลานหัดสวดมนต์ ลูกจะว่านอนสอนง่าย แต่หากลูกกระด้าง ก็มาจากพ่อแม่ไม่ดี ไม่เคยสอนลูกสวดมนต์ไหว้พระ ลูกจะมีระเบียบวินัยได้อย่างไรในเมื่อพ่อแม่ยังไม่มีระบบจะให้ลูกเขามีระเบียบยังไม่ได้ ไม่ติดตามดูแลลูก ผลงานร้อยก็ออกมาจากลูกเขาด้วยพ่อแม่นั่นเอง ถ้าพ่อแม่ดีมีปัญญา ลูกหลานดีหมด พ่อแม่ไม่มีเหตุผล ลูกก็เสียหมด
อานิสงส์ของการสวดพุทธคุณ
พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือ หลวงพ่อจรัญ ท่านได้กล่าวว่า บางคนเชื่อโชคลาง เคราะห์ร้าย ท่านจึงตั้งตำราขึ้นมาด้วยสติ บอกว่าโยมไปสวดพุทธคุณเท่าอายุให้เกินกว่า 1 ให้ได้ เพื่อให้สติดี แล้วสวดพาหุงมหากาฯ หายเลย สติก็ดีขึ้น เท่าที่ใช้ได้ผล คือ สวดตั้งแต่ นะโม พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ จบแล้วย้อนกลับมาข้างต้น เอาพุทธคุณห้องเดียว ห้องละ 1 จบ ต่อ 2 อายุ เช่น อายุ 20 สวด 21 ก็ได้ผล เมื่อมีสติเราจะรู้จักเหตุและผล
ทั้งนี้ท่านยังได้ยกตัวอย่างถึง การสวดพุทธคุณกับชาวคริสต์ มีเศรษฐีหลายพันล้านส่งลูกไปเรียนเมืองนอก ลูกผลาญเงินทองไม่กลับมาบ้าน เรียนก็ไม่จบ เขานับถือศาสนาคริสต์ ท่านกลุ้มใจ บังเอิญมีเหตุได้พบกับหลวงพ่อเขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดเพื่อระบายและให้หลวงพ่อช่วย ท่านก็บอกว่าช่วยไม่ได้นอกจากให้ท่านกลับไปสวดพุทธคุณมากกว่าอายุโยม 1 จบ เศรษฐีตอบว่า ทำไม่ได้ นับถือคริสต์ท่านจึงแนะนำให้ไปสวดมนต์ปฏิบัติแบบชาวคริสต์เขาก็บอกว่า ไม่เคยทำ หลวงพ่อจึงเลิกแนะนำ อยู่มา 5 เดือน เศรษฐีผู้นี้กลับมาหาหลวงพ่อ บอกว่า ฉันยอมทำตามที่หลวงพ่อบอก หลวงพ่อให้ไปซื้อหนังสือสวดมนต์เล่มหนึ่ง เขาบอกว่าเขาไม่อยากให้มีหนังสือสวดมนต์ในบ้านและไม่สามารถนั่งสวดมนต์ได้ หลวงพ่อแนะนำท่านจึงเขียนบทสวดมนต์ลงในกระดาษ เขาบอกเขาไม่ได้นับถือพระจะสวดได้หรือ หลวงพ่อจึงบอกอุบายว่า ท่านเอาไปนอนอ่านให้ครบ 51 จบ เท่าอายุเกิน 1 จบ เป็น 52 จบดูก่อน เสร็จแล้วค่อยแผ่เมตตาให้ลูก อย่าดุด่าลูก อย่าแช่งลูก อวยพรให้ลูกมีความเจริญก้าวหน้า ให้ลูกตั้งใจเรียนหนังสือให้สำเร็จ โยมผู้นี้สวดไปได้ 3 เดือน เกิดอานิสงส์ 2 ประการ
- โรคประสาทหาย กินได้ นอนหลับ สวดมนต์ไปรอให้บุญกุศลไปถึงลูกจน 6 เดือนลูกของโยมผู้นี้ขับรถไปชนเสาไฟฟ้า เพื่อกระเด็นออกหมดเหลือแต่ลูกของโยมอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้า เสาล้ม เสียเงินหลายแสน อาการโคม่าเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้สึกตัว ใครเห็นคิดว่าวันนี้ไม่รอดแน่ แต่ก็สามารถผ่านไปรุ่งขึ้นลืมตาได้ร้องหาแม่ คิดถึงแม่ถึงเวลาใกล้ตาย
- ลูกคิดถึงแม่ กลับมาหาแม่ โยมผู้นี้พาลูกชายมาพบหลวงพ่อ จึงได้สวดภาวนาเข้าวัดไทยและนั่งกรรมฐานที่เมืองนอก
จากเหตุการณ์นี้เป็นการสอนโดยใช้ธรรมะเป็นเครื่องนำทาง ขอให้พ่อแม่ทุกคนตั้งสติ สำรวจและสอนตัวเองให้ได้ เพื่อที่จะได้สอนลูกให้เป็นคนดี การสวดมนต์ไม่ว่าบทใด ศาสนาใด การสวดมนต์ เจริญภาวนา เพื่อให้มีสติและเกิดปัญญา สามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง ตรงจุด ไม่เกิดทุกข์ เข้าใจลูกและผู้อื่นได้มากกว่าการสอนเขาด้วยการเปรียบเทียบต่างๆนานา ขอแค่พ่อแม่พาลูกสวดมนต์ภาวนาให้ได้ความสุขเกิดขึ้น แน่นอนปัญหาต่างๆไม่เกิดเพราะมีสติ แยกแยะสิ่งผิดถูกชั่วดี รู้จักปล่อยวาง ยอมรับความจริงที่เชื่อว่ากรรมเกิดจากการกระทำของเราทั้งสิ้น ไม่มีใครหยิบยื่นหรือแก้ไขแทนกันได้ นอกจากการสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตา ปฏิบัติสมาธิ เพื่อแก้ไขเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ จากหนักก็เป็นเบา ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องไม่เบียดเบียนใคร นั่นแหละคือ ความดีที่พ่อแม่เป็นผู้หยิบยื่นให้แก่ลูก
“ ปัญหาแก้ไขได้ด้วยธรรมะ
พ่อ แม่ ลูก จะร่วมกันใช้ธรรมะ
แก้ปัญหาได้อย่างไร จึงจะไม่หนีปัญหา
และไม่สร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
เมื่อมีสติ จะเกิดปัญญา แก้ไขปัญหาชีวิตได้
ด้วยการใช้ธรรมะ ”
อ่านต่อ >> “บทสวด นะโม พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากา
จากคำสอนหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน” คลิกหน้า 3
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 10 วิธีรับมือ ลูกดื้อ ตามแบบฉบับคุณแม่ยุคใหม่!
- สร้างวินัยเชิงบวก ให้ลูก ป้องกันลูกดื้อ ด้วยเทคนิคง่ายๆ จากหมอ!
- 4 วิธีปราบลูกดื้อ วางอำนาจ เอาแต่ใจ จากนักจิตวิทยาต่างประเทศชื่อดัง (มีคลิปเหตุการณ์จริง)
- ชมคลิป นักจิตวิทยาต่างประเทศแนะ! วิธีแก้ปัญหาลูกดื้อ ตอน “หนูเป็นใหญ่ในบ้าน”
แหล่งอ้างอิง : จากคำกล่าวของ พระธรรมสิงหบุราจารย์ ( หลวงพ่อจรัญ ) หนังสือลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่ พ่อแม่ไม่ดีแก้ที่ลูก swis-acn.acn.ac.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทสวดมนต์
ด้านล่างนี้เป็นการสวดตามแนวหลวงพ่อจรัญ คือบูชาพระรัตนตรัย แล้วตั้งนะโม 3 จบ จากนั้นสวดไตรสรณคม์ สวดพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วตามด้วยพาหุงมหากา จบด้วยการสวดอิติปิโส (พุทธคุณ) เท่าอายุ + 1 จบ
อิมินาสักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
อิมินาสักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
อิมินาสักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปัณโณ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)
<<เริ่มสวด>>
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
๑. พุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ
๒. ธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ
๓. สังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
๔. พุทธชัยมงคลคาถา (ถวายพรพระ)
๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
* ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน – เม แปลว่าข้าพเจ้า)
อ่านต่อ >> “บทสวด มหาการุณิโก จากคำสอนหลวงพ่อจรัญ เพื่อแก้ปัญหาลูกดื้อเกเร” คลิกหน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
๕. มหาการุณิโก
มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา
ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง
นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ
พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ
จารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
* ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน – เม แปลว่าข้าพเจ้า)
กราบ ๓ ครั้ง เสร็จแล้วสวดเฉพาะพุทธคุณ ดังต่อไปนี้
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จาระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัม มะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
ให้สวดพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบ เช่น อายุ ๒๘ ปี ให้สวด ๒๙ จบ
เมื่อสวดพุทธคุณครบตามจำนวนจบที่ต้องการแล้ว จึงตั้งจิตแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลดังนี้
คาถาแผ่เมตตาตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ
บทกรวดน้ำ (อุทิศส่วนกุศล)
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข
อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข
อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข
อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
– ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข
<<จบบทสวด>>
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.jarun.org , www.84000.org