คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคนมักจะประสบปัญหาลูกตื่นบ่อย กล่อมหลับยาก ตื่นมากินนมทั้งคืน กันใช่ใหมล่ะคะ วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเทคนิค ฝึกลูกนอนเอง นอนได้ยาว โดยวิธี Cry it out มาฝากค่ะ
พ่อแชร์เทคนิคดี๊..ดี ฝึกลูกนอนเอง นอนยาว แบบ “Cry it out”
ทีมงานได้ขออนุญาตนำเรื่องราวจากคุณพ่อ Agent Molder ที่ได้เล่าถึงประสบการณ์การเลี้ยงลูกในเว็บไซต์ Pantip.com ที่ต้องอุ้มกล่อมลูกที่ร้องตื่นทุก 45 – 90 นาทีตลอดคืน เมื่อคุณพ่อและคุณแม่อดนอนมาก ๆ เข้า จึงได้ศึกษาการฝึกลูกให้รู้จักนอนได้เอง และนอนได้ยาว ด้วยวิธี Cry it out หรือจะเรียกได้ว่าเป็นวิธีการ หักดิบ นั่นเอง คือ การฝึกลูกให้นอนคนเดียว โดยหยุดการกล่อมและอุ้มกล่อมตลอดคืน เพื่อฝึกให้ลูกได้รับรู้การนอนได้เอง และไม่ควรจะตื่นขึ้นมากลางดึก ซึ่งวิธีการนี้เมื่อทำแล้ว จะเห็นผลได้ภายใน 3-5 วัน โดยลูกจะสามารถนอนได้เอง และไม่ตื่นขึ้นมาร้องกวนตอนดึกอีกเลย มาดูประสบการณ์ก่อนที่คุณพ่อจะตัดสินใจ ฝึกลูกนอนเอง นอนยาว ด้วยวิธี Cry it out กันค่ะ
คุณพ่อ และแม่มือใหม่หลายท่าน อาจเคยเจอ หรือผ่านตากับการสอนลูกนอนยาว โดยวิธี Cry it out มาบ้างนะครับ ผมเองก็เคย แต่ตอนที่ลองอ่านดูเนื้อหาการสอน มันดูทรมานจิตใจเหลือเกิน แต่สุดท้ายหลายๆกระทู้ หรือหลายๆบทความจากแต่ละเวบ ก็บอกเหมือนกันหมดว่า มันได้ผลดี และใช้เวลาสอนไม่นาน (3-5 วัน) ผมเลยลองดูและได้ผลที่ดีมากๆครับ ผมเลยอยากจะแชร์ เผื่อใครสนใจจะทำ แต่ไม่กล้า
เกริ่นก่อนเลยว่า ที่ผมใช้วิธีนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการแยกนอนกับลูก หรือจะสอนการใช้ชีวิตแบบฝรั่งนะครับ แต่ที่ทำเพราะลูกผมตื่นทั้งคืน!!! ณ ตอนที่ผมเริ่มวิธีนี้ ลูกผม 9 เดือนแล้ว ผู้หญิง ตื่นบ่อยมากกกกกกกกก เป็นแบบนี้มาตลอด 9 เดือน จนคนเป็นแม่ และพ่อ กำลังจะตายแล้วครับ โดยเฉพาะแม่ น่าสงสารมากๆ ตื่นบ่อยขนาดไหน เรียกว่าทุก 45 นาที ถึง 90 นาที เป็นเวลาต่อกัน 6 เดือน โดยลูกผมจะนอนตอน 2 ทุ่ม ก่อนนอนก็เดินกล่อมกันไป ให้นมแม่เสร็จ พ่อก็ต้องเดินกล่อม ใช่เวลากว่า 1 ชม.ในการกล่อม พอเริ่มนอนหลับ 2 ทุ่ม ก็จะตื่น 20.45, 21.30, 22.20, 23.30, 1.00, 2.30, 3.30-4.00, 5.00 แล้วก็ไม่นอนแล้ว เป็นแบบนี้ทุกคืน!!! ย้ำ ทุกคืนจริงๆครับ
ถ้ามีคำถามว่า งั้นลองใช้วิธีโน่น นี้ นั้น ไหม บลาๆๆ 108-1009 ผมทำมาหมดแล้วครับ ไม่ขอเอ่ยถึงละกัน รวมถึงปรึกษาแพทย์ด้วย ก็ไม่ได้ผล จนสุดท้ายเลยต้องลองวิธีที่ไม่อยากทำที่สุด นั่นคือ Cry it out ต้องขอบคุณ คุณภริม แห่ง blog Bonzaboo เลยครับ http://primlilboo.wixsite.com/bonzaboo ที่ทำให้ผมได้ลองวิธีนี้แบบจริงจัง เลองไปหาอ่านได้เลยครับ เป็นประโยชน์มาก ใน blog นั้นจะบอกละเอียดมากกกกกกกกกก แต่ผมขอยกที่ผมใช้เองมาเล่าสั้นๆแล้วกันครับ
เขาว่าดันว่าอายุที่เหมาะสมคือ 4-6 เดือน แต่ผมว่าตอน 4 – 6 เดือนนั้นลูกยังต้องการนมแม่ 100% และการทำวิธีนี้ลูกจะนอนยาวทั้งคืนโดยแทบไม่ตื่นเลย ถ้าเราไปควักลูกออกมากินนม เขาก็อาจจะตื่นก็ได้ แต่ถ้าทำจนได้ผลแล้ว ลูกจะไม่ตื่น แค่งัวเงียกินนมแล้วนอนต่อได้เอง อันนี้ก็แล้วแต่คุณละว่าจะฝึกตอนไหน ของผมเริ่มตอน 9 เดือนครับ แต่ก็แนะนำว่าไม่ควรรอจนเกิน 1 ปี เพราะลูกรู้เรื่องมากๆแล้ว จะไม่ยอมร่วมมือกับการฝึก และอาจใช้เวลานานมากกว่าจะฝึกสำเร็จ พ่อแม่ถอดใจก่อนแน่ครับ มาเริ่มฝึกกันเลย…
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เตรียมตัว ฝึกลูกนอนเอง นอนยาว แบบ Cry it out กันเถอะ!
ขั้นตอนการเตรียมตัว ฝึกลูกนอนเอง นอนยาว แบบ Cry it out
เพราะวิธีการนี้จะเป็นการหักดิบ คือจะไม่กล่อมลูกและไม่ตื่นมาคอยหรืออุ้มกล่อมลูกอีกเลย ดังนั้น แน่นอนว่าลูกจะต้องร้องแทบขาดใจแน่ ๆ เพราะจากที่ลูกเคยชินกับการมีคนมาคอยกล่อม กลับต้องฝึกนอนเอง แล้วทำไมลูกถึงต้องนอนเอง ทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงไม่กล่อมลูกไปเรื่อย ๆ ล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่า จากการวิจัย เด็กในวัย 6 เดือนขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องกินมื้อดึกแล้ว การนอนได้ยาวตลอดคืน นอกจากจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ยังช่วยให้ Growth Hormone หรือ ฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของลูก ได้ทำงานอย่างเต็มที่อีกด้วย ดังนั้น เด็กในวัย 6 เดือนขึ้นไปจึงไม่มีความจำเป็นต้องตื่นขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว แต่การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อย ๆ นั้น ไม่ได้เป็นเพราะหิว (ในกรณีที่ตอนกลางวันกินนมอย่างเพียงพอ) แต่เป็นเพราะเมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว กลับไปนอนต่อเองไม่ได้ เพราะไม่มีทักษะในการนอนต่อ!
การนอนต่อต้องใช้ทักษะ!
วงจรการหลับ ประกอบไปด้วยการหลับไม่ลึก(ครึ่งหลับครึ่งตื่น) ไปจนถึงหลับลึกแล้วกลับมาครึ่งหลับครึ่งตื่นอีกครั้งวนเวียนไปแบบนี้หลายๆรอบจนเช้า สำหรับผู้ใหญ่ในวงจรนึงจะยาวประมาณ 90นาที แต่ในเด็กจะยาวประมาณ 30-50นาทีเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่ทำให้เด็กตื่นบ่อย ๆ หรือหลับกลางวันแค่ครึ่งชั่วโมง เพราะว่าพอจบวงจรนึงแล้วในช่วงรอยต่อจากครึ่งหลับครึ่งตื่นแทนที่จะต่อไปหลับลึกแต่เด็กกลับกลายเป็นตื่นขึ้นมาเลยและกลับไปหลับต่อไม่ได้หรือได้แต่ใช้ความพยายามมากกว่าผู้ใหญ่ แล้วทำไมเด็กถึงหลับต่อไม่ได้ล่ะ? เพราะการทำให้ตัวเองหลับต้องใช้การฝึกฝน สำหรับเด็กทารกที่ไม่รู้ว่าหลับยังไงเค้าจะต้องการตัวช่วยทุกครั้งที่หลับ เช่น จุกหลอก ดูดนมแม่ แกว่งให้หลับ อุ้มให้หลับ ตบก้น เขย่าขา กัดผ้าเน่า เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกให้ลูกได้นอนหลับเองให้เป็น ฝึกลูกนอนเอง ได้ดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เตียงนอนเด็ก ไม่ว่าจะเป็นแบบไม้ซี่ ๆ หรือ แบบพลาสติก (Playpen) หรือจะเป็นเตียงนอนแบบไหนก็ได้ที่มีคอกกั้นไม่ให้เด็กปีนออกมาได้ และต้องเป็นเตียงที่จะต้องมั่นใจได้ว่าเมื่อลูกร้องหรือเขย่าเตียง ก็จะไม่หล่นออกนอกเตียงหรืออาจจะมีอุบัติเหตุอื่น ๆ ได้ เช่นไม่ควรมีผ้าห่มหนา ๆ อยู่ในเตียง ซี่ไม้ระหว่างเตียงต้องไม่ห่างกันจนลูกเอาหัวออกมาได้ เป็นต้น
- เสียง White Noise ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงแอร์ เสียงฝนตก หรือเสียงฮัมเพลงเบา ๆ ข้อดีของไวท์น๊อยซ์ คือช่วยเลียนแบบเวลาทารกอยู่ในท้องแม่ ในท้องแม่จะมีเสียงด้งมาก ๆ ตลอดเวลามันทำให้เค้าอบอุ่นและรีแลกซ์เพราะสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย
- Baby monitor เอาไว้คอยดูลูก อันนี้สำคัญมาก เพราะตอนเราทำ เราต้องออกมานอกห้อง และต้องคอยดูเจ้านี่ไว้ ไม่ให้ลูกเกิดอันตราย แต่ถ้าไม่อยากซื้อเพราะ baby monitor มันแพง ก็ซื้อกล้อง IP Cam แทนได้ เพราะสามารถดูผ่านมือถือได้ทั้งพ่อแม่เลย คุณพ่อก็ใช้ IP Cam ในการดูลูก
อุปกรณ์พร้อมแล้ว มาวางแผนกันก่อน ฝึกลูกนอนเอง
ก่อนจะเริ่ม ฝึกลูกนอนเอง คุณพ่อคุณแม่ควรวางแผนก่อนค่ะ โดยคุยกันก่อนว่าใครที่น่าจะทนไม่ไหวหากลูกร้องไห้นาน ๆ ก็ควรจะแยกห้องไปนอนที่ ๆ ไกลเสียงร้องของลูก และควรจะเลือกวันที่ไม่มีแฟนคลับ นั่นก็คือ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย มาอยู่ด้วย เพราะแผนการที่วางไว้อาจจะเสียได้เพราะความใจอ่อนของแฟนคลับนั่นเองค่ะ (ในกรณีที่อยู่บ้านเดียวกันกับแฟนคลับ ควรทำความเข้าใจกันก่อนว่าวิธีนี้จะช่วยให้หลานได้นอนยาวนอนเป็น
เมื่อวางแผนแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียมก็คือ “ใจ” และการเตรียมการอย่างอื่น ๆ จะบอกว่า 90% ของความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับใจของคุณพ่อคุณแม่ สำคัญมากๆๆๆๆๆ เพราะในช่วง 3 วันแรก ลูกจะร้องหนักมาก มากแบบไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าพ่อแม่ “ใจ” ไม่แข็งพอ ทุกอย่างจบครับ ส่วนเรื่องการเตรียมอื่น ๆ ก็ได้แก่
- ทำกิจวัตรต่างๆให้เป็น step ก่อนเข้านอน กินข้าวเย็น อาบน้ำ อ่านนิทาน หรือใครที่เคยทำอะไรก่อนนอนอยู่แล้ว ให้ทำตามเดิมได้ ไม่ต้องไปเปลี่ยน เดี๋ยวลูกงง
- ปิดไฟในห้องให้มืด(หรือสลัวๆ) ทำบรรยากาศให้น่านอน เหมือนที่เรานอนกันตามปกติ
- ในกรณีที่ต้องการแยกห้องนอน โดยให้ลูกไปนอนที่ห้องนอนใหม่ แนะนำว่าให้ไปนอนกับลูกในห้องนอนใหม่ด้วยกันก่อน ฝึกลูกนอนเอง 1 อาทิตย์ เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ รวมถึงการใช้ White Noise ควรเปิด White Noise ในเวลาที่ลูกนอน 1 อาทิตย์ก่อน ฝึกลูกนอนเอง เช่นกัน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เริ่มขั้นตอนการ ฝึกลูกนอนเอง
เริ่มขั้นตอนการ ฝึกลูกนอนเอง
- เตรียม “ใจ” ให้พร้อม มั่นคง หนักแน่น และตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องสำเร็จ ห้ามใจอ่อน แนะนำให้เขียนข้อดีของการ ฝึกลูกนอนเอง ไว้ใกล้ ๆ มือ เมื่อเริ่มอ่อนไหวให้อ่านข้อดีที่จดไว้
- เมื่อถึงเวลาเข้านอนตามปกติที่เราพานอน ให้ งด การกระทำทุกอย่างที่เราเคยทำอย่างหักดิบ ได้แก่ พวกอุ้มเดิน ให้นมแบบหลับคาเต้า เขย่าๆๆ อะไรก็แล้วแต่ให้งดเลย
- พอลูกเริ่มโยเยอยากนอน แต่ไม่ได้ดั่งใจ (เพราะเรางดทุกอย่างไปแล้วในข้อ 2 ) ก็ให้เอานอนลงเปลเด็ก วาง แล้วหันหลังเดินออกจากห้อง
- ลูกจะร้องแบบสาหัสสากันต์ ไม่ลืมหูลืมตา ร้องๆๆๆๆๆ 1 – 2 ชั่วโมง เราต้องใจแข็ง เวลาดูลูกผ่านจอ แนะนำให้ปิดเสียงไปเลย อย่าเปิดเสียง จะจิตตกมาก ๆ ทำใจยาว ๆ เลย คอยดูให้ลูกไม่เป็นอันตรายก็พอ ทีนี้ในข้อ 4 เราก็จะมีวิธีแนะนำอีก 2 วิธีในการทำใจ
4.1 Ignore คือไม่สนไม่แคร์ ปล่อยร้องไปเลย แบบนี้ต้องใจแข็งจริงๆ
4.2 Checked คือใช้วิธีเชคเป็นระยะ 10 นาทีเข้าไป ต่อมาอีก 15 นาที อีก 20 นาทีห่างขึ้นเรื่อย ๆ เวลาเข้าไปเชค ห้าม!! อุ้มลูก ให้นม สบตา เด็ดขาด ให้เข้าไป จัดที่นอน พูดเบา ๆ ว่านอนนะลูก พ่อแม่อยู่ตรงนี้นะดูหนูอยู่ พูดไปลอย ๆ มือก็จับเตียง จับผ้าอะไรไป อย่าจับตัวลูก ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที แล้วออกมาเลย (คุณพ่อก็ใช้วิธีนี้ครับ ทนใจแข็งไม่ไหว 555+ โดยลูกคุณพ่อก็ร้องๆๆๆ ทั้งปีนขึ้นมายืน ทั้งล้มลุกคลุกคลาน ตอนแรกเปิดเสียง สุดท้ายต้องปิดเสียง คุณแม่ร้องไห้เลยครับ เลยใช้วิธีเชค เข้าไปเชค 2 รอบ ตอน 15 นาที กับ 40 นาที พอครบ ชั่วโมง ลูกก็ฟุบลงและหลับไปเอง) - หากลูกร้องและอาเจียน ให้เข้าไปอุ้ม เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อ แล้วออกมาทันที ห้ามอุ้มโอ๋ ให้นมเด็ดขาด
- หากลูกหลับแล้วตื่นขึ้นมาใหม่ (ซึ่งในวันแรก บอกเลยตื่นแน่นอน) ลูกก็จะเริ่มต้นร้องใหม่ ให้ใช้วิธีเดิม คือคอยดู จะ ignore ก็ต้อง ignore ให้สุด ๆ จะเชค ก็เชคให้สม่ำเสมอ ห่างขึ้นเรื่อย ๆ ห้ามสลับไปมาเดี๋ยวลูกจะสับสนและจับได้
- ช่วงใกล้ ๆ เช้า บางทีลูกจะตื่นมาเอง ถ้าลูกตื่นใกล้เคียงเวลาที่เคยตื่น ก็ให้เข้าไปหาลูกได้เลย ไปให้นม ไปเล่นกับลูกอะไรก็แล้วแต่ ทำเหมือนตอนที่ลูกตื่นตามปกติ บางทีลูกอาจตื่นเร็วกว่าสัก ชม. นึง ก็ไม่เป็นไร เช่น ปกติลูกจะตื่น 7 โมง แต่ทำวิธีนี้ลูกตื่นตี 5 และไม่มีทีท่าว่าจะหลับแล้ว ก็เข้าไปเลย วันหลัง ๆ จะตื่นได้ยาวเอง
- จบวันแรก เริ่มวันที่สองให้ทำแบบเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่จะดีขึ้น เชื่อได้เลย ทุกสำนัก ทุกเวป แม้แต่ตัวคุณพ่อเองยืนยันเลยว่าวันที่สองดีขึ้นแน่นอน จากที่วันแรก ร้องอยู่เป็น ชม. วันที่สองจะสั้นลง ซึ่งตอนแรกคุณพ่อก็ไม่เชื่อ แต่มันก็จริง วันที่สองลูกคุณพ่อร้องแค่ 30 นาทีเอง แล้วกลับยาวยันตีสอง แล้วตื่นมาใหม่ แต่ก็ร้องอีก 15 นาทีก็หลับได้เอง ให้เราทำทุกอย่างเหมือนข้อ 4
- วันที่สาม ทำเหมือนเดิม เชื่อไหม ลูกคุณพ่อร้องแค่ 10 นาที แล้วหลับยาวยันเช้าเลย ตื่นมาตีสามนิดหน่อย แต่ไม่ร้อง แล้วนอนต่อได้เอง โดยวันที่สามคุณพ่อไม่ได้เข้าไปเลย
- ถ้าลูกป่วย ให้ยกเลิกทั้งหมด และกลับมานอนเฝ้าลูกเหมือนเดิม เพราะกลางคืนไข้อาจสูงได้ ต้องคอยวัดและเช็ดตัวกินยาลดไข้ตลอด ห้ามทำวิธีนี้ตอนลูกป่วยเด็ดขาด อันตราย ไข้สูงชักได้
จากประสบการณ์ที่คุณพ่อได้ลอง ฝึกลูกนอนเอง ด้วยวิธี Cry it out ได้ใช้เวลาฝึกเพียงแค่สามวัน จากตื่นทุก 45 นาที จากที่ร้องเป็นชั่วโมง แค่สามวัน ลูกร้องแค่ 10 นาที และนอนยาวยันตีสามรวดเดียว คุณพ่อคุณแม่จึงดีใจสุด ๆ และรู้สึกได้ว่ามาถูกทางจริง ๆ บางท่านอาจนานกว่านี้ แต่ส่วนมากไม่เกิน 5 วัน
แม่พริมาเองก็ ฝึกลูกนอนเอง โดยวิธีนี้เช่นกัน บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ทรมานใจแม่ ๆ เป็นอย่างมาก แต่กลับเป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็ว (ลูกของแม่พริมาร้องเพียงแค่ 1 วัน ก็นอนยาวได้เลย) ลูกไม่ต้องร้องงอแงหลาย ๆ วัน และ ลูกก็นอนได้เต็มอิ่มตลอดคืนอีกด้วย สำหรับคุณแม่บางท่านอาจจะมองว่าวิธีนี้โหดไปหน่อย หรือยังอยากนอนกับลูกอยู่ ก็สามารถปรับวิธีการนี้ให้ตรงกับความสะดวกของแต่ละบ้านได้เลยค่ะ เช่น ฝึกลูกนอนเอง แต่นอนอยู่ในห้องเดียวกัน เป็นต้น เพราะการ ฝึกลูกนอนเอง นี้จะมุ่งเน้นไปที่การให้ลูกได้นอนเองโดยไม่ต้องกล่อม และไม่ต้องตื่นขึ้นมาร้องกลางดึกอีก
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ คลิก
ให้ลูกกิน นมผงผสมนมแม่ ในขวดเดียวกันได้หรือไม่?
18 ลักษณะลิ้นบอกโรค เพียงแค่ดูลิ้นลูก ก็รู้ได้ว่าป่วยหรือไม่?
ไอเดียสุดเจ๋ง ถุงมือแทนมือแม่แก้ ลูกติดมือ นอนหลับยาก
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ Agent Molder, http://primlilboo.wixsite.com/bonzaboo
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่