ลูกขโมยเงิน คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากจะเจอกับปัญหาแบบนี้แน่นอนค่ะ แต่ในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่คงต้องเคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้กันมาบ้าง แล้วถ้าไม่อยากให้ลูกมีนิสัยแบบนี้ พ่อแม่ควรทำอย่างไร วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำแนะนำจากจิตแพทย์เด็กมาฝากกันค่ะ
ถ้า ลูกขโมยเงิน พ่อแม่ควรทำอย่างไร?
เมื่อพูดถึงนิสัยการลักขโมยของเด็ก ต้องพูดถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ตอนนี้เลยค่ะ หลังจากที่เพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้มีการแชร์ภาพเด็กชาย 2 คน ถูกจับขึงพืด โยงมัดติดกับต้นไม้ พร้อมทั้งยังบอกอีกว่า เด็กชายทั้ง 2 คน ถูกฟาดด้วยไม้หรืออาจจะเป็นหางปลากระเบน อีกคนละไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดที่ วัดทุ่งเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
#เด็กขโมยเงิน200 #ถูกลงโทษด้วยการขังพืดกับต้นไม้ #แล้วฟาดการลงโทษเด็กแบบแปลกๆ ของผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งในวัดทุ่งเหียงครับ…
โพสต์โดย แหม่มโพธิ์ดำ เมื่อ 18 มีนาคม 2018
ซึ่งวัดแห่งนี้มีพระสงฆ์และสามเณรจำวัดเป็นปกติ และเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เด็กชาวไทยภูเขาด้วย ภายในวันนั้นมีทั้งเด็กชาย และเด็กหญิง ประมาณ 300 คน โดยมีเจ้าคุณพระมงคลโมลี เจ้าอาวาสวัดเป็นผู้ดูแล
จากภาพที่เผยแพร่ออกไป พบว่าเด็กทั้ง 2 คนที่ถูกทำโทษนั้น เป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ และอายุ 11 ขวบ สาเหตุที่ถูกทำโทษด้วยการขึงกับต้นไม้ เพราะจับได้ว่าขโมยเงินจำนวน 200 บาท ผู้กระทำคือ นายพันธ์ธัช ชวันธนา หรือที่เด็กๆเรียกว่า “ตายง” และนางณี ซึ่งเป็นภรรยา ลงโทษเอาตัวเด็กชายทั้ง 2 มัดติดกับต้นมะขาม จากนั้นก็เฆี่ยนตี พร้อมกับตะโกนบอกให้เด็กในวัดดูเป็นเยี่ยงอย่าง แต่เด็กก็ยังคงถูกตีไม่ยั้ง แม้จะรับสารภาพว่าขโมยเงินจริงตั้งแต่แรก
จากการที่มีการสัมภาษณ์ ตายง ได้ยอมรับว่าเป็นคนลงโทษเด็กจริง และที่ทำไปเพราะอยากทำให้ดูเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่อยากให้เด็กเหล่านี้มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย และชี้แจงว่าจับมัดเด็กกับต้นมะขามเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น รวมถึงทำไปเพราะโมโหที่เด็กไม่ยอมเชื่อฟัง
ด้านพ่อของเด็กชาย อายุ 8 ขวบ เมื่อรู้ข่าวว่าลูกตัวเองถูกทำร้าย ก็ไม่รอช้า รีบเดินทางจากฉะเชิงเทรามาที่วัดทันที พร้อมทั้งเผยว่า ลูกชายอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จนอายุ 8 ขวบ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีปัญหาอะไร เพราะทางวัดก็ไม่เคยแจ้ง แต่เมื่อมาทราบข่าวแบบนี้ ก็รับไม่ได้ที่มีคนมาทุบตีลงโทษลูก พร้อมยืนยันจะเอาผิดให้ถึงที่สุด
ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีชาวบ้านในละแวกนั้น รวมตัวกันเรียกร้องชูป้ายขับไล่ นายยง กับ นางณี ภรรยา โดยเมื่อปีที่แล้ว ก็เคยมีการขับไล่สามีภรรยาคู่นี้มาก่อน เพราะพบพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล ที่ยังคงต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์กัน แต่เจ้าอาวาสยังคงไว้เนื้อเชื่อใจให้ดูแลในวัด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้มีการรวมตัวขับไล่กันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดชลบุรี ได้นำเด็กทั้ง 2 คนที่ถูกมัดขึงกับต้นไม้ และถูกทุบตี เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรมเด็ก และกักขังหน่วงเหนี่ยวเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการสืบสวนต่อไป ส่วนเด็กชายทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กชายบ้านบางละมุงได้มารับตัว ไปดูแลเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจเรียบร้อยแล้วค่ะ
จากประเด็นข่าวนี้ทำให้มีหลายคน เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ต่างกันไป ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งจริงๆแล้วการลงโทษเช่นนี้กับเด็กเหมาะสมแล้วจริงหรือไม่? รศ.ร.อ.นพ. ศิริไชย หงษ์สงวนศรี จิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ความเห็นถึงประเด็นนี้มาด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพข้อมูลจาก www.amarintv.com / www.bugaboo.tv
จิตแพทย์เด็กแนะ พ่อแม่ควรทำอย่างไรถ้า ลูกขโมยเงิน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
จิตแพทย์เด็กแนะ พ่อแม่ควรทำอย่างไรถ้า ลูกขโมยเงิน
ด้าน รศ.ร.อ.นพ. ศิริไชย หงษ์สงวนศรี จิตเวชศาตร์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าวการทำโทษเด็กด้วยวิธีการตี และจับมัดขึงกับต้นไม้นั้น เรียกว่าเป็นการลงโทษที่ไม่เหมาะสมค่ะ
“เมื่อเด็กทำผิด การทำโทษที่รุนแรง เช่นการตี ที่ดูเหมือนรุนแรงและใช้อารมณ์ด้วย ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะโดยทั่วไปไม่สามารถแก้ปัญหาของเด็กได้ ถึงแก้ได้ก็จะเสียเรื่องของความผูกพันที่ดี การมีสุขภาพจิตที่ดี เด็กที่จะมีสุขภาพจิตที่ดีต้องเติบโตมาด้วยความรักความเมตตา ต้องมีการฝึกวินัยด้วย ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเป็นวิธีที่แก้ปัญหาการลักขโมยได้ ถึงแก้ได้ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ ซึ่งมีวิธีอื่นที่ดีกว่า”
แต่ในกรณีนี้ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ของเด็กโดยตรง คุณหมอก็ได้แสดงความคิดว่า คนๆนั้นอาจจะไม่ได้เข้าใจหลักในการเลี้ยงดูเด็กที่ถูกต้องเหมาะสม แต่ถ้าหากเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีปัญหา ลูกขโมยเงิน หรือลูกชอบลักขโมยของนั้น คุณหมอก็ได้แนะนำถึงวิธีการลงโทษที่เหมาะสม ซึ่งสรุปได้ดังนี้ค่ะ
1.อันดับแรกป้องกันก่อน ไม่ให้เด็กมีโอกาสที่จะขโมยของได้ โดยทั่วไปพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็มักจะคิดว่าเงินเราไม่เป็นไร ยังไงก็ให้ลูกหลานใช้อยู่แล้ว จะวางไม่ระวัง ทำให้เด็กสามารถหยิบเองได้ ซึ่งถ้าเด็กสามารถหยิบไปได้ง่ายๆ จะค่อยๆเป็นบ่อเกิดพฤติกรรมลักขโมยได้ เพราะฉะนั้น พ่อ แม่ต้องเก็บเงินให้ดีๆให้พ้นมือ เป็นการปิดโอกาสการกระทำผิด เป็นการป้องกันที่ดีที่สุด หากอยากได้จะต้องมาขอที่พ่อแม่ โดยที่ไม่ได้หยิบเอง
2. ถ้ามีพฤติกรรมขโมยแล้ว ต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งสาเหตุการขโมยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนน้อยเกิดจากไม่มีเงินจริงๆ ฐานะยากจน และจะไปขโมยคนคนอื่น ส่วนที่ขโมยเงินพ่อแม่ก็มีสาเหตุจาก พ่อแม่ไม่ได้ฝึกลูกในเรื่องของการใช้เงินที่เหมาะสม อยากได้อะไรก็ให้ หรือคนอื่นมี ลูกเราก็ต้องมี เป็นการฝึกว่าเค้าต้องมีของเพื่ออวดคนอื่น ใช้เงินฟุ่มเฟือย จะทำให้เด็กเคยชินกับการต้องมีของใช้ บางครั้งอาจจะเห็นแบบอย่างจากพ่อแม่ ที่เห็นคนอื่นมีก็ต้องอยากมีด้วย หรือบางครั้งอาจเกิดจากการแก้แค้นพ่อแม่ เช่น พ่อแม่ตีแล้วไม่รู้จะเอาคืนอย่างไร ก็ใช้วิธีการขโมย เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ก็แก้ไปตามสาเหตุ
3. ถ้าหากไม่รู้ว่าสาเหตุที่ ลูกขโมยเงิน หรือขโมยของ เกิดจากสาเหตุอะไรแน่ แต่จับได้แล้วว่าขโมย ควรบอกให้ลูกรู้เลยว่าเค้าหยิบเงินพ่อแม่ไป แต่จะไม่ใช้คำด้านลบ เช่น คำว่าขโมย อาจใช้คำว่า ลูกหยิบเงินไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำไม่ได้ ต้องเอาเงินนนั้นมาคืน ถ้าไม่ยอมคืน อาจใช้วิธีการหักเงินค่าขนมของลูกในระยะเวลาที่เหมาะสมก็ได้ เมื่อลูกเริ่มรู้สึกผิกก็ยกโทษให้ได้ เด็กจะได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำส่งผลกระทบกับตัวเองอย่างไร
4. เมื่อลูกขโมยเงิน หรือขโมยสิ่งของ อาจลงโทษด้วยการให้ลูกงดทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น งดดูทีวี งดเล่นเกมส์ โดยไม่ต้องใช้วิธีตี หรือใช้คำต่อว่ารุนแรง และใช้อารมณ์
5. บางครั้งพ่อแม่รู้แล้วว่าลูกขโมยเงิน แต่ไม่พูดตรงๆ ใช้วิธีพูดอ้อมๆ เพื่อให้ลูกสารภาพ ยอมรับผิดเอง ซึ่งถ้าพ่อแม่รู้แล้วไม่ต้องไปซักไซ้ เมื่อมีหลักฐานแน่นอน ให้บอกลูกตรงๆว่าเรารู้แล้ว การพูดอ้อมๆเพื่อให้ลูกรับผิดเอง ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม แล้วยังจะยิ่งทำให้เด็กจะกลายเป็นคนพูดโกหกด้วย เพราะการซักไซ้โดยธรรมดาของคนมักกลัวการถูกลงโทษ เด็กก็จะยิ่งโกหกไปเรื่อยๆ ดังนั้น ควรบอกไปตรงๆกับลูก
พ่อแม่ควรสอนลูกอย่างไร เพื่อไม่ให้มีนิสัยลักขโมย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
พ่อแม่ควรสอนลูกอย่างไร เพื่อไม่ให้มีนิสัยลักขโมย
การป้องกันไว้ก่อน ย่อมดีกว่าการแก้ไขจริงไหมคะ ซึ่งคุณหมอศิริไชย ยังได้แนะนำต่ออีกว่า พ่อแม่ควรจะมีวิธีสอนลูกอย่างไร เพื่อไม่ให้เติบโตมา ลูกขโมยเงิน หรือเป็นเด็กที่มีนิสัยชอบลักขโมย ซึ่งสรุปได้ดังนี้ค่ะ
1.พ่อแม่สามารถปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์ให้ลูกได้มากมาย เริ่มต้นจากการที่พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีก่อน พูดความจริง และซื่อสัตย์ในทุกๆเรื่อง ปัญหาคือ พ่อแม่เลี้ยงลูกแล้วชอบใช้วิธีการหลอกลูก เช่น ลูกไม่กินข้าวก็บอกเดี๋ยวตำรวจจับเพื่อให้ลูกกินข้าว พ่อแม่ก็เป็นตัวอย่างของการที่ไม่ซื่อสัตย์
2. พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างให้ลูก ด้วยการไม่ควรหยิบของ ของคนอื่นมาใช้ต่อหน้าลูกโดยไม่บอกเช่นกัน แม้จะเป็นของคนในครอบครัวก็ตาม ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น
ปัญหา ลูกขโมยเงิน ขโมยของเป็นปัญหาที่พ่อแม่มาปรึกษากับคุณหมอบ่อยมาก การที่เด็กมีพฤติกรรมขโมยของนั้น แม้ว่าบางครั้งจะได้รับการอบรม สั่งสอนจากพ่อแม่มาแล้วก็ตาม ก็เป็นสิ่งที่ยังสามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ ด้วยสังคม และสภาพแวดล้อม เป็นสิ่งที่ยากต่อการควบคุม ดังนั้น ถ้าเด็กทำผิดขโมยของ โดยอาจจะเผลออยากได้ของคนอื่นบ้าง ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง แต่ก็ต้องได้รับการลงโทษที่เหมาะสม ด้วยความอ่อนโยน นุ่มนวล การลงโทษด้วยวิธีรุนแรง จะยิ่งทำให้ลูกเป็นคนจิตใจหยาบกระด้าง ไม่อ่อนโยน และชินชากับความรุนแรง รวมถึงอาจจะใช้ความรุนแรงกับคนอื่นต่อไปได้อีกด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.ร.อ.นพ. ศิริไชย หงษ์สงวนศรี จิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
วิธีลงโทษลูก อย่างไรให้ได้ผลดี โดยไม่ต้องลงมือตี
สู่ขวัญ บูลกุล เผย เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นคนเก่งและดี
พ่อแม่เช็กด่วน! หลังจิตแพทย์เตือน! เลี้ยงลูกระวังเสี่ยง ภาวะเด็กถูกเร่ง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่