จาก พฤติกรรมรุนแรง ของวัยรุ่นที่เราเห็นในสังคมขณะนี้ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือผู้กระทำนั้นคิดว่า ตัวกูใหญ่ ซึ่งพฤติกรรมนี้ อาจพูดได้ว่าเป็น ปัญหาก้าวร้าวที่เกิดตั้งแต่เด็ก ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นลูกมีพฤติกรรมเช่นนี้ก็ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป
ปัจจุบันนี้เราอาจเห็นได้ว่าเด็กยุคใหม่กำลังโตมาพร้อมกับโรคร้ายที่มีชื่อว่า “โรคตัวกูใหญ่” คือการอยากได้ก่อน อยากได้สิ่งที่ดีดีกว่า รวมถึงการดูถูกคนอื่น ไม่เห็นใจผู้อื่น และมีความคิดโกง หรือชอบเอาเปรียบ ซึ่งอาจเรียกโรคนี้ได้อีกชื่อหนึ่งว่า โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม ซึ่งพบได้บ่อยและเกิดขึ้นทั่วไปแม้แต่ในครอบครัว หรือเกิดขึ้นกับเพื่อนบางคนของเราจนทำให้เราเดือดร้อน
ซึ่งความจริงแล้วโรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาในวัยเด็ก และการเลี้ยงดูไม่เหมาะสมมาตั้งแต่เล็ก ซึ่งพ่อแม่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่แล้วปัญหาก็เป็นโรคที่ถูกมองข้ามละเลย ไม่ค่อยมีใครพูดถึงกัน เนื่องจากเมื่อเกิดขึ้นแล้วรักษายากมาก และไม่ค่อยได้ผล
อาการโรคร้าย คิดว่า “ตัวกูใหญ่”
- ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
- ไม่มีความรู้สึกผิด
- ก้าวร้าว ทำร้ายคนอื่น รังแกสัตว์
- ทำลายข้าวของสาธารณะ
- ทำผิดกฎเกณฑ์ กติกาของหมู่คณะหรือกฎหมาย
โรคนี้มักเป็นตั้งแต่เด็ก หากสะสมนานๆ จะกลายเป็นสันดานที่แก้ยาก ซึ่งอาการจะมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก ซน อยู่ไม่นิ่ง พูดเก่ง คุยเก่ง ไม่ค่อยตั้งใจเรียน ชอบพูดคำหยาบ ใจร้อน ขี้โมโห เวลาโกรธจะยั้งตัวเองไม่ค่อยได้ ทำให้มีเรื่องกันบ่อยๆ บางทีถึงชกต่อยกันที่โรงเรียน พฤติกรรมมักจะเลียนแบบพ่อ หรือคนในครอบครัวที่เกเร และพ่อแม่ไม่มีเวลาแก้ไขพฤติกรรมลูก ครอบครัวมักไม่อบอุ่น พ่อแม่มีปัญหาครอบครัว มีโรคทางจิตเวช หรือการใช้สารเสพติดในครอบครัว ความก้าวร้าวเกเรของจะมากขึ้นเรื่อยๆ ผลการเรียนแย่ลง เพราะไม่ค่อยเข้าเรียน ชอบโดดเรียนไปเล่นเที่ยว เพื่อนมักจะเป็นเด็กโตกว่า และนิสัยเกเรเช่นกัน ความก้าวร้าวในกลุ่มทำให้ไปมีเรื่องกับโรงเรียนอื่น
อ่านต่อ >> 4 วิธีป้องกันลูก ก่อนกลายโรคร้าย คิดว่า “ตัวกูใหญ่” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บุคลิกภาพนิสัยแบบนี้ ไม่ใช่แบบต่อต้านสังคมแบบชอบทำอะไรต่อต้าน ประท้วง โวยวาย แต่จะเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ กฎหมาย เพื่อความพึงพอใจของตนเอง เวลาต้องการอะไรจะต้องให้ได้ทันที ยั้งใจตัวเองไม่ได้ เวลาโกรธจะรุนแรง เช่นตอนคุณพ่อคุณแม่ยังเป็นเด็ก อาจเคยเจอปัญหาเพื่อนที่มีลักษณะแบบนี้ คนที่เกเรที่สุดในห้อง คนที่เราไม่ค่อยอยากเล่นด้วยเพราะเขาชอบแกล้งเพื่อนรังแกเพื่อน ทำผิดเสมอๆ ถูกดุถูกว่าบ่อยๆ โตขึ้นก็จะยังเป็นแบบนี้ ดูเผินๆอาจจะเหมือนคนปกติ เพราะเจ้าตัวจะปิดบังอาการและความไม่ดีได้บางช่วง ในสังคมเรามีคนที่บุคลิกภาพผิดปกติแบบนี้ไม่น้อย ที่เห็นชัดๆปรากฏเป็นข่าวมีคลิปโด่งดังและถูกแชร์มากอยู่ในขณะนี้ สำหรับอาการโรคร้ายที่ว่านี้ คุณพ่อคุณแม่ควรรีบป้องกันลูกของเราตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ช่วงวัย 1ขวบ โดยมีวิธีดังนี้
1. ฝึกลูกให้รู้จักรอคอย และการยอมรับกติกา
อย่าตอบสนองทันทีในสิ่งที่ลูกต้องการ ฝึกให้รู้จักรอเพื่อสร้างความเข้าใจการรอคอย และบอกให้รู้ว่าเมื่อรอ แล้วอีกไม่นานก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ เพราะการที่คุณพ่อคุณแม่ตอบสนองความต้องการของลูกแบบรวดเร็ว คือ พอลูกร้องปุ๊ปถึงตัวปั๊ปจะส่งผลให้เด็กเคยชิน เอาแต่ใจ และคิดอยู่ทุกครั้งว่าเมื่อต้องได้ในสิ่งที่ต้องการทันที
รวมทั้งฝึกการยอมรับกติกา เมื่อออกคำสั่งให้ลูกทำอะไร จะต้องบอกว่าทำเพื่ออะไร หรือทำเพราะอะไร ใช้คำอธิบายที่ไม่ซับซ้อนเพื่อปูพื้นฐานให้เด็กรู้จักเหตุและผล และรู้ถึงผลของสิ่งที่จะปฏิบัติ และให้โอกาสเด็กได้แสดงความคิดเห็น และ ร่วมตั้งกติกาด้วยจะช่วยให้เด็กเต็มใจทำยิ่งขึ้น เมื่อฝึกให้เด็กได้เรียนรู้และยอมรับกฎกติกาอย่างเต็มใจ
2. ฝึกให้ลูกไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการและผิดหวังเป็น
เพราะความผิดหวังเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่ต้องพบเจออยู่แล้ว สิ่งสำคัญคืออย่าเป็นพ่อแม่ที่พยายามค้นหา คว้าดาวมาให้ลูก เมื่อลูกอยากได้อะไรก็ต้อง vip พิเศษสำหรับลูกเสมอ สิ่งนี้จะทำให้คุณกำลังสร้างให้ลูกคุณเคยชินกับการต้องได้เพียงอย่างเดียว ต้องให้ลูกรู้จักผิดหวังบ้างเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกเอง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. ฝึกให้ลูกรู้จักแบ่งปันของตัวเองให้คนอื่น
พ่อแม่ทุกคนต้องการสนับสนุนให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่จิตใจดี รู้จักการแบ่งปัน มีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อ และรับรู้ถึงความต้องการของผู้อื่นและของตนเอง เพราะโดยส่วนมากเด็กจะเคยชินกับการได้รับจากคนอื่นนั่นเอง และหากลูกเป็นคนที่ไม่รู้จักการแบ่งปัน เมื่อลูกโตขึ้นจนต้องเข้าสังคม อาจโดนมองว่าเป็นคนไร้น้ำใจทำให้ไม่มีเพื่อน
4. อย่ารักลูกมากจนกลายเป็น พ่อแม่รังแกฉัน
การที่พ่อแม่รักลูกมากเกินไปทำให้ตัวเองตาบอดในเรื่องของลูกมองไม่เห็นในความผิดของลูก สิ่งสำคัญคือ พ่อแม่ควรเปิดใจมองลูก ยอมรับข้อเสียของลูก และยอมรับว่ามันเกิดจากเรา เพราะเราเลี้ยงลูกมาเอง ดังนั้นเราคือ ต้นเหตุในหลายๆเรื่อง ยอมรับและแก้ไขให้เป็น
สำหรับโรคนี้ จริงๆแล้วเกิดจากการเรียนรู้ตั้งแต่แรกเกิดของเด็ก การขาดการดูแลในช่วงขวบปีแรกซึ่งสำคัญมากในการสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ ความรู้สึกที่ดีต่อคนอื่น การมองโลกในแง่ดี การรู้สึกเห็นอกเห็นใจใคร จะเป็นสาเหตุใหญ่ข้อหนึ่ง ต่อมาการขาดการฝึกการควบคุมตนเอง ระเบียบวินัยในขวบปีที่สองและสาม จะทำให้เด็กขาดการควบคุมจิตใจตนเอง ทำให้เด็กเอาแต่ใจตนเอง ในวัยต่อๆมาเด็กจะเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ พี่น้อง คนในครอบครัวและใกล้ชิด เด็กจะมีความมั่นคงในอารมณ์ รู้จักแยกแยะดีเลว และควบคุมตัวเองให้อยู่ในกติกาสังคมได้
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะช่วยกันป้องกันปัญหานี้ กับวลี กราบรถกู ที่กำลังโด่งดัง แค่ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ขอเพียงคุณพ่อคุณแม่คอยฝึกสอนลูกตั้งแต่วัยเด็ก ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคคิดว่า ตัวกูใหญ่ ได้แล้วปัญหาในสังคมเรื่องการข่มเหงรังแก ผู้อื่นก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
พ่อแม่รังแกฉัน ! บาป 14 ประการ จากท่าน ว.วชิรเมธี
เตือนใจพ่อแม่! หยุดเลี้ยงลูกแบบเทพเจ้า
เลี้ยงลูกไม่ให้สบายเกินไป ป้องกันโรค “ไม่รู้จักลำบาก”
ขอบคุณข้อมูลจาก : Basic-Skill for young children , www.psyclin.co.th