พี่เลี้ยงใจโหด ทำร้ายเด็กแบเบาะได้ลงคอ พร้อมคำแนะนำจากหมอ วิธีเลือกพี่เลี้ยงที่ปลอดภัยหายห่วงไร้กังวล!
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินได้ฟัง หรือได้ชมคลิปพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก ที่ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราถึงกับน้ำตาไหลแทน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองก็ตาม แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า ทำไมถึงทำร้ายเด็กตาดำ ๆ ที่ไม่มีทางสู้ได้ลงคอ
เช่นเดียวกับคลิปที่ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมานำเสนอในวันนี้นั้น เป็นคลิปกล้องวงจรปิดของครอบครัวหนึ่ง ที่คาดว่า ได้ติดตั้งเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานมัดตัว พี่เลี้ยงใจโหด รายนี้! โดยแหล่งที่มาของคลิปนั้น ไม่ได้กล่าวว่า เกิดขึ้นที่ประเทศอะไร แต่เป็นการลงเพื่อเตือนภัยให้กับทุกครอบครัว ให้เฝ้าระวังและสังเกตลูกหลานให้ดี
นอกจากนี้ ทีมงาน จะขอนำเสนอเทคนิคการเลือกพี่เลี้ยงและศูนย์รับเลี้ยงดูเด็กมาฝากกันด้วยค่ะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
อ่านต่อ วิธีการเลือกพี่เลี้ยงโดยคุณหมอพร้อมชมคลิปได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
คลิปเตือนพ่อแม่!! ระวัง พี่เลี้ยงใจมาร ทำร้ายเด็ก
และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำขึ้นกับใครอีก นายแพทย์ชาตรี วิฑูรชาติ จากเพจหมอชาวบ้าน ได้เผยถึงวิธีการเลือกพี่เลี้ยงให้ปลอดภัยไร้กังวล จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ
การเลี้ยงดูเด็กในสังคมเมืองเป็นปัญหาใหญ่หลวงของพ่อแม่ยุคใหม่จริง ๆ อีกทั้งมีพ่อแม่หลายคนประเมินความสำคัญของพี่เลี้ยงเด็กต่ำเกินไป อาจคิดเพียงว่ามีใครสักคนมาดูแลลูกเรื่องการกิน การอยู่ การหลับนอนก็พอแล้ว
จริง ๆ แล้ว บทบาทของพี่เลี้ยงเด็กมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ เพราะพี่เลี้ยงเด็กต้องให้ความรัก ความอบอุ่น ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย สร้างความผูกพันที่มั่นคงกับเด็ก สามารถสื่อสารรับรู้อารมณ์ ความต้องการของเด็กและตอบสนองได้ถูกต้อง
พี่เลี้ยงเด็กจะต้องสามารถจัดสภาพแวดล้อม เตรียมกิจกรรมการเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะส่งเสริมให้สมองของเด็กเติบโต ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา บุคลิกภาพ รวมทั้งไอคิวและอีคิว เพราะเด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบเป็นช่วงอายุที่มีการเติบโตพัฒนามากและรวดเร็วที่สุด
ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงเด็กจะต้องพิจารณาอายุและการศึกษา นั่นคือมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และวิจารณญาณ มีบุคลิกลักษณะและนิสัยรักความสะอาด ละเอียดรอบคอบ ใจเย็น รักเด็กและทนเสียงเด็กร้องได้ สิ่งสำคัญจะต้องไว้ใจได้ สามารถวางใจได้ว่าพี่เลี้ยงเด็กจะไม่ทอดทิ้งหรือทำร้ายลูกของเรา มีประสบการณ์ในการดูแลเด็ก มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ
อ่านต่อ 10 ข้อคิดก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก >>
เครดิต: U-Share และหมอชาวบ้าน
5 ข้อคิดก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก
- พิจารณาเนื้องานที่ต้องการให้พี่เลี้ยงทำก่อน คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะกำหนดให้ชัดเจนว่าคุณต้องการให้พี่เลี้ยงของคุณมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ต้องการให้เลี้ยงลูกอย่างเดียว หรือว่าทำงานบ้านไปด้วย
- ความพร้อมทางการเงิน เพราะรายได้ของครอบครัวเป็นสิ่งที่ควรคำนึง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องตรวจสอบว่ารายรับของครอบครัวคุณพร้อมจะจ้างพี่เลี้ยงหรือไม่? พร้อมจะจ้างแบบไหน? เงินเดือนเท่าไร? มีสวัสดิการอะไรบ้าง? ถ้าคุณจะให้พี่เลี้ยงอยู่ประจำแปลว่าครอบครัวคุณมีอีกหนึ่งท้องที่ต้องเลี้ยงให้ครบทั้งสามมื้อ
- ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว ไม่ว่าคุณจะจ้างพี่เลี้ยงให้มาอยู่แบบไหน ผลคือครอบครัวคุณต้องต้อนรับคนแปลกหน้าเข้ามา คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาด้วยนะคะว่า พร้อมหรือไม่ที่จะต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวไประดับหนึ่งเพื่อให้พี่เลี้ยงเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ ถ้าจ้างให้อยู่ประจำคุณต้องจัดหาห้องนอน ห้องน้ำให้พี่เลี้ยงด้วย
- ต้องมีแหล่งที่มาของพี่เลี้ยงอย่างชัดเจน หากคุณพ่อคุณแม่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงจากศูนย์พี่เลี้ยง หรือจะหาเอาจากคนรู้จัก? การพูดคุยกับคนรอบตัว และศูนย์พี่เลี้ยงอาจช่วยคุณประมาณได้ว่าควรจ้างพี่เลี้ยงด้วยอัตราเงินเดือนเท่าไร คุณจะรับพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทย หรือว่าประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าจ้างถูกกว่า?
- อย่าลืมพิจารณาประสบการณ์ของพี่เลี้ยงด้วย อย่าลืมตรวจสอบก่อนนะคะว่า พี่เลี้ยงที่คุณจะจ้างมานั้นมีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กมากน้อยเพียงใด และเขาพร้อมที่จะรับมือกับพฤติกรรมของลูกเราได้หรือไม่ ผ่านการเลี้ยงเด็กมาแล้วกี่คน เป็นต้น
การที่เราจะจ้างใครสักคนมาเลี้ยงลูกหัวแก้วหัวแหวนของเรานั้น
อย่าลืมพิจารณาสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วเอาไว้ให้ดีนะคะ
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่