ลูกสลับเวลานอน …คุณแม่มือใหม่หลายคน เป็นกังวลไม่น้อยกับเรื่องที่จะต้องปรับตัว เมื่อมีลูกน้อยอีกหนึ่งคนเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องการเลี้ยงดูลูกน้อยเป็นครั้งแรก เรื่องน้ำนมที่ยังไม่ไหล รวมไปถึงเรื่องการนอนของลูกน้อยด้วย
การนอนของทารกแรกเกิด อาจทำให้มีผลกระทบกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคุณแม่เป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นคุณแม่จะต้องเข้าใจและปรับตัวกับลูกน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่ที่ยังไม่รู้จักเวลากลางวัน-กลางคืน
ลูกสลับเวลานอน !! ทำไมทารกแรกเกิดนอนกลางวัน
ตื่นกลางคืน
อันดับแรกคุณแม่ต้องเข้าใจด้วยว่าระยะเวลา 9 เดือนที่เจ้าตัวเล็กนอนอยู่ในท้องที่เต็มไปด้วยน้ำคร่ำ เมื่อยามที่คุณแม่เดินไปมา ก็เปรียบเสมือนว่าได้ไกวเปลทำให้ทารกในท้องนอนหลับสบาย ส่วนตอนกลางคืนที่คุณแม่หลับสนิทลูกน้อยในท้องกลับตื่นจนถีบท้องคุณแม่สะดุ้งอยู่หลายครั้ง เพราะคุณแม่ไม่ได้เคลื่อนไหวตัวนั่นเอง จนกระทั่งคลอดออกมาทารกก็ยังคงเคยชินกับช่วงเวลาที่นอนและตื่นเหมือนตอนอยู่ในท้อง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกแรกเกิดนัั้นนอนกลางวัน มากกว่ากลางคืน แม้จะปลุกให้กินนมก็ไม่ค่อยอยากจะตื่นนั่นเองค่ะ
ปัญหา การนอนของทารก แรกเกิด
ตามปกติแล้วเด็กทารกแรกเกิดต้องการเวลานอนหลับพักผ่อนมากกว่าเด็กโต แต่ห้วงเวลาการหลับและตื่นจะสั้น และมีหลายช่วงเวลาที่ตื่นเมื่อหิว ซึ่งทารกแรกเกิด จนถึงอายุ 2 เดือนต้องการเวลานอน 11-18 ชั่วโมงต่อวัน และระหว่าง 2 -10 เดือน ต้องการเวลานอน 11-15 ชั่วโมงต่อวัน โดยปกติทารกแรกเกิดจะนอนในเวลากลางวันนานมาก และใช้เวลานานในตอนกลางคืนกว่าจะหลับได้นั้นจะมีอาการ หลับๆ ตื่นๆ ไปตลอดคืน เด็กทารกจะตื่นบ่อยในช่วง 3 เดือนแรก เพื่อขอกินนมแม่บ่อยๆ เป็นการกระตุ้นให้แม่สร้างน้ำนมแม่มากขึ้น ดังนั้นแม่จะเหนื่อยมากในช่วง 3 เดือนแรก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แต่อย่างไรก็ตามคุณแม่สามารถฝึกลูกให้รู้จักเวลากลางคืนที่เป็นเวลาสำหรับการนอนหลับพักผ่อน โดยฝึกตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ให้ลูกน้อยรู้จักที่นอนและห้องนอนของเขา เพื่อให้ได้รับรู้หรือสัมผัสได้ว่าเมื่อถูกวางบนที่นอนเมื่อไร แสดงว่าเมื่อนั้นได้เวลาที่จะต้องนอน ดังนั้นคุณแม่ควรพาลูกนอนไปที่ห้องนอน ให้รู้ว่าถ้ามาห้องนี้ต้องนอนแล้ว ควรวางลูกบนที่นอนก่อนที่ลูกจะหลับ เพื่อให้เด็กทารกได้คุ้นเคยกับที่นอนและสถานที่ภายในห้องนอน เพราะถ้าหากคุณแม่อุ้มกล่อมลูกไว้จนกระทั่งลูกหลับไปแล้วจึงวางนอนบนที่นอน เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาลูกอาจตกใจร้องไห้ได้ถ้าไม่เห็นคุณแม่อยู่หรืออุ้มตัวเขา
- สร้างบรรยากาศในห้องให้ลูกน้อยได้รู้จักความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน โดยในช่วงกลางวันควรให้เด็กมีระยะเวลาในการนอนที่น้อยกว่าในตอนกลางคืน คุณแม่ควรจัดห้องนอนให้เด็กนอนในห้องที่มีแสงสว่างพอเพียง ไม่ควรให้นอนในห้องที่มืดเพื่อป้องกันมิให้ทารกรู้สึกสับสนว่าเป็นกลางคืน ในช่วงเวลากลางวันไม่ควรให้ภายในห้องเงียบสนิท ควรให้มีเสียงเพลง หรือเสียงทำงานบ้านของคุณแม่ แต่ควรเป็นเสียงที่เบาๆ
- ให้นมในเวลาที่แน่นอนเป็นประจำ ถ้าถึงเวลาตื่นมาดูดนมแล้วยังหลับอยู่ก็ต้องปลุกให้ตื่นขึ้นมา
- ช่วงแรกเดือนแรก ควรห่อตัวลูกตอนนอนกลางคืน เพื่อช่วยให้ทารกไม่สะดุ้งตกใจ การโดนห่อตัวนี้เปรียบเสมือนว่าได้นอนอยู่ในท้องแม่ เด็กทารกจะรู้สึกอบอุ่น ไม่เคว้งคว้าง ผ้าที่ใช้ห่อตัวลูกควรเลือกตามสภาพอากาศบ้านเรา ช่วงหน้าร้อน เปิดพัดลมก็ไม่ควรใช้ผ้าหนามากจนเกินไป ถ้าลูกนอนห้องแอร์ก็ควรเลือกผ้าที่หนาขึ้นมาหน่อย (อ่านต่อ คลิปวีดีโอ “ห่อตัวลูก อบอุ่นปลอดภัย”)
- ถ้าหากลูกตื่นและร้องไห้กลางดึก คุณแม่ไม่ควรรีบเปิดไฟหรืออุ้มทารกขึ้นมาทันที ควรสังเกตดูก่อน ว่าลูกร้องเพราะอะไร ถ้ายังร้องไห้ไม่หยุด คุณแม่ควรเข้าไปปลอบและสังเกตดูว่ามีความผิดปกติอะไรเช่นร้องไห้เพราะเปียกแฉะจากการฉี่รดผ้าอ้อมก็ควรเปลี่ยนทันที คุณแม่ต้องรีบจัดการแก้ปัญหาให้ก่อน โดยที่ยังไม่ต้องอุ้มลูกขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อให้เด็กได้รู้จักว่าเป็นเวลาของการนอน
อ่านต่อ >> “วิธีสร้างสุขนิสัยการนอนของลูกน้อย” คลิกหน้า 2
เวลาแห่งการนอนหลับของลูก
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรให้เด็กนอนในท่าหงาย หรือ นอนท่าตะแคง จะดีกว่าท่านอนคว่ำหน้า ถ้าเด็กมีอาการอาเจียน หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ อาจมาจากท่านอนที่ไม่ถูกต้องที่อาจขัดขวางทางเดินหายใจ (อ่านต่อ “เพลงกล่อมเด็ก แบบไทยๆ ช่วยพัฒนาสมองและให้ลูกน้อยหลับสบาย”
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับข้อมูลและคำแนะนำเบื้องต้นที่กล่าวมา คุณแม่ลองนำไปปฏิบัติปรับใช้กับลูกน้อยเพื่อมีแบบแผนการนอนที่เหมาะสม ลดโอกาสการตื่นขึ้นกลางดึก อย่างไรก็ตาม ช่วงสามเดือนแรกคือช่วงเวลาปรับตัวทั้งของลูกและของแม่ ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่มือใหม่ทุกคน สู้เพื่อลูกนะคะ
ทั้งนี้ทางกุมารแพทย์ยังได้แจ้งและแนะนำว่า ถึงแม้คุณแม่จะไม่มีปัญหาเรื่องอารมณ์และความเครียดในช่วงก่อนและระยะตั้งครรภ์ แต่ก็ควรดูแลฝึกให้ลูกน้อยนอนและตื่นเป็นเวลา เพื่อให้ลูกได้นอนหลับสนิทตลอดคืน เช่นเดียวกับผู้เป็นแม่ที่จะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะช่วงเวลาหลังจากการให้กำเนิดทารก เป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสำหรับคุณแม่ และอาจประสบปัญหาด้านอารมณ์ และความเครียดได้ เนื่องจากความเจ็บปวดหลังกาคลอด การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ร่างกาย และสถานภาพใหม่ ซึ่งทางการแพทย์เรียกความเครียดที่เกิดขึ้นหลังการคลอดบุตรว่า Postpartum depression เป็นการอดนอนและพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้อาการของโรคเครียดทวีความรุนแรงขึ้นได้ คนรอบข้างจึงต้องทำความเข้าใจ เอาใจใส่และยื่นมือช่วยเหลือ “คุณแม่มือใหม่” เป็นพิเศษด้วยนะคะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ
- ประโยชน์ที่พ่อและแม่ควรนอนใกล้กันกับลูกน้อย
- เปิดคัมภีร์ ทารกนอนหลับแบบไหน? ช่วยให้พัฒนาการดี
- เลิกนมมื้อดึก และฝึกหลับยาว สำหรับลูกน้อยวัยเด็กเล็ก
ข้อมูลอ้างอิงจาก : www.bevariety.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่