AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

วัคซีนสำหรับเด็ก มีวัคซีนพื้นฐานอะไรบ้างที่ต้องฉีด ?

วัคซีนสำหรับเด็ก

วัคซีนสำหรับเด็ก ที่เป็นวัคซีนพื้นฐาน คุณพ่อคุณแม่เช็กกันแล้วหรือยังคะว่าได้พาลูกๆ ไปรับการฉีควัคซีนครบตามช่วงอายุ พัฒนาการกันแล้วหรือยัง!! ทีมแม่ABK มีวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กที่ลูกควรได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด ถึง 12 ปี มาบอกให้ได้ทราบกันอีกครั้งค่ะ

โรคภัยไข้เจ็บสมัยนี้ไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ มาเร็วและกลายพันธุ์เร็วยิ่งกว่า 4G ฉะนั้นเพื่อสุขอนามัย และสุขภาพที่ดีของลูกน้อย รวมถึงทุกคนในครอบครัว อย่าลืมล้างมือให้สะอาด กินร้อน ช้อนกลาง ออกจากบ้านก็อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะคะ แต่ที่สำคัญเพื่อเป็นการสร้างเกราะภูมิคุ้มกันให้สุขภาพร่างกายลูกน้อย คุณพ่อคุณแมบ้านไหนที่ยังไม่ได้พาลูกไปรับการฉีควัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็ก มาเช็กดูซิว่าวัคซีนเด็กอะไรที่ต้องฉีดให้ตรงกับช่วงอายุของลูก

 

วัคซีนสำหรับเด็ก (วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด – 12 ปี)

มาเริ่มฉีค วัคซีนสำหรับเด็ก เข็มแรกให้ลูกกันเลยค่ะ

1. วัคซีนวัณโรค (BCG)

วัคซีนเด็กเข็มนี้ถือเป็นวัคซีนบังคับที่จะต้องฉีดให้เด็กทุกคนตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ โดยจะฉีดให้ก่อนพาลูกทารกน้อยกลับบ้านค่ะ

2. วัคซีนตับอักเสบบี (HBV)

มีทั้งหมด 3 เข็มที่ลูกต้องได้รับการฉีดเข้าสู่ร่างกายนะคะ เข็มเล็กนิดเดียวเจ็บเหมือนมดกัดนะลูกนะ ฉีดตอนอายุไหนบ้าง  เข็มแรกคุณหมอจะฉีดให้ลูกตั้งแต่เกิด เข็มที่ 2 จะฉีดให้ลูกตอนอายุครบ 1 เดือน เข็มที่ 3 ตามมาติดๆ ฉีดตอนลูกอายุครบ 6  เดือนค่ะ

3. วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DPT)

วัคซีนสำหรับเด็กเข็มนี้สำคัญไม่แพ้วัคซีนป้องกันโรคเข็มอื่นๆ เพราะปกป้องถึง 3 โรค ทั้งคอตีบ บาดทะทะยัก ไอกรน ซึ่ง  จะเริ่มฉีดชุดแรก 3 ครั้ง ตอนลูกอายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน เมื่อฉีดครบในชุดแรกแล้ว จะมีการฉีดซ้ำเพื่อเป็นการตุ้น การทำงานของวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ตอนที่ลูกอายุ 18 เดือน / ฉีดกระตุ้นครั้งที่ 2 ลูกอายุ 4-6 ปี / ฉีดกระตุ้นครั้งที่   3 ลูกอายุ 11-12 ปี

4. วัคซีนโปลิโอ

ลูกน้อยจะเริ่มได้รับวัคซีนโปลิโอครั้งแรก คือเมื่ออายุครบ 2 เดือน , อายุครบ 4 เดือน , อายุครบ 6 เดือน และจะเว้นไปจนลูก อายุได้ 18 เดือน(รับวัคซีนกระตุ้นครั้งที่ 1) จากนั้นพอลูกอายุได้ 4-6 ปี(รับวัคซีนกระตุ้นครั้งที่ 2)

5. วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม(MMR)

ทั้ง 3 โรคนี้ไม่อยากให้ลูกน้อยป่วย ก็ต้องพามารับการฉีดวัคซีนให้ครบทั้ง 2 เข็มค่ะ เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกตอนลูกอายุ 9-12  เดือน เข็มที่ 2 ฉีดตอนลูกอายุ 2 ปี 6 เดือน

6. วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE)

ป่วยแล้วรักษาไม่ทันอันตรายถึงชีวิตเลยนะคุณพ่อคุณแม่ ฉะนั้นพาลูกมารับการฉีดวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี เริ่มเข็มแรกตอนลูกอายุได้ 9-12 เดือน ส่วนเข็มที่สองก็ตอนลูกอายุ 2 ปี 6 เดือนนะคะ

7. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

แต่ละปีไม่ใช่แค่เด็กๆ เท่านั้นที่ป่วย ผู้ใหญ่อย่างเราๆ วัยทำงาน วัยกลางคน วัยผู้สูงอายุก็ป่วยด้วยเช่นกัน แต่เด็กๆ จะหนักหน่อยเพราะภูมิคุ้มกันโรคยังน้อย ฉะนั้นพาลูกไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 18 ปี โดยปีแรก ฉีด 2 เข็ม เว้นระยะห่างกัน 1 เดือน ผู้ใหญ่ก็ควรฉีควัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ค่ะ

8. วัคซีนเอชพีวี (HPV)

บ้านมีลูกสาวควรต้องพาไปรับการฉีดวัคซีนค่ะ สำคัญมาก เพราะการติดเชื้อ HPV เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก จะเริ่มฉีควัคได้ตอนตอนลูกอายุ 11-12 ปี(ประมาณชั้นประถม 5) ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ซึ่งเมื่อฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ก็จะเว้นห่างกันประมาณ 6-12 เดือน ก็จะเริ่มฉีดเข็มที่ 2 ค่ะ (ตรงนี้เดี๋ยวคุณหมอเขาก็จะนัดวันมาฉีดอีกทีค่ะ

วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กทั้ง 8 เข็มนี้ เป็นวัคซีนสำคัญที่ลูกต้องได้รับตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุ 12 ปี ไม่ควรขาดตกบกพร่องเข็มใดเข็มหนึ่งไปนะคะ เพราะการได้รับวัคซีนก็เท่ากับเป็นการสร้างเกราะภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกายมีสุขภาพดี แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยต่างๆ ด้วยโรคร้ายแรงนั่นเองค่ะ

ดูเหมือนแค่วัคซีนเด็ก 8 เข็มนี้ฉีดแล้วจะจบแค่นี้ ไม่ใช่นะคะ เพราะปัจจุบันนี้ยังมีกลุ่มวัคซีนเสริม สำหรับป้องกันโรคอุบัติใหม่ หรือโรคอุบัติเก่าที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆ ได้  ทีมแม่ABK รวมมาให้แล้วค่ะว่ามีวัคซีนเสริมอะไรบ้าง ที่ควรให้ลูกได้รับการฉีดเพิ่มเติมกันค่ะ

 

อ่านต่อ วัคซีนเสริมสำหรับเด็ก ฉีดเพิ่มช่วยป้องกันโรคร้ายแรง คลิกหน้า

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

วัคซีนสำหรับเด็ก วัคซีนเสริมฉีดเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค !!

อย่างที่บอกไปค่ะว่าแค่วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็ก 8 เข็ม อาจไม่พอ เพราะโรคเก่า โรคใหม่เต็มไปหมด ฉะนั้นวัคซีนเสริมเหล่านี้ถ้ามีกำลังทรัพย์พอ ก็จัดให้ลูกน้อยได้รับการฉีควันซีนเด็กเพิ่มไปได้ค่ะ

1. วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV)

ฉีดทั้งหมด 5 เข็ม เริ่มเข็มที่ 1 เมื่อลูกอายุครบ 2 เดือน / เข็มที่ 2 ลูกอายุ 4 เดือน , เข็มที่ 3 ลูกอายุ 6 เดือน , เข็มที่ 4 ลูกอายุ 18 เดือน และ เข็มที่ 5 ลูกอายุ 4-6 ปี

2. วัคซีนฮิบ

วัคซีนป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย ฮีโมฟีลุส อินฟลูเอนเซ ชนิดบี (Haemophilus influenzae type b Vaccine) เป็นวัคซีนรวม 1 เข็ม สามารถเริ่มฉีควัคซีนเข็มแรกได้ตอนลูกอายุ 2 เดือน , เข็มที่ 2 ลูกอายุ 4 เดือน , เข็มที่ 3 ลูกอายุ 6 เดือน และ เข็มที่ 4 ลูกอายุ 12-18 เดือน

3. วัคซีนไวรัสโรต้า (rotavirus)

เป็นหนึ่งในวัคซีนเสริมที่อยากให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปรับฉีดวัคซีนกันค่ะ เพราะเด็กๆ ป่วยกันเยอะมากในทุกปีจากไวรัส โรต้า เข็มแรก ลูกอายุ 2 เดือน , เข็มที่ 2 ลูกอายุ 4 เดือน และ เข็มที่ 3 ลูกอายุ 6 เดือน

4. วัคซีนไข้เลือดออก

ยุงลายน่ากลัวจริงๆ ค่ะ ยุงลายเป็นพาหนะที่ทำให้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งแต่ละปีอัตราการเป็น ไข้เลือดออกก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ฉะนั้นวิธีปกป้องสุขภาพร่างกายของลูกๆ ก็คือการพาไปฉีดวัคซีนป้องกันไขเลือดออก  เด็กๆที่มีอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไปสามารถเริ่มฉีดวัคซีนชนิดได้เลยค่ะ ซึ่งจะฉีดวัคซีน 3 ครั้ง เว้นระยะ 6 เดือน และ 12 เดือนจากการฉีดเข็มแรก

5. วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส

ไม่อยากให้ลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่ป่วยอีสุกอีใสกันเลยค่ะ แนะนำว่าให้พาลูกๆไปรับการฉีดวัคซีนกันได้นะคะ  จะฉีด  2  เข็ม ตามช่วงอายุ ตั้งแต่ 2 ปีครึ่ง  และอีกครั้งเมื่ออายุ 4-6 ปี

ทีมแม่ABK เห็นว่าตอนนี้ไวรัสโคโรน่ากำลังระบาดไปทั่วโรค ซึ่งเราเป็นประเทศในแถบเอเชียที่มีความเสี่ยงที่สูงมากใน การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ เพราะร็มาว่าสามารถติดต่อโรคจาก “คนสู่คน” ได้ค่ะ เอาเป็นว่าการใช้ชีวิตประจำวันให้มีความสุข ไม่ต้องระแวงกับไวรัสชนิดนี้มากจนเกิดไป ขอให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพ และสุขอนามัย เริ่มง่ายๆ ด้วยการล้างมือให้สะอาดไม่ว่าอยู่ในบ้าน หรือนอกบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกๆ ล้างมือให้สะอาดถูกต้องกันด้วยนะคะ

การล้างมือให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค แนะนำให้ล้างแต่ละครั้งนาน 20 นาที ทีมแม่ABK มีคำแนะนำการล้างมือปลอดภัย ห่างไกลจากเชื้อโรค ของกรมอนามัย มีวิธีล้างมือ 7 ขั้นตอนป้องกันเชื้อโรค ดังนี้ค่ะ

  1. บีบโฟมล้างมือ แล้วถูฝ่ามือเข้าหากัน
  2. ฝ่ามือถูหลังมือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
  3. ฝ่ามือถูกฝ่ามือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
  4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
  5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
  6. ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ
  7. ถูรอบข้อมือ

จากนั้นก็ล้างมือให้สะอาด แค่นี้ก็ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายจากการหยิบจับอาหารเข้าปากแล้วค่ะ ด้วยความห่วงใย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

บทควมที่น่าสนใจอื่นๆ 

วัคซีนพื้นฐาน 2563 จาก กระทรวงสาธารณสุข มาแล้ว!!

5 เทคนิคสอนลูกใส่ หน้ากากอนามัย ป้องกันโรค ป้องกันฝุ่น ให้ได้ผล


เครดิต : สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยโรงพยาบาลสมิติเวช