เชื่อหรือไม่? แค่ หัดลูกกินข้าวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการเลี้ยงลูก ที่ทำให้ลูกเป็นเด็กฉลาดได้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอะไร และจะมีวิธี ฝึกลูกกินข้าวเอง ได้อย่างไร ตามมาอ่านกันเลยค่ะ
เมื่อรู้ตัวว่าตั้งท้อง คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็เริ่มหันมาใส่ใจในการหาวิธีการที่จะเลี้ยงลูก เพื่อต้องการพัฒนาลูกของตัวเองให้มีศักยภาพที่ดี ให้ลูกโตขึ้นเป็นคนดี ฉลาด สามารถอยู่ร่วมกับสังคมในอนาคตได้ง่ายและสบายๆ โดยพ่อแม่ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าลูกจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องออกไปอยู่ในสังคมภายนอก สังคมที่พ่อแม่ไม่สามารถจะเข้าไปอยู่ร่วมด้วยตลอดเวลาได้
หัดลูกกินข้าวเอง ดื่มน้ำเอง ช่วยลูกฉลาดได้!
ซึ่งคุณแม่บางคนก็อาจเป็นกังวลว่า…ลูกของตัวเองจะสามารถทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้ด้วยตัวเองได้หรือไม่ เพราะการที่ลูกต้องออกไปอยู่ในสังคมภายนอกโดยไม่มีพ่อแม่มานั่งควบคุม ลูกจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มจากการเข้าสู่โรงเรียนแรกในชีวิต ลูกๆ ก็ต้องเก็บของเล่น เก็บขยะ แกะถุงขนม ดื่มน้ำ กินข้าว และกิจกรรมอื่นๆ ด้วยตัวเองทั้งสิ้น
⇒ Must read : “ฝึกทักษะการเข้าสังคม” ก่อนเปิดเทอม
⇒ Must read : 7 ทักษะฝึกลูกก่อนถึง เกณฑ์อายุเข้าอนุบาล 3 ขวบ
ดังนั้นคนเป็นพ่อเป็นแม่จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้กิจกรรมในสังคมภายนอก หรือในโรงเรียนที่ลูกต้องไปประจำ เป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรมและอยู่ร่วมกันกับเพื่อนๆ ได้
Amarin Baby & Kids จึงมีเคล็ดลับการเลี้ยงลูกแบบง่ายๆ เพื่อให้ลูกของคุณฉลาดรู้และฉลาดทำ ด้วยการฝึกฝน ให้ลูกกินข้าวเอง และดื่มน้ำด้วยตัวเอง ในช่วงของวัยที่ลูกมีร่างกายพร้อมที่จะสามารถจับหรือแตะต้องสิ่งของด้วยตัวเองได้แล้ว
โดยเริ่มจาก….⇓
สำหรับ วิธีการหัดลูกกินข้าวเอง คุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง และหยิบข้าว หยิบน้ำกินเอง โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าจะหกเลอะเทอะและสกปรกพื้นที่
แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่กลัวว่าจะทำให้เลอะเทอะมากไป ก็ควรหาวิธีป้องกัน ด้วยการนำกระดาษหนังสือพิมพ์หรือนำผ้าพลาสติกมาปูไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อนก็ได้ เพราะเมื่อลูกรับประทานเสร็จแล้ว แม้จะเลอะเทอะแต่ก็สามารถทำความสามารถได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่อย่าไปกังวลว่าลูกจะกินเองแล้วจะทำให้หกเลอะเทอะ เพราะการคอยกังวลอยู่แบบนี้ อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ใจอ่อน จนช่วยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ลูกเองเลย
***ซึ่งการกระทำแบบนี้ จะเป็นวิธีที่ไม่สามารถทำให้ลูกเติบโตและรู้จักการเอาตัวรอดในการกินข้าวดื่มน้ำด้วยตัวเองได้เมื่อครั้งต้องไปอยู่ในสังคมที่ต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
อีกทั้งวิธีการที่ให้พ่อแม่ฝึก หัดลูกกินข้าวเอง ดื่มน้ำเอง นอกจากจะเป็นการเพิ่มพูนทักษะทางด้านต่างๆ ให้กับลูกแล้วนั้น ยังเป็นการฝึกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เหมาะสมตามวัยให้กับลูกด้วย และนั่นเองสิ่งนี้จึงเป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกของเราฉลาดในการเรียนรู้และปฏิบัติด้วยตัวเองโดยไม่ต้องกังวลว่า ถ้าไม่มีพ่อแม่ลูกจะสามารถกินข้าวดื่มน้ำด้วยตัวเองได้หรือเปล่า
ข้อมูลอ้างอิงจาก : www.meemodel.com
อย่างไรก็ตามหากคุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ว่าจะเริ่ม หัดลูกกินข้าวเอง ได้อย่างไร หรือควรฝึกตอนไหน เมื่อไหร่
Amarin Baby & Kids มีเทคนิคง่ายๆในการหัดให้ ลูกกินข้าวเอง ให้สำเร็จได้ก่อนวัย 1 ขวบ มาฝาก ดังนี้
5 เทคนิค หัดลูกกินข้าวเอง สำเร็จได้ก่อน 1 ขวบ
สำหรับ เทคนิคการ ฝึกหัดลูกกินข้าวเอง ให้สำเร็จได้ก่อนวัย 1 ขวบ แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด ได้ให้คำแนะนำที่ดีไว้ว่า… ความสามารถในการกินข้าวเองได้ถือเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่เด็กปกติทุกคนควรทำได้ เหมือนกับการเดิน การพูด เด็กแต่ละคนทำได้เร็วช้าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
1. อายุ = โดยเฉลี่ยจะเริ่มฝึกได้ประมาณ 9 – 12 เดือน หากรอให้ลูกโตกว่านี้จนเข้าสู่วัยต่อต้านแล้วค่อยฝึก จะทำให้การฝึกยากยิ่งขึ้น หรือหากถึงวัยที่เริ่มเดินได้ เขาจะไม่ยอมนั่งอยู่กับที่ ทำให้ติดนิสัยต้องเดินตามป้อน
2. โอกาสได้รับการฝึก = ถ้าฝึกบ่อยจะกินเองได้เร็ว การฝึกควรเริ่มต้นโดยให้ลูกถือช้อนคันหนึ่งไว้ตักอาหาร ขณะที่ผู้ใหญ่ป้อนอีกช้อนหนึ่ง หากลูกกินเองได้ดีแล้ว ไม่ควรช่วยป้อน แต่ยังต้องอยู่ใกล้ๆ เพื่อช่วยเหลือเช่น หั่นอาหารที่ชิ้นใหญ่เกินไป ถ้ากลัวเลอะบ้าน แก้ไขโดยการปูกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้รอบๆ หากกลัวเลอะตัวหรือเสื้อผ้าให้กินอาหารก่อนอาบน้ำ ใส่พลาสติกหรือผ้ากันเปื้อน ที่สำคัญไม่ควรดุเมื่อลูกทำเลอะเพราะจะทำให้ลูกหมดกำลังใจ
3. อารมณ์ของเด็ก = ถ้าหงุดหงิด ถูกบังคับถูกตำหนิ ถูกเร่ง เด็กจะไม่อยากกิน ถ้าได้มีส่วนร่วมในการเตรียมโต๊ะอาหาร เมนูอาหารน่าสนใจ บรรยากาศดีๆ ได้เห็นผู้ใหญ่นั่งกินอยู่ด้วย จะชอบกว่า
4. หน้าที่ของผู้ใหญ่ = คือเตรียมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แล้วปล่อยให้ลูกตัดสินใจเองว่าจะกินหรือไม่กิน ไม่ควรเตรียมอาหารให้มากเกินไป เพราะลูกเห็นแล้วอาจหมดกำลังใจควรยุติการกินเมื่อถึงเวลา 30 นาที หรือถ้าลูกเริ่มเล่นอาหารก็ให้ยุติการกินเช่นกัน แต่ไม่ต้องทำเป็นเรื่องตื่นเต้น เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกสนุกมากขึ้นที่จะทำอีกในครั้งต่อไป
5. อย่าลืมว่า >> สิ่งสำคัญไม่ใช่ปริมาณอาหารที่ลูกกิน แต่เป็นคุณภาพของอาหาร ลูกมีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีปัญหาโรคอ้วนเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจพ่อแม่ควรเตรียมอาหารที่ปราศจากไขมันเกลือ และน้ำตาลที่มากเกินไป
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อคุณพ่อคุณแม่ หัดลูกกินข้าวเอง ได้สำเร็จแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรสอนควบคู่ไปพร้อมๆ กันคือเรื่อง วินัยการกิน เพราะมีเด็กไม่กี่คนหรอกที่จะกินอาหารตามอย่างที่พ่อแม่ต้องการ ไม่น้อยเกินไป ก็มากเกินไป (โดยเฉพาะอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์) ปัญหาก็คือ ลูกจะติดนิสัยนี้ไปจนโต หากคุณพ่อคุณแม่ไม่เริ่มสร้างวินัยการกินตั้งแต่เด็ก ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้
- สังเกตอาการ พ่อแม่ควรสังเกตให้แน่ใจว่าลูกกำลังหิวจริงๆ ไม่ได้เป็นเพียงความเบื่อ เหนื่อย กลัว หรือเครียด อย่าให้ลูกกินถ้าเขาไม่หิวหรือยังกินอาหารตรงหน้าไม่หมด
- อย่าใช้อาหารเป็นเครื่องมือ พยายามอย่าใช้ของกินเป็นรางวัล และอย่าใช้วิธีการริบของกินเป็นวิธีลงโทษด้วย รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการใช้วิธีหลอกล่อ เช่น ให้ลูกกินขนมขณะกำลังช็อปปิ้ง เวลาที่คุณพยายามจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้ลูก หรือเมื่ออยากให้ลูกกลับบ้าน โดยใช้สิ่งของอย่างอื่นแทน เช่น ของเล่น หรือชวนลูกคุยเรื่องสนุกๆ
- ไม่ถูกรบกวน ควรจัดให้ช่วงเวลามื้ออาหารของลูกเป็นช่วงที่สงบ ไม่มีสิ่งต่างๆ รอบตัวรบกวน เพราะยิ่งลูกกินน้อยในมื้อหลัก เขาก็จะยิ่งหิวระหว่างมื้อมากขึ้น
สุดท้ายเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพราะคุณแม่บางคนอาจไม่รู้ตัวว่าชอบหยิบหาอะไรกินเมื่อตัวเองรู้สึกเบื่อ เหนื่อย หรือเครียด ซึ่งทำให้ลูกจำและทำตาม สิ่งสำคัญในการสร้างวินัยการกินที่ดี คือคุณพ่อคุณแม่ควรมีช่วงเวลากินที่แน่นอนและกินบนโต๊ะอาหารเท่านั้นจะเป็นการดีที่สุด
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :
- พ่อแม่ระวัง! เผลอสอน ลูกขี้เกียจ ทำลายอนาคตลูกได้!
- ฝึกลูกนั่งกระโถน ก่อนวัย 1 ขวบ ด้วย 6 เทคนิคง่ายๆ
- เคล็ดลับง่ายๆ 30 วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด สมองดี พัฒนาการเลิศ!
- 12 ทางลัด เลี้ยงลูกให้ฉลาด อารมณ์ดี ทำได้ง่ายๆ
บทความโดย: กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids