9. พาลูกไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนด
ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เขาเป็นโรคอย่างหัด เยื่อหุ้มสมองอักเสบและอีสุกอีใสได้ดีที่สุด ผลวิจัยยังชี้ว่าการได้รับวัคซีนหลายชนิดในเวลาใกล้ๆ กันไม่ได้เป็นอันตรายต่อทารกอย่างที่กลัวกันด้วย
10. คนใกล้ตัวลูกควรได้รับวัคซีนด้วย
โดยเฉพาะวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไอกรน เพราะถ้าว่าที่คุณแม่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ภูมิต้านทานก็จะถูกส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ และน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เขาเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ประมาณ 6 เดือน (แพทย์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ทารกได้ตอนอายุ 6 เดือนพอดี) ซึ่งในทารกแรกเกิด ไข้หวัดใหญ่ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน (อย่างมีไข้ต่ำๆ และคลื่นไส้) จึงดูเล็กน้อยไปเลย ในช่วงที่มีอายุครรภ์ประมาณ 27-36 สัปดาห์ ว่าที่คุณแม่ยังควรจะได้รับวัคซีนไอกรนด้วย จะได้ไม่แพร่เชื้อให้ลูกวัยแรกเกิดซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน คนใกล้ตัวลูก (อย่างพี่เลี้ยงเด็ก) ก็ควรจะได้รับวัคซีนเหล่านี้เช่นกัน
อย่าลืมดูแลตัวเองนะคุณแม่!
ใส่ใจดูแลลูกน้อยอย่างรอบคอบแล้ว สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวคุณแม่เองด้วย ถึงลูกอ่อนจะตื่นทุกๆ 2 ชั่วโมง คุณก็ควรจะพยายามนอนให้พอ (จะงีบในช่วงที่ลูกนอนกลางวันก็ได้) และต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณเป็นโรคที่แพร่สู่ลูกได้
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids
ภาพ: Shutterstock