ลูก 1 ขวบ วันนี้ ทำให้คนเป็นแม่อย่างฉันรู้เลยว่า ชีวิตของเรามันมีค่าและดีแบบนี้นี่เอง
สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกท่าน วันนี้เป็นหนึ่งวันที่มีค่ามากมายสำหรับชีวิตของผู้หญิงคนนึงอย่างฉัน ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเชื่อไหมคะว่า ดิฉันเคยคิดตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อใครและอะไร?” … ลืมบอกไปค่ะว่า ฉันเป็นคนหนึ่งที่ออกแนบเป็นโรคซึมเศร้านิด ๆ เก็บกดหน่อย ๆ สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าเป็นประจำทุกวัน แต่นับจากนาทีแรกที่ฉันรู้ว่าฉันตั้งครรภ์ เชื่อไหมคะว่า ฉันสามารถทิ้งทุกอย่างได้เพียงวันเดียว ฉันทิ้งบุหรี่ทั้งซองที่เพิ่งจะสูบไปได้แค่ 3 ตัว ฉันทิ้งเบียร์และเหล้าที่มีอยู่ในบ้านออกไปจนหมด และฉันก็เปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหมดได้ด้วยการใช้ระะเวลาไม่นาน
ฉันดูแลตัวเองดีมาก ๆ เลยละค่ะ จนกระทั้งในวันที่ฉันได้เห็นหน้า ผู้ชายคนนี้เป็นครั้งแรก … ใช่ค่ะ เขาคือลูกชายที่ฉันตั้งนับตารอคอยเป็นระยะเวลานาน นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ค่ะ จากคนที่ไม่ค่อยจะมีความอดทนเสียเท่าไร ก็กลายเป็นคนที่สามารถทนกับความเจ็บปวดของแผลที่ผ่าคลอดได้! จากคนที่ใจร้อนเอาแต่ใจ กลับใจเย็นสงบนิ่งและหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ลูกเงียบและนิ่ง
อ่านต่อ >> ความรู้สึกของคนเป็นแม่ได้ที่หน้าถัดไป
ลูก 1 ขวบ มันทำให้ฉันรู้ซึ้งถึงสิ่งต่าง ๆ ได้ดังนี้
- รักแท้มีอยู่จริง ฉันเคยคิดนะคะว่า รักแท้ไม่มีจริงหรอก ใครกันที่จะมาเจอหน้ากัน สบตากันแล้วคิดว่า นี่แหละ คือรักเดียวที่ฉันเฝ้าหามานาน … แต่การมีลูก ทำให้ฉันได้รู้เลยว่า มันมีจริง ๆ นะ เจ้ารักแท้ที่ว่า แถมยังเป็นรักแท้ที่ไม่ธรรมดา ที่ฉันพร้อมที่จะมอบชีวิตทั้งชีวิตให้ได้เสียด้วย
- อ้อมกอดที่อบอุ่น คุณเชื่อไหมคะว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเคยตามหาอ้อมกอด ๆ นึง ที่จะทำให้โรคซึมเศร้าของฉันหายได้ ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะเจอเลยละค่ะ แม้กระทั่งอ้อมกอดของสามีเองก็เถอะ อบอุ่นน่ะใช่ แต่มันไม่ใชความอบอุ่นแบบที่ฉันต้องการ จนกระทั่งมาเจอเด็กผู้ชายตัวน้อย ๆ คนนี้ มันทำให้ฉันได้รู้เลยว่า “ใช่!! อ้อมกอดของเด็กคนนี้นี่แหละ ที่ฉันเฝ้าตามหามาตลอดทั้งชีวิต”
- คุณไม่มีสิทธิ์โกรธแม่ของคุณเลย คุณเคยทะเลาะหรือรู้สึกงอนกับคุณแม่ของคุณเองบ้างไหมคะ คุณเคยรู้สึกว่า จะห่วงอะไรนักหนา จะพูดอะไรมากมาย จนทำให้ตัวของคุณเองรู้สึกรำคาญ และบางครั้งถึงขั้นโกรธคุณแม่ของคุณเองเลยก็มี ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะฉันก็เป็นคนนึงที่เคยเป็น … แต่นับตั้งแต่วันแรกที่ฉันมีลูก ฉันรู้สึกเลยว่า ชีวิตทั้งชีวิตนี้ คน ๆ เดียวที่ฉันไม่สามารถที่จะมีสิทธิ์โกรธได้เลยก็คือ “คุณแม่” ของฉันเอง
- ลูกเจ็บ เราเจ็บยิ่งกว่า เชื่อไหมคะว่า คำ ๆ นี้ คุณแม่ของฉันเคยพูดเสมอ ๆ ฉันยังเคยคิดเลยนะคะว่า เว่อร์ละ มันจะเป็นไปได้อย่างไร คนละคนกัน … พอมามีลูกนี่ละค่ะ ถึงทำให้รู้เลยว่า เวลาที่ลูกร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นจากการฉีดยา ฉีดวัคซีน หกล้ม หรือเสียใจ … ลูกเจ็บมากเท่าไร มันทำให้คนเป็นแม่อย่างฉันเจ็บมากกว่านั้น จนหลาย ๆ ครั้ง น้ำตาก็เผลอไหลตามออกมาเลยเสียด้วย
- เด็กคือผ้าขาว ไม่ว่าคุณจะทำอะไร จะแต่งแต้มสีสรรแบบไหน ลูกก็จะทำตามที่คุณวางเอาไว้ทุกอย่าง จึงไม่แปลกเลยที่ใคร ๆ มักจะบอกกล่าวเสมอ ๆ ว่า อยากให้ลูกเป็นแบบไหน พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง
อ่านต่อ >> ความรู้สึกของคนเป็นแม่ได้ที่หน้าถัดไป
6. ลูกคือครู ใครจะไปเชื่อละคะว่า เด็กตัวเล็ก ๆ แค่ขวบเดียวคนนี้ จะเป็นคุณครูผู้ที่มอบความรู้และบทเรียนให้กับฉันมากมาย ลูกทำให้ฉันกระตือรือร้นในการอ่านและศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นโรคภัย วิวัฒนาการของตัวลูกเองในแต่ละเดือน การดูแลเด็กเล็ก … เรียกได้ว่ามีลูกแล้ว ไม่ได้แม่นแค่ปฏิบัตินะจ้ะ ทฤษฎียังแน่นปึ้กอีกเสียด้วย
7. สอนให้รู้ว่า ความเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นเรื่องธรรมดาของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ๆ เนื่องจากภูมิต้านทานของพวกเขายังน้อย แต่ถ้าให้เลือกได้ คนเป็นแม่อย่างฉันขอเจ็บป่วยไม่สบายเองเสียยังดีกว่า
8. กระเป๋าใบเดียวไม่เคยพอ เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีลูก แค่กระเป๋าใบเล็ก ๆ น่ารักใส่มือถือ แป้ง ลิปสติกแค่นี้ก็พอแล้ว แต่หลังจากมีลูก … เชื่อไหมคะว่า ของพวกนี้แทบไม่มีอยู่ในกระเป๋าเลย ทุกพื้นที่มีแต่ของ ๆ ลูก และบ่อยครั้งทำให้รู้ว่า กระเป๋าใบเดียวมันเล็กเกินไปแล้วจริง ๆ
9. ประหยัดเงินมากขึ้น ตั้งแต่ที่ดิฉันมีลูก ดิฉันรู้เลยว่า ตัวเองประหยัดเงินในการซื้อของใช้ส่วนตัวมากแค่ไหน ไม่ต้องอะไร เมื่อก่อนมีเสื้อชั้นในทุกสีทุกรุ่นทุกสไตล์ (เอาไว้ยั่วสามี) แต่เดี๋ยวนี้ มีใส่ให้ครบทุกวัน หรือสามสี่ตัวนี่ก็หรูมากพอแล้ว … เอาเงินซื้อชุดชั้นใน ไปซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ลูกดีกว่า … เพราะรู้สึกมีความสุข
10. เจ้าน้ำตา ฉันเคยเป็นสาวแกร่งนะคะ เรื่องอะไรนิดอะไรหน่อยนี่ไม่ค่อยร้องหรอก เรียกได้ว่า อย่าวังว่าจะได้เห็นน้ำตาของฉันเลย แต่ตั้งแต่มีลูกมา ไม่รู้ว่าฮอร์โมนความเป็นแม่สูบฉีดหรืออย่างไร ไม่ว่าจะได้ยิน ได้ฟัง หรือได้อ่านเรื่องราวอันเกี่ยวกับเด็กทั้งดีและไม่ดี … น้ำตา ก็ไหลออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เสมือนกับแค่เปิดก๊อกน้ำก็ไหล บ่อน้ำตาลหนอช่างตื้นจริง ๆ เชียว
นี่แค่คร่าว ๆ เท่านั้นละค่ะ กับตลอดระยะเวลา 1 ปี เพราะเชื่อว่าต่อไปนี้ ดิฉันคงยังต้องเจออะไรที่เกี่ยวกับลูกอีกเยอะแน่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัจธรรมข้อนึงที่บอกเลยพีคมาก นั่นคือ “คนเป็นแม่จะเจ็บปวดและจะตายไม่ได้” เพราะถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมา ลูกรักของเราจะอยู่อย่างไร จริงไหมละคะ คุณแม่ ๆ ทั้งหลายขา
อ้างอิงเรื่องราว: Scarymommy
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี พ่อแม่ต้องทำ 5 สิ่งนี้ให้กับลูก!
- สอนลูกเรื่องเวลา ทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นด้วยหลัก 5 ข้อ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่