สำหรับว่าที่พ่อแม่มือใหม่คงตื่นเต้นไม่น้อยกับการรอคอยสมาชิกใหม่ที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่นาน การเตรียมของใช้ให้เบบี๋แต่เนิ่น ๆ ในตอนนี้จึงเป็นอีกเรื่องจำเป็นที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไม่เร่งรีบเมื่อถึงตอนใกล้คลอด เพื่อที่วันคลอดจะได้มีใช้ทันที ไม่ฉุกละหุก และเมื่อมีเวลาเตรียมตัวก็ทำให้รู้ว่าบางรายการนั้นอาจจะยังไม่จำเป็นต้องซื้อใช้ในตอนแรก ๆ มาเช็กลิสต์ก่อนซื้อรายการ ของใช้เด็กแรกเกิด อย่างละเอียด อย่างไหนควรซื้อเลย อยากไหนเอาไว้ก่อนได้บ้าง
เช็คลิสต์ 60 ของใช้เด็กแรกเกิด อย่างไหนควรซื้อเลย อย่างไหนไม่ต้องรีบ!
#หมวดเสื้อผ้า
1.ผ้าห่อตัวหรือผ้าพันตัวผืนใหญ่ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีเตรียมไว้ก่อนคลอด เพื่อใช้ในที่พาลูกน้อยออกจากโรงพยาบาลหรือไปหาคุณหมอ เพราะในช่วงเดือนแรกทารกยังอยู่ในช่วงปรับตัวควรมีผ้าไว้ห่อตัวเด็กเพื่อสร้างความอบอุ่น ผ้าห่อตัวควรเป็นผ้าสำลีที่จะช่วยให้อบอุ่นกว่าเนื้อผ้าอื่น ๆ เหมาะสำหรับห่อตัวเด็กแรกเกิด
2.เสื้อผ้าเด็กอ่อน เป็นของใช้เบบี๋อีกหนึ่งอย่างที่คุณแม่ควรเตรียมไว้ก่อนคลอด การเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับทารกแรกเกิดต้องละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก ไม่แพ้ของใช้เด็กอ่อนอื่น ๆ เลยทีเดียว แต่การซื้อเสื้อผ้าให้เบบี๋ในช่วงแรก ๆ คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเตรียมซื้อไว้เยอะเกินไปเพราะเด็กในช่วงนี้จะโตไว้ อาจซื้อประมาณแค่ 2-3 ชุดเพื่อสลับเปลี่ยนตามช่วงอายุ คือ ไซส์ 60 สำหรับช่วงแรกเกิด ไซส์ 70 สำหรับช่วง 1-3 เดือน และไซส์ 80 สำหรับช่วงอายุ 4 เดือนขึ้นไป ควรเลือกผ้าที่นุ่ม เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าป่าน เพื่อไม่ให้ระคายเคืองต่อผิว เนื่องจากผิวทารกแรกเกิดบอบบางมาก และควรเป็นเสื้อแบบคอกว้าง เลือกแบบมีเชือกผูกเพื่อให้ง่ายต่อการใส่
3.หมวก/ ถุงมือ/ ถุงเท้า การรักษาอุณหภูมิของทารกแรกเกิดเป็นเรื่องที่สำคัญ การเตรียมหมวก เอาไว้คลุมศีรษะลูกในวันที่แดดร้อนหรือหนาว ถุงมือ เอาไว้ใส่เพื่อป้องกันลูกน้อยเอาเล็บข่วนหน้าตัวเอง ถุงเท้า เลือกไซส์ให้พอดีป้องกันการหลุดออกจากเท้า จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมไว้ซัก 2-3 ชุด เพื่อไว้ใช้สลับกันค่ะ ทั้งนี้คุณแม่ควรให้ลูกน้อยได้ใส่ถุงมือและถุงเท้าได้ในช่วงแรก ๆ เท่านั้น แนะนำให้ใส่เพียงแค่ 1-2 อาทิตย์ เพื่อให้ทารกปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศภายนอกเพราะว่าลูกยังเล็กอยู่ แต่หลังจากนั้นเมื่อลูกเริ่มขยับและเริ่มตอบสนองได้แล้ว คุณแม่ก็ควรเลิกใส่ เพราะว่าเจ้าตัวน้อยจะได้มีโอกาสขยับนิ้วและขยับมือไปตามพัฒนาการของเขาด้วย
4.ผ้าอ้อมสาลู อีกหนึ่งไอเทมของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิด เนื้อผ้านุ่ม ซักคราบเปื้อนออกได้ง่าย และแห้งไว ควรมีเตรียมไว้อย่างน้อย 2 โหลเพื่อสลับการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปค่ะ ซึ่งปกติทารกแรกเกิดจะขับถ่ายบ่อย โดยจะปัสสาวะเฉลี่ย 10-15 ครั้งต่อวัน และอุจจาระประมาณ 10 ครั้งต่อวัน การใช้ผ้าอ้อมสาลูจะช่วยให้คุณแม่ง่ายต่อการใช้งาน แถมยังช่วยประหยัดเงินซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ด้วย
5.ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ปัจจุบันมีผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ออกแบบไซส์ New born มาสำหรับเด็กแรกเกิด เหมาะกับลูกน้อยที่มีน้ำหนักตั้งแต่ แรกเกิด – 5 กิโลกรัม ในส่วนของผ้าอ้อมสำเร็จรูปคุณแม่อาจไม่ต้องเตรียมซื้อไว้เยอะก็ได้นะคะ เพราะส่วนใหญ่เวลาคนมาเยี่ยมเจ้าตัวน้อยก็จะเลือกซื้อผ้าอ้อมติดไม้ติดมือมาฝาก คุณแม่อาจจะเตรียมซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปเอาไว้อย่างน้อย 2 แพ็คเอาไว้ใช้ในช่วงสัปดาห์แรกก็ได้ ควรเลือกซื้อผ้าอ้อมที่อ่อนโยนต่อผิว มีแผ่นรองรับการดูดซึมที่รวดเร็ว สามารถระบายอากาศได้ดี ที่สำคัญเวลาใส่ผ้าอ้อมให้ลูกควรระวังตรงง่ามขาไม่ให้รัดจนเกิดไป เพราะจะทำให้คันระคายเคือง เจ็บ เป็นรอยแดง เกิดผื่นผ้าอ้อมได้ หรือไม่ให้หลวมจนเกิดไปเพราะฉี่ลูกก็อาจจะทะลักออกมาได้ค่ะ เพราะผิวทารกแรกเกิดบอบบางและไวต่อการสัมผัส คุณพ่อคุณแม่ต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นกรณีพิเศษนะคะ
6.กางเกงผ้าอ้อมแบบซักได้ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เพิ่มมาในยุคปัจจุบันที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบง่าย สบายสำหรับคุณแม่ และมีแบบน่ารัก ๆ ให้คุณแม่ได้สนุกกับการแต่งตัวลูกสาวหรือลูกชายมากขึ้น ควรเลือกซื้อกางเกงผ้าอ้อมขนาดที่ใหญ่กว่าลูก 1 ไซส์ พร้อมกับแผ่นรองซับปัสสาวะที่ไว้รองในกางเกงผ้าอ้อม ที่มีทั้งแบบทำจากไมโครไฟเบอร์หรือนาโนที่กันน้ำและดูดซับได้ดี และแบบออร์แกนิกที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียและผื่นผ้าอ้อม แต่ถ้าหากคุณแม่เลือกที่จะใช้ผ้าอ้อมสาลูสลับกับการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแล้ว กางเกงผ้าอ้อมก็อาจจะไม่ต้องรีบซื้อมาใช้ในช่วงแรก ๆ ก็ได้นะคะ
7.ผ้ากันน้ำลาย ไอเทมที่ควรมีไว้เผื่อหลาย ๆ ผืน เพราะทารกมักมีน้ำลายหรือน้ำนมไหลออกมาจากปาก คุณแม่ควรเลือกผ้าที่ซับน้ำได้ดีและทำความสะอาดได้ง่าย อย่างผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอน 100%
#หมวดอุปกรณ์อาบน้ำและทำความสะอาด
8.อ่างอาบน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับของใช้เด็กแรกเกิดที่ควรซื้อติดบ้านไว้อีกชิ้นเพื่อไว้อาบน้ำเด็กอ่อน คุณแม่ควรเลือกแบบชนิดที่มีที่กั้นกันลื่นเพื่อความปลอดภัย เพราะการอาบน้ำเบบี๋สำหรับคุณแม่มือใหม่อาจจะไม่ใช่เรื่อง่าย แต่ถ้าหัดไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดความชำนาญขึ้นค่ะ
9.ตาข่ายรองอาบน้ำเด็ก ใช้สำหรับพยุงตัวลูกเวลาอาบน้ำ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย และเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เป็นกังวลกลัวว่าลูกจะหลุดมือในขณะอาบน้ำ
10.สบู่/ แชมพูสระผม สำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและผมทารกคุณแม่สามารถเลือกใช้แบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบ Head to Toe ที่ใช้อาบน้ำและสระผมได้ในขวดเดียวกัน และสำหรับทำความสะอาดเด็กแรกเกิดควรเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมธรรมชาติหรือเลือกสูตรที่อ่อนโยนที่สุด เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการแพ้หรือระคายเคือง และไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา
11.แป้งเด็ก ความจริงแล้วสำหรับทารกนั้นหมอแนะนำว่าถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องทาแป้งให้ก็ได้ค่ะ เพราะในแป้งนั้นมีส่วนผสมของทัลคัม ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้ ถึงแม้ว่าสารนี้จะไม่ทำให้เกิดอันตรายในช่วงสั้นๆ แต่แร่หินทัลคัมไม่สามารถย่อยสลายได้เอง ถ้าสูดดมเข้าไปทีน้อย เป็นเวลานานๆ อาจสะสมอยู่ในปอด ผิวปอดจะจับแป้งเอาไว้เป็นก้อน ทำให้มีปัญหาการหายใจ มีอาการไอ จาม ระบบทางเดินหายใจติดขัด หากเป็นเด็กทารกอาจทำให้ปอดอักเสบ เสี่ยงเกิดโรคเนื้องอกในปอด และเสียชีวิตได้ ดังนั้นการเลือกแป้งเด็กสำหรับทารก ควรเลือกแป้งเด็กที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ผ่านการทดสอบจากสถาบันที่น่าเชื่อถือแล้วว่าปลอดภัย ปราศจากสารทัลคัม ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สามารถใช้ได้ปกติในเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ถ้าในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืด หมอจะไม่แนะนำให้ทาแป้งจนกว่าเด็กจะโตกว่านี้ แป้งสำหรับทารกยังมีให้เลือกหลายตัวเลือกทั้งแบบโลชั่นเนื้อแป้ง ที่แห้งและลื่นขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนการทาแป้ง หรือแป้งที่ทำด้วยแป้งข้าว แป้งเด็กที่แม่ ๆ บอกต่อกัน เช่น Newborn Reiscare เป็นต้น ส่วนการทาแป้งให้ทารก ควรเทแป้งลงบนฝ่ามือแล้วค่อยลูบลงบนตัว เพื่อลดการฟุ้งกระจายและการสูดดมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจค่ะ
12.โลชั่น/ เบบี้ออยล์ ใช้โลชั่นหรือเบบี๋ออยล์หลังอาบน้ำ เพื่อเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นผิวให้ลูกน้อย และควรเลือกสูตรที่เป็นธรรมชาติ อ่อนโยนที่เหมาะกับผิวเด็ก
13.ฟองน้ำล้างตัว เอาไว้สำหรับชุบน้ำและบีบเวลาล้างตัวให้ลูกน้อยขณะอาบน้ำ ควรเลือกซื้อแบบที่เป็นธรรมชาติ
14.หมวกกันน้ำเด็ก สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่กังวลว่าเวลาสระผมกลัวแชมพูหรือน้ำกระเด็นเข้าตาก็สามารถหาซื้อมาติดบ้านไว้ได้ค่ะ
15.ผ้าเช็ดตัว ควรเลือกผ้าที่นุ่มและซึมซับน้ำได้ดี คุณแม่ควรเตรียมผ้าเช็ดตัวที่ใช้ห่อตัวหลังอาบน้ำให้ลูกน้อย 1 ผืน และผ้าขนหนู 2 ผืน รวมถึงผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ อีก 1-2 ผืน เพื่อสลับเปลี่ยนใช้หลังทำความสะอาด
16.สำลีก้าน (คอตตอนบัด) / สำลีก้อน/ สำลีแผ่นแบบรีดข้าง ควรใช้สำลีผ่านการฆ่าเชื้อ สะอาด ปลอดภัย และไร้สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือเลือกที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ 100% และควรมีสำลีหลาย ๆ แบบติดบ้านไว้
- คอตตอนบัด สำหรับทำความสะอาดรูหู เช็ดสะดือ และอื่น ๆ
- สำลีแผ่นแบบรีดข้าง สำหรับเช็ดเปลือกตา
- สำลีแบบก้อนหรือแบบแผ่นสำหรับไว้ใช้เช็ดก้นลูก หรือเช็ดคราบต่าง ๆ บนร่างกาย
อ่านต่อ 60 รายการของใช้ ที่แม่ต้องเตรียมให้เบบี๋ก่อนคลอด คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
17.ทิชชู่เปียก (Baby Wipes) ทิชชู่เปียกเป็นอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดร่างกายลูกน้อยอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เอาไว้ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดร่างกายลูกและทำความสะอาดทั่วไป สะดวกต่อการหยิบใช้ง่าย เมื่ออยู่นอกบ้าน ทิชชูเปียกสำหรับเด็กควรเลือกแบบมีส่วนผสมจากธรรมชาติ แถมผ่านการทดสอบในผิวแพ้ง่าย ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารเรืองแสง เนื้อกระดาษไม่ขาดง่าย เช็ดออกสะอาด
18.ผ้าก๊อซ สำหรับชุบน้ำอุ่น ใช้เช็ดปาก เช็ดเหงือก
19.น้ำยาซักผ้าเด็ก & น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ก ควรเลือกซื้อแบบสูตรออร์แกนนิค อ่อนโยนต่อผิวทารก และปราศจากสารเคมีที่รุนแรง
#หมวดอุปกรณ์ให้นม
20.เสื้อชั้นในสำหรับให้นม ง่ายต่อการใช้งานสำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
21.ผ้าคลุมให้นมลูก ไอเทมที่เพิ่มความสบายเมื่อต้องให้นมลูกในที่สาธารณะ หรือต้องปั๊มนมในที่ทำงาน
22.แผ่นซับน้ำนม สำหรับคุณแม่ที่น้ำนมเยอะ ควรซื้อแผ่นซับน้ำนมเพื่อใช้กันไม่ให้น้ำนมไหลซึมเลอะเสื้อผ้า มีทั้งแบบซักและแบบใช้แล้วทิ้ง
23.เครื่องปั๊มนม ไอเทมจำเป็นสำหรับคุณแม่ทำงานที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่มีเวลาให้นมลูกตอนกลางวัน เครื่องปั๊มนมมีให้เลือกหลายชนิดทั้งแบบปั๊มมือและแบบปั๊มด้วยไฟฟ้า แต่ละแบบก็แตกต่างกันในเรื่องของราคา การใช้งาน และความรวดเร็วในการปั๊ม
24.ถุงเก็บน้ำนม มีหลายยี่ห้อและราคาไม่แพงค่ะ แต่ควรเลือกแบบมีซิปล็อกอย่างน้อย 2 ชั้น
25.หมอนรองให้นม ตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่หายเมื่อยเวลาให้นมลูกได้เป็นอย่างดี เพราะหมอนจะช่วยรองรับน้ำหนักเจ้าตัวน้อยตอนแม่ให้นม เหมาะสำหรับคุณแม่ผ่าคลอดและคุณแม่มือใหม่ที่หัดให้นมลูก
26.ขวดนม คุณแม่ควรเลือกเป็นขวดพลาสติกที่ปลอดสารบีพีเอ (BPA Free) ผลิตจากพลาสติกชั้นดีและทนความร้อนได้สูงกว่า 120 องศา เพื่อไม่ละลายเวลานึ่งฆ่าเชื้อโรค มีรูปทรงที่จับถนัดมือ ถือง่าย มีฐานกว้างที่ปากขวด และล้างทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญคือจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานคณะกรรมการอาหารและยา และมีมาตรฐาน มอก. สามารถซื้อขนาด 4 ออนซ์และ 9 ออนซ์ เตรียมไว้ได้เลยค่ะ
27.น้ำยาล้างขวดนม สำหรับใช้ทำความสะอาดขวดนม จุกนม และของใช้สำหรับทารก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ชนิดที่อ่อนโยน หรือแบบออร์แกนิค ไม่ทิ้งสารตกค้าง เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
28.แปรงล้างขวดนมและจุกนม ควรเลือกชนิดที่ทนความร้อนและเป็นแบบไนลอนที่ขนแปรงนุ่ม ไม่ทำให้ขวดนมเป็นรอย และทนกว่าแบบฟองน้ำ
29.เครื่องนึ่งขวดนม เป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคหลังทำความสะอาดขวดนม ใช้งานได้สะดวกและสามารถเก็บขวดนมไว้ในเครื่องนึ่งได้เลย
30.เครื่องอุ่นนมและอาหาร เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องสต๊อกน้ำนม ซึ่งการใช้เครื่องอุ่นนมจะดีกว่าการเอาน้ำร้อนมาอุ่นนม แต่ถ้าคุณแม่เห็นว่าไม่จำเป็นก็สามารถอุ่นนมโดยแช่ในน้ำอุ่นก็ได้เช่นกัน
31.กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ปั๊มนมและเก็บสต๊อกนมรักษาความเย็นของนมแม่เมื่ออยู่นอกบ้าน
32.กล่องโฟมเก็บขวดนม สำหรับคุณแม่ที่เดินทางบ่อย ๆ ควรมีไอเทมนี่เอาไว้สำหรับใส่ขวดนมที่ช่วยเก็บอุณหภูมิร้อนเย็นได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ง่ายต่อการพกพา
33.กระปุกแบ่งนมผง ที่แบ่งใส่นม 3 ช่อง เตรียมไว้สำหรับชงนมให้ลูก 3 มื้อ หากคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ของใช้ชิ้นนี้ก็ยังไม่ต้องรีบซื้อเตรียมไว้
#หมวดที่นอน
34.เตียงนอนเด็ก ควรเลือกวัสดุที่มั่นใจว่ามีความแข็งแรงได้มาตรฐาน บริเวณซี่กรงมีตัวล็อกหนาแน่น ควรมีระยะห่างไม่เกิน 6 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้หัวลูกน้อยเข้าไปติดได้ และที่กันเตียงมีความสูง จากที่นอนอย่างน้อย 26 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยตกหรือปีนข้ามไปได้เมื่อโตขึ้น
35.เบาะนอน/ ฟูก ที่นอนเอาไว้รองนอนสำหรับเบบี๋ ทำให้ลูกรู้สึกนุ่มและหลับสบาย การเลือกเบาะให้ลูกน้อยจึงมีความสำคัญมาก เพราะเบาะนอนมีผลต่อโครงสร้างและพัฒนาการของทารก คุณแม่ควรเลือกเบาะนอนที่ทำจากใยสังเคราะห์ดีกว่านุ่น เพื่อไม่นิ่มจนเกินไป เพื่อการนอนที่ถูกสุขลักษณะ เมื่อทารกนอนจะได้ไม่ยุบตัว ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับลูกน้อยได้ในกรณีที่เจ้าตัวน้อยเกิดพลิกตัวนอนคว่ำหน้าจะทำให้หน้าจมลงไปและหายใจไม่ออก และใยสังเคราะห์จะไม่มีตัวกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้เหมือนนุ่น
36.ผ้าปูที่นอน ควรเลือกที่เป็นผ้าฝ้าย นิ่มเบา สามารถถอดซักได้ และระบายอากาศได้ดี
37.ผ้าห่ม/ ผ้าคลุมตัวทารก ควรมีขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บปลายไว้ใต้เบาะที่นอนได้ ชายผ้าห่มไม่ควรรุ่ยร่ายเพราะอาจทำให้พันนิ้วหรือลูกจับอมเข้าปากจนเกิดการสำลักได้ ควรเป็นผ้าทำจากเส้นใยอะคริลิกหรือผ้าฝ้ายผสมพอลิเอสเตอร์ ทำความสะอาดได้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ การใช้ผ้าห่มอาจใช้เมื่ออยู่ในห้องที่เปิดแอร์ (ไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส) เพื่อทำให้ลูกอุ่นสบาย
38.ผ้ายางรองฉี่/ แผ่นกันซึม ใช้สำหรับปูรองบนที่นอนและใช้ผ้าอ้อมปูทับเพื่อป้องกันไม่ให้ปัสสาวะของลูกซึมเลอะที่นอน และสามารถหยิบไปซักทำความสะอาดได้เพื่อสุขลักษณะที่ดีบริเวณที่นอนของลูกน้อย
39.เปลไกว การใช้เปลไกวหรือปัจจุบันที่นอนเด็กบางยี่ห้อที่ออกแบบมาให้ไกวตัวเด็กได้ เพราะการเคลื่อนไหวจะช่วยทำให้ทารกสงบลงได้ดี และยังเป็นตัวช่วยลดภาระความเหนื่อยของแม่ลงได้ ทำให้แม่ได้มีเวลาพัก แต่เมื่อทารกงอแงก็ควรสลับกับการอุ้มเพื่อให้ลูกได้สัมผัสกับอกแม่สร้างสายใยผูกพันระหว่างแม่ลูก ที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
40.มุ้งครอบ สำหรับกันยุงมากัดเจ้าตัวน้อย ควรเลือกที่ขนาดใหญ่ ระบายอากาศได้ดี แต่สำหรับบ้านที่ติดมุงลวดกันยุงก็อาจไม่จำเป็นต้องซื้อมาใช้ หรือนำมาใช้เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนที่นอนที่อื่นได้ค่ะ
#หมวดยา/ เวชภัณฑ์
41.ปรอทวัดไข้ อุปกรณ์ที่ควรมีติดบ้านไว้ใช้ได้ตั้งแต่ลูกเล็กไปจนถึงโตเลยค่ะ ในปัจจุบันมีปรอทวัดไข้ให้เลือกหลายชนิด ทั้งแบบดิจิทัลที่ใช้งานง่าย แม่นยำ และปลอดภัย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับราคาที่แตกต่างกันด้วย
42.ครีมทาแก้ผื่น/ครีมทากันผื่นผ้าอ้อม สำหรับทารกบางคนอาจมีผื่นขึ้นที่ก้นและบริเวณอวัยวะเพศ เนื่องมาจากการแพ้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป การใช้ครีมทากันผื่นผ้าอ้อมเป็นการรักษาเบื้องต้นที่ช่วยลดและบรรเทาอาการได้ โดยใช้ทาบาง ๆ บริเวณก้นหลังทำความสะอาดร่างกายและซับให้แห้งหรือทาทุกครั้งก่อนเปลี่ยนผ้าอ้อม เพื่อปกป้องและบำรุงผิวบาง ๆ ของลูกน้อย ๆ เสมือนเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ผิวของลูกเสียดสีกับผ้าอ้อมโดยตรง
อ่านต่อ 60 รายการของใช้ทารกแรกเกิด คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
43.มหาหิงค์ สำหรับป้องกันท้องอืด และมีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการหวัดและอาการไอได้ด้วย ควรเลือกซื้อชนิดที่มีแอลกอฮอล์น้อย ๆ ใช้ชุบกับสำลีทาที่หน้าท้อง ฝ่ามือ และฝ่าเท้าของลูกหลังอาบน้ำเสร็จ
44.ครีมทาแก้คันอักเสบบวม ไว้สำหรับทาลดอาการคัน อาการอักเสบจากยุงกัด มดและแมลงอื่น ๆ รวมถึงอาการแสบคันจากแดดและฝุ่นละออง อ่อนโยนไม่ระคายเคืองต่อผิวลูก เหมาะสำหรับทารกอายุ 1 เดือนขึ้นไป
45.ยาแก้ท้องอืดสำหรับทารก เช่น ไกรพ์วอเตอร์ (Gripe Water) หรือ Air-x ใช้สำหรับบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อของทารกแรกเกิด
46.ยากันยุง/ แผ่นแปะกันยุง สำหรับบ้านที่ไม่มีมุ้งลวดหรือมุ้งครอบกันยุง ยากันยุงสำหรับเด็กก็เป็นตัวช่วยอย่างหนึ่ง แต่ควรใช้ในเด็กที่อายุ 3 เดือนขึ้น และบางยี่ห้อใช้ได้สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป คุณแม่ควรอ่านสลากหรือสอบถามจากเภสัชกรก่อนซื้อเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยนะคะ
47.ชุดป้อนยาทารก ควรเลือกแบบที่เป็นจุกเหมือนขวดนม ใช้ได้ตั้งแต่วัยแรกเกิด จะช่วยทำให้ป้อนยาลูกได้สะดวก มีปริมาณยาที่ถูกต้อง และป้องกันการหกเลอะเทอะในระหว่างการป้อนยาได้
48.ที่ดูดน้ำมูก (ลูกยางแดง) ไว้สำหรับดูดน้ำมูก กรณีที่มีปัญหาน้ำมูกคั่ง ทำให้ดูดนมหรือหายใจลำบาก สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือแผนกขายของใช้สำหรับเด็ก
49.น้ำเกลือนอร์มัลซาไลน์ เป็นน้ำเกลือสำหรับล้างจมูกที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว มีความเข้มข้น 9% สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เพื่อใช้ทำความสะอาดโพรงจมูก ลดปริมาณน้ำมูกที่คั่งค้าง ๆ ภายในรูจมูกให้ลูกหายใจได้สะดวก สำหรับน้ำเกลืออาจจะยังไม่ต้องรีบซื้อเตรียมไว้ นอกจากลูกน้อยมีอาการและรอให้คุณหมอแนะนำในการใช้กับทารก
บทความแนะนำ : ตู้ยาสามัญประจำบ้านสำหรับลูกน้อยต้องมีอะไรบ้าง?
#หมวดของใช้สำหรับเดินทาง
50.รถเข็นเด็ก ในปัจจุบันรถเข็นมีอยู่หลายแบบ หลายยี่ห้อออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละครอบครัว ทั้งรถเข็นธรรมดา รถเข็นชนิดพับได้ และรถเข็นที่ดัดแปลงเป็นคาร์ซีทได้ การจะเลือกใช้แต่ละชนิดก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หลักสำคัญควรเลือกรถเข็นแบบที่ปรับเอนได้ทั้งนั่งและนอน เข็นได้ง่าย มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา มีเบรกในตัว มีขนาดและปรับระดับความสูงได้ สามารถพับเก็บได้ง่าย ขนขึ้นรถได้สะดวก ของใช้ชิ้นนี้คุณแม่อาจจะรอไว้ซื้อเมื่อลูกน้อยสามารถตั้งศีรษะเองได้แล้ว คอแข็งไม่โงนเงน แล้วค่อยพาเจ้าตัวน้อยไปนั่งรถชมวิว เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกบ้านกันค่ะ
51.คาร์ซีท จัดเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ควรมีติดรถเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทาง เพราะจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือเสียชีวิตให้กับลูกน้อยได้ คุณแม่ควรเลือกซื้อคาร์ซีทที่ผลิตใหม่ซึ่งจะดีกว่าการเลือกใช้คาร์ซีทมือสอง อย่าตัดสินใจซื้อที่ราคาถูกหรือแพง แต่ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เลือกขนาดที่มีความเหมาะสมกับน้ำหนักตัวของลูก เลือกเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด จะปลอดภัยกว่าแบบ 3 จุด และเข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีทควรผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้วยเช่นกัน การติดตั้งคาร์ซีทในครั้งแรกค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย คุณพ่อหรือคุณแม่ควรรู้ว่าตำแหน่งที่ปลอดภัยสำหรับติดคาร์ซีทภายในรถ คือเบาะด้านหลังตรงกลาง เมื่อติดอุปกรณ์ชิ้นนี้เวลาเดินทางก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจในเรื่องความปลอดภัยของลูกน้อยได้
52.เป้อุ้มเด็ก หรือกระเป๋าจิงโจ้ ตัวช่วยของแม่ยุคใหม่เวลาที่ต้องพาลูกน้อยออกนอกบ้าน ที่จะช่วยทำให้คุณแม่อุ้มลูกแบบสบายขึ้น มีความคล่องตัว และใช้มือทำธุระอย่างอื่นได้ในขณะที่ลูกน้อยอยูในเป้อุ้มเด็ก ของชิ้นนี้ถ้าในช่วง 3 เดือนแรกที่คุณแม่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพาลูกน้อยออกนอกบ้านก็อาจจะไม่ต้องรีบซื้อก่อนก็ได้ค่ะ แต่เมื่อลูกอายุ 4 เดือนขึ้นไปคอและหลังเริ่มแข็งแรงก็สามารถเลือกใช้เป้อุ้มเด็กมาเป็นไอเทมเสริมเพื่อพาลูกน้อยออกไปเห็นสิ่งต่าง ๆ นอกบ้าน ในปัจจุบันเป้อุ้มเด็กออกแบบให้มีทั้งแบบสะพายหน้าและแบบสะพายหลัง คุณแม่เลือกใช้ยี่ห้อไหนก็ได้ แต่ควรเช็กว่าเป้ควรมีสายคาดที่แข็งแรงมากพอที่จะรองรับน้ำหนักของลูกได้ และมีที่สำหรับพยุงคอ
53.กระเป๋าใส่ของใช้จำเป็น สำหรับเวลาพาลูกออกนอกบ้าน เพื่อใส่สัมภาระเด็กอ่อน เช่น ผ้าอ้อม เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน ขวดนม กระติกน้ำร้อน ผ้าอ้อม ทิชชู่เปียก ฯลฯ
#หมวดของใช้เบ็ดเตล็ด ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดอื่น ๆ อาทิเช่น
54.ราวตากผ้าอ้อม/ ราวหนีบผ้าอ้อม/ ไม้แขวนเสื้อเด็ก
55.กะละมังซักผ้าอ้อม
56.เข็มกลัดผ้าอ้อม
57.กระติกน้ำร้อน
58.กระเป๋าน้ำร้อน
59.กรรไกรตัดเล็บเด็ก
60.คอกกั้นเด็ก ,แผ่นรองคลาน
นอกจากอาการเห่อที่จะได้เป็นว่าที่พ่อแม่มือใหม่แล้ว ช่วงเวลาสนุกก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะลืมตาดูโลก ก็คือการเตรียมของให้ลูกน้อย แน่นอนว่าของใช้บางอย่างอาจไม่จำเป็นต้องซื้อในช่วงแรก ๆ อย่างไรก็ตามคุณแม่สามารถเช็กลิสต์ของใช้ให้เบบี๋ได้ เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับลูกน้อยที่จะเกิดอีกไม่ช้านี้กันนะคะ.
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :
www.medthai.com, www.shopback.co.th
อ่านต่อบทความดีๆน่าสนใจคลิก :
แจกคัมภีร์ การดูแลลูก ครบทุกช่วงวัย ตั้งแต่ “แรกเกิด – 12 ปี”
เด็กทารก แรกเกิด กับ 10 โรคฮิตที่พ่อแม่ต้องระวัง!
102 ชื่อภาษาอังกฤษ สุดอินเตอร์ ทันสมัย ความหมายดี๊ดี
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่