หากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังมีปัญหา ลูกหลับยาก ลองดูวิธีนี้กันเลยค่ะ เพียงให้ลูกน้อยได้กลิ่น กลิ่นนี้ก็จะช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น
ประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นเป็นพัฒนาการสำคัญ ที่จะช่วยให้ทารกน้อยปรับตัวกับโลกภายนอก หลังจากอุดอู้ในครรภ์คุณแม่มานาน ทารกจะค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับกลิ่นที่ได้รับบ่อยๆ และแม้ว่าลูกทารกจะยังไม่สามารถเรียกชื่อหรือพูดคุยกับคุณแม่ได้ แต่ก็มีสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าลูกน้อยนั้นจำคุณแม่ได้ตั้งแต่ในตอนแรกเกิด ซึ่งเขารู้ว่าคุณเป็นแม่ เพราะลูกน้อยจำเสียงและสัมผัสของคุณได้ และรวมไปถึงกลิ่นกายของคุณก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ลูกจดจำคุณได้ดี
ลูกน้อยเรียนรู้จักโลกผ่านการได้กลิ่น
ถ้าเทียบกับผู้ใหญ่แล้ว เด็กทารกสามารถรับรู้เรื่องกลิ่นได้ดีกว่า เพราะว่าประสาทสัมผัสในการรับกลิ่น จะมีการพัฒนาขึ้นมาก่อนเรื่องการมองเห็น แต่ระหว่างที่โตเป็นผู้ใหญ่ทำให้ประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่นกลับลดประสิทธิภาพลง ซึ่งคงเกิดจากการที่ประสาทสัมผัสด้านอื่น ๆ มีการพัฒนาขึ้นมาแทน ทำให้กลายเป็นเรียกร้องความสนใจไปจากประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่นก็เป็นได้ สำหรับทารกแรกเกิด การใช้ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่น เพื่อเป็นการเรียนรู้โลกรอบตัวจึงมีมากกว่าผู้ใหญ่ มาก เรียกได้ว่าหนูๆ เรียนรู้จักโลกผ่านการได้กลิ่นต่าง ๆ นั่นเอง
สัมผัสกลิ่นต่างๆ ได้ตั้งแต่ในท้อง
ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ลูกน้อยก็จะสามารถรับสัมผัสเรื่องกลิ่นได้ ซึ่งทารกจะสามารถใช้จมูกในการรับกลิ่นตั้งแต่ช่วงอายุครรภ์แค่ 6 เดือน ทารกอาจจะได้กลิ่นกาแฟที่คุณแม่ต้มตอนเช้า หรือสัมผัสถึงความอ่อนล้าจากกลิ่นเหงื่อของแม่ ในต่างประเทศมีการศึกษาเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าทารกจะตอบสนองต่อกลิ่นเดิม ๆ ได้ ทำให้เชื่อว่าทารกในครรภ์ที่มีอายุครรภ์เท่ากับเด็กที่มีการคลอดก่อนกำหนด น่าจะมีความสามารถในการสัมผัสกลิ่นได้ เรียกว่า ไม่ว่าแม่จะกินอะไรหรือ ได้กลิ่นอะไรก็จะสามารถส่งผ่านไปถึงโลกลี้ลับของลูกน้อยในครรภ์ได้
การดมกลิ่นได้พัฒนาขึ้นและสมองส่วนที่รับสัมผัสเรื่องการดมกลิ่น ก็มีความอ่อนไหวมากกับการรับรู้ ทำให้กลิ่นที่ลูกในท้องได้สัมผัสจึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประสาท การแยกแยะเรื่องกลิ่นเมื่อหนูน้อยคลอดออกมาลืมตาดูโลก
แก้ปัญหา ลูกหลับยาก ด้วยกลิ่นที่หนูโปรดปราน!
แน่นอนว่ากลิ่นที่เขาคุ้นเคยนับแต่บัดนั้นจนกระทั่งลืมตาดูโลกก็คือกลิ่นของแม่นั่นเอง ซึ่งความสามารถในการจดจำแม่ได้จากกลิ่นนั้น เป็นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่มีพลังมากสำหรับเจ้าตัวเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เด็กทารกจะใช้การดมกลิ่นช่วยให้จำกลิ่นหัวนมของคุณแม่ และช่วยให้รู้แน่ว่าหัวนมที่กำลังดูดนั้นเป็นของแม่จริงๆ
⇒ Must read : สัญชาตญาณการดูดนมแม่ของทารก
อ่านต่อ >> “วิธีแก้ปัญหาลูกหลับยาก ด้วยกลิ่นกายของพ่อแม่” คลิกหน้า 2
ขอบคุณข้อมูลจาก : idofragrance.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ซึ่งกลิ่นเฉพาะตัวของคุณนั้น ยังช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสงบและปลอบให้แกรู้สึกผ่อนคลาย เพราะว่าเด็กนั้นเชื่อมโยงตัวคุณกับความรู้สึกสบายใจและอุ่นใจ ซึ่งจะทำให้แกนอนหลับอย่างผ่อนคลายได้นานขึ้น
นอกจากนี้ ทารกแรกเกิดยังสามารถแยกความแตกต่างของกลิ่นได้ และมีการแสดงออกตอบสนองต่อกลิ่นที่แตกต่างกัน หากได้กลิ่นที่ไม่ชอบ ทารกก็จะหันหน้าหนี สะดุ้ง และดิ้นรนจนร้องไห้ออกมาในที่สุด แต่เมื่อได้กลิ่นที่ชอบและคุ้นเคย อย่างกลิ่นของคุณแม่ ลูกก็จะรู้สึกปลอดภัยและรับรู้ถึงความอบอุ่น ซึ่งคุณแม่สามารถนำความคุ้นเคยนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ในคราวหน้าที่พาเขาไปหาคุณหมอเพื่อฉีดวัคซีน ก็ให้พกเสื้อผ้าที่คุณเพิ่งใส่ไปด้วยเพื่อให้จมูกลูกได้ซุกไซ้ใกล้ๆ ซึ่งจะช่วยให้เขารู้สึกสงบขึ้น
“การเรียนรู้ของทารกเกิดจากการที่ได้กลิ่นและความแตกต่าง ทำให้เห็นว่าทารกแรกเกิดสามารถแยกแยะกลิ่นของตัวเองได้ สามารถจำกลิ่นเต้านมของคุณแม่ได้
แม้กระทั่ง “กลิ่นคุณพ่อ” ลูกก็อาจจะจำได้เหมือนกัน หากคุณพ่อมีความใกล้ชิดกับลูกเพียงพอ”
วิธีทำให้ลูกหลับง่ายด้วยกลิ่นกายของแม่
อันที่จริงการได้กลิ่นเฉพาะตัวของคุณนั้นช่วยทำให้ลูกรู้สึกสบายใจ และช่วยลดความเครียดได้ด้วย และถึงแม้จะใช้ไม่ได้กับเด็กทารกทุกคน แต่เด็กทารกหลายคนนั้น สามารถกล่อมให้หลับได้ง่ายขึ้นและนานขึ้น เวลาที่ได้นอนซุกอยู่กับอะไร ที่มีกลิ่นคล้ายกลิ่นตัวคุณ
ซึ่งหากลูกนอนหลับยากหรือดูไม่สบายใจเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์พิเศษใหม่ๆ ในชีวิต และเผอิญว่าเขาไม่มีของคู่ใจด้วย ก็ยังมีวิธีอื่นที่คุณจะช่วยลูกได้ โดยเฉพาะการเลือกใช้ประโยชน์จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 เช่น การทาโลชั่นบนมือของลูก เป็นการใช้กลิ่นหอมช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือผ่านการสัมผัสโดยให้ลูกกอดเสื้อเชิ้ตเนื้อนุ่มๆ ของคุณเพื่อช่วยให้อุ่นใจ
และถ้าลูกน้อยหยุดร้องทันทีที่คุณอุ้ม นั้นก็แสดงว่าลูกน่าจะหลับได้ง่ายขึ้นถ้าได้กลิ่นตัวคุณ (อาจเป็นคุณพ่อก็ได้) ซึ่งแม้แต่ในเวลาที่คุณ ไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกัน เรื่องนี้ทำได้ง่ายๆ
- ด้วยการทำให้เสื้อนอนหรือผ้าห่มของลูกมีกลิ่นตัวคุณ อย่างเช่น นอนไปพร้อมกับเสื้อหรือผ้าห่มนั้นสัก 2-3 วันกลิ่นตัวของคุณก็จะติดไปกับผ้า แล้วก็ให้ลูกใส่เสื้อนอนตัวนั้น
- หรือใช้ผ้าห่มนั้นหุ้มตัวลูกเวลานอน ซึ่งจะทำให้ลูกได้กลิ่นตัวคุณและอาจจะช่วยให้ลูกหลับได้ง่ายขึ้น
- หยดน้ำหอมที่คุณแม่ใช้เป็นประจำหยดลงที่มุมของผ้าห่มของเด็กจะช่วยให้เด็กหลับได้ เพราะเด็กจะรู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา แนะนำให้พยายามหาอะไรมาทำให้มีกลิ่นตัวของคุณอยู่เสมอจะได้มีตัวช่วยให้ลูกน้อยของคุณหลับได้ง่ายขึ้น
- รวมไปถึงการให้ความรักความอบอุ่นกับลูกน้อยถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เด็กคุ้นเคยกับคุณพ่อคุณแม่ และเวลาที่เด็กรู้สึกอบอุ่นก็จะทำให้เด็กหลับได้ง่าย
⇒ Must read : ประโยชน์ที่พ่อและแม่ควรนอนใกล้กันกับลูกน้อย
และต่อมา เมื่อลูกเริ่มติดผ้าห่มหรือตุ๊กตาตัวโปรด ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมลูกจึงทำหน้าไม่ปลื้มของเหล่านี้ในเวอร์ชั่นซักแล้ว เพราะของรักของหนูน้อยมีกลิ่นพิเศษที่เขาชอบหรือคุ้นเคยติดอยู่ แน่นอนว่ากลิ่นนั้นไม่ได้มาจากผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มแน่ๆ
อ่านต่อ >> “ข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัย
และเทคนิคอื่น ๆ ที่จะช่วยกล่อมลูกให้หลับง่ายขึ้น” คลิกหน้า 3
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : howtoadult.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยในการนอน
แม่หลายคนใช้เสื้อที่ตัวเองใส่แล้วหลายครั้งหรือผ้าห่มหนาๆ ของตัวเอง ซึ่งจริงๆ แล้วคุณควรจะใช้อะไรที่เป็นของลูกเองเท่านั้น อย่างเช่น เสื้อผ้าหรือผ้าห่ม การใช้ของนุ่มๆ เช่น ผ้าห่มหนาๆ หมอน หรือแม้แต่เสื้อผ้าบางชนิดนั้นอาจเสี่ยงต่อการทำให้ลูกน้อยหายใจไม่ออก ถ้าของที่มีกลิ่นตัวคุณ บังเอิญไปปิดทับปากหรือจมูกของลูก ลูกก็อาจจะหายใจไม่ออก คุณไม่ถึงกับต้องวางของที่มีกลิ่นตัวคุณอยู่ติดกับจมูกของลูก แค่ให้ลูกสวมเสื้อผ้า หรือแค่คุณห่อตัวลูกด้วยผ้าห่มเด็กที่มีกลิ่นตัวคุณ ลูกก็ได้กลิ่นแล้ว นอกจากนั้น การใช้ผ้าหนาๆ หรือเสื้อผ้าหนาๆ ใส่ไว้ในที่นอนของลูกยังอาจทำให้ลูกรู้สึกร้อนเกินไป ซึ่งอาจทำให้ลูกเสี่ยงต่อการเสียชีวิตแบบฉับพลันได้
⇒ Must read : ทารกนอนคว่ำ เสี่ยงหลับไม่ตื่น ไหลตายไม่รู้ตัว
⇒ Must read : SIDS หรือไหลตายในเด็ก ภัยเงียบของลูกน้อย
เทคนิคกล่อมเด็กให้หลับง่าย
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรับตัวในการนอนในระหว่างที่ลูกน้อยอยู่ในช่วง 3-6 เดือนแรก เพราะเด็กจะตื่นนอนไม่เป็นเวลาอีกทั้งเวลาที่เด็กตื่นในตอนกลางคืนจะร้องไห้งอแงเสียงดังอีกด้วย แต่หลังจากที่เรียนรู้เทคนิคในการกล่อมลูกแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็จะหมดความกังวลใจไปได้เลย เทคนิคง่ายๆ ที่ว่านี้ก็คือ
- ควบคุมระดับเสียงในบ้านไม่ให้มีเสียงดังจนเกินไป ทำให้เด็กสามารถปรับตัวเองให้คุ้นเคยกับเสียงรอบข้างได้ หรือบางครั้งอาจจะเปิดเพลงกล่อมเด็กเบาๆ ซึ่งเป็นการกล่อมเด็กให้นอนได้ดีไม่น้อย
- ลูบบนร่างกายของเด็กเช่น บริเวณท้ายทอย บริเวณหน้าผากจะช่วยให้เด็กนอนหลับได้เร็วขึ้น แต่ต้องลูบบริเวณดังกล่าว เฉพาะเวลาที่ต้องการกล่อมลูกนอนเท่านั้น
- ไกวเปลการไกวเปลจะช่วยทำให้เด็กนอนหลับได้ง่าย โดยเพิ่มตัวช่วยด้วยการแขวนโมบายไว้ด้านบน
- เหน็บชายผ้าห่มให้รัดตัวเด็กจะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับอยู่ในท้องแม่ วิธีนี้ช่วยให้เด็กนอนหลับได้อย่างยาวนาน
นอกจากนั้น ในตอนกลางคืนถ้าอุ้มลูกดื่มนม ให้เอาขวดนมที่อุ่นวางซุกไว้ในที่นอนเด็ก ที่นอนจะอุ่น และเมื่อวางเด็กกลับลงไปนอน จะทำให้เด็กรู้สึกสบาย และหลับได้ยาวนาน
อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 10 วิธีช่วยให้ ลูกหลับง่าย และสบาย
- ผลวิทยาศาสตร์ยืนยัน ลูกนอนหลับ มากน้อยมีผลกับสมอง
- วิธีฝึกลูกนอนง่าย ไม่งอแง พ่อแม่หลับสบายขึ้น
- เพลงกล่อมเด็ก แบบไทยๆ ช่วยพัฒนาสมองและให้ลูกน้อยหลับสบาย
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.pstip.com