ตอนน้องแชมป์อายุได้ 8 เดือน ดิฉันเริ่มกังวลเพราะพี่สาวของเขามีพัฒนาการตามหนังสือบอกทุกอย่าง ตั้งแต่ยืน เดิน พูด ฯลฯ ส่วนน้องแชมป์กลับดูค่อยเป็นค่อยไปในแทบทุกอย่าง อันที่จริง ณ เวลานั้นเขายังทรงตัวนั่งเองไม่ได้ด้วยซ้ำแต่คุณหมอให้ความมั่นใจว่า เด็กแต่ละคนจะทำได้เองเมื่อถึงเวลาของเขา แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็นั่งได้ขึ้นมาเฉยๆ
ดร.เบ็กกี้ สปริทซ์ นักจิตวิทยาเด็กกล่าวว่า คำแนะนำด้านพัฒนาการทารกส่วนมากก็คือ การรอ และอันที่จริงช่วงระยะเวลาที่เรียกว่ายังปกตินั้นค่อนข้างกว้าง อย่างไรก็ดีมาดูคำตอบที่กุมารแพทย์ต้องตอบอยู่บ่อยๆ กัน
1. เราช่วยให้ลูกพัฒนาเร็วขึ้นได้หรือไม่
การเป็นโค้ชให้ลูกอาจได้ผลในบางครั้ง แต่สำหรับเด็กทารกแล้ว เขาจะพัฒนาไปอีกขั้นก็ต่อเมื่อเขาพร้อมและอยากทำจริงๆ เช่น เด็กจะเริ่มคว่ำเองเมื่อเขาอยากคว้าหยิบอะไรบางอย่าง เช่น ตุ๊กตาบนพื้น ไม่ใช่เพราะพ่อแม่พยายามกระตุ้นให้เขาทำ
2. ลูกเสียโอกาสมากกว่าเด็กที่พัฒนาการเร็วกว่าหรือเปล่า
เด็กบางคนกล้ามเนื้อพัฒนาเร็วกว่าคนอื่น ส่วนบางคนเกิดมาพร้อมบุคลิกสุขุม ไม่ชอบรีบร้อน ฉะนั้นไม่ควรสรุปว่าเด็กที่ทำได้ก่อนฉลาดกว่าหรือการประสานของแขนขาดีกว่า
3. ลูกจะพัฒนาทันเด็กคนอื่นใช่หรือไม่
ใช่แล้ว เมื่อถึงวัย 3 ขวบ เด็กส่วนใหญ่มักใช้ทักษะต่างๆ ได้เสมอกัน
4. เมื่อใดที่ควรเริ่มกังวล
โดยส่วนมาก กุมารแพทย์ของคุณจะเป็นผู้ตั้งข้อสังเกตและบอกคุณเอง หากพัฒนาการของเด็กดูห่างจากช่วงเวลาที่เรียกว่า ปกติ อย่างเห็นชัดเจน (มักวัดเป็นจำนวนเดือน) และหากพบเช่นนั้น คุณหมอจะขอตรวจอย่างละเอียดเพื่อทดสอบเป็นพิเศษต่อไป
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids