เพราะพอหย่อนก้นเบบี๋ลงพื้นทรายชายหาดปุ๊บ เจ้าตัวเล็กก็ร้องจ๊าก มาดูกันว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นด้วยเหตุอันใด และมีวิธีแก้ได้อย่างไรบ้าง
ก็มันร้อนเกินไปน่ะแม่ ผิวผู้ใหญ่กับผิวเด็กต่างกัน ผู้ใหญ่อย่างเราผิวหนังหนากว่า ถึงทรายจะร้อนก็ยังพอทานทน แต่สำหรับผิวอ่อนๆ ของเบบี๋จะรับความรู้สึกไวมาก ร้อนพอทนของผู้ใหญ่อาจร้อนเกินไปแล้วสำหรับเจ้าตัวเล็ก ฉะนั้นรองเท้าแตะอยู่ไหน ติดเท้าเจ้าตัวเล็กไว้อย่าให้ขาด
ก็มันไม่คุ้นนี่นา ทรายอะไร เนื้อหยาบๆ ร่วนๆ เดี๋ยวแฉะ เดี๋ยวแห้ง แปลกจริง ก่อนพาลงสนามจริงลองซักซ้อมดูที่บ้านก่อนดีไหม กระบะทรายหลังบ้านทำได้ง่ายนิดเดียว หรือเมื่อถึงชายหาดจริงแล้ว ปูผ้ารองพื้นให้เขาได้ปรับตัวเข้ากับของใหม่นี้สักหน่อย ทำอย่างนี้สัก 2 – 3 หน (แปลว่าจะได้ไปทะเลกันอีก ฮ่า ฮ่า!!) อาการขยาดทรายของเบบี๋น่าจะดีขึ้น
ก็มันหวิวจ้ะ ที่โล่งขนาดนี้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กและครอบครัวอธิบายว่า “วัยทารกชอบที่ที่คุ้นเคยและพื้นที่กึ่งปิดมากกว่าสถานที่เปิดโล่ง” พาเบบี๋ไปชายหาด หาร่มสักคันหรือเต็นท์เล็กๆ มากางใกล้ๆ หรือพ่อแม่อย่างเรานี่แหละนั่งอยู่ข้างๆ เจ้าตัวเล็ก ลดความกว้างใหญ่ของชายหาดในความรู้สึกของเจ้าหนูไปได้เยอะ
ไม่ใช่ทรายหรอกที่เป็นต้นเหตุ อาจเพราะเขาไม่สบายเนื้อสบายตัวก็เป็นได้ ชุดบิกินี่สีสวยเข้าชุดกับรองเท้าแตะอาจทำให้เราได้รูปถ่ายที่เจ๋งสุดๆ แต่ชุดสวยอาจระคายเคืองผิวของลูกก็ได้ หรือชุดว่ายน้ำพอเปียกน้ำอาจยิ่งดูดซับความร้อน ทำให้เขาร้อนแสบผิวจนงอแง ทางที่ดีควรหาเสื้อผ้าสวมใส่สบายให้เขาจะดีกว่า เพราะนี่เป็นเวลาสนุกของลูกน้อย
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง