AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

นมแม่ เปลี่ยนรสชาติได้ จริงหรือ?

หลังจากคลอดแล้วการเลี้ยงลูกด้วย นมแม่ ให้นานที่สุด จะช่วยเป็นเกราะป้องกันโรคภัยต่างๆให้กับลูกได้เป็นอย่างดีและที่พิเศษไปกว่านั้นเกี่ยวกับเรื่องของนมแม่อีกอย่างก็คือ นมแม่ยังมีรสชาติตามอาหารที่แม่กินเข้าไปด้วยนะคะ

นมแม่ เปลี่ยนรสชาติได้ จริงหรือ?

อาจเรียกได้ว่า You are what you eat…คือกินอะไรก็ได้อย่างนั้น อาหารที่คุณแม่กิน ก็จะส่งผลต่อลูกน้อยผ่านทางน้ำนมแม่ นมแม่ เปลี่ยนรสชาติได้ จากอาหารนั้นๆ ด้วย อย่างเช่น วันไหนที่คุณแม่กินกระเทียมเข้าไป เจ้าตัวน้อยของคุณก็จะได้กินนมรสกระเทียมตามไปด้วย ลองคิดดูว่าในแต่ละวันคุณแม่กินอาหารอะไรเข้าไปบ้าง ซึ่งเจ้าตัวน้อยของคุณก็จะได้น้ำนมที่ไม่ซ้ำรสกันเลยตามอาหารเหล่านั้นที่คุณแม่กินนั้นเองค่ะ อีกทั้งยังมีงานวิจัยบอกว่า การที่นมแม่มีกลิ่นหรือรสชาติต่างๆ เป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะลูกที่กินนมแม่ที่มีกลิ่นต่าง ๆ เขาจะเกิดความคุ้นเคยกับกลิ่น พอโตขึ้นถึงเวลากินอาหารเสริม เด็กกลุ่มนี้จะรับอาหารเสริมที่มีกลิ่นแปลก ๆ ได้ดีกว่าเด็กที่กินนมผสม สามารถกินอาหารเสริมที่หลากหลาย ยอมรับการกินผักที่มีกลิ่นแปลก ๆ ได้ดีกว่า เพราะเขาเคยชินกับกลิ่นในน้ำนมแม่มาก่อน ถือเป็นผลดีค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม อาหารของแม่มีผลต่อรสชาติน้ำนมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนมแม่ยังคงความหวานหอม คุณค่าครบถ้วน ตามแบบฉบับของนมแม่ เว้นเสียแต่หากนำนมแม่ไปฟรีซแช่แข็งก็อาจทำให้นมมีกลิ่นเหม็นหืนได้

นมแม่รสเค็ม เกิดจากอะไร?

สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ให้นมลูก โดยยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการให้นม ก็จะอุ้มลูกดูดนมในข้างที่ถนัดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้ลูกติดดูดนมข้างเดียว เมื่อให้นมลูกไปประมาณ 1 เดือน นมข้างที่คุณแม่ให้ลูกกินประจำน้ำนมจะไหลแรงและเร็วกว่าอีกข้าง สอดคล้องไปกับการเจริญเติบโตของลูกที่เรียนรู้การดูดนมได้ดีขึ้น ซึ่งนมข้างที่เล็กกว่าจะผลิตน้ำนมได้น้อย ไหลช้ากว่าและเป็นน้ำนมข้น มีโซเดียมปริมาณมาก ทำให้มีรสชาติเค็ม แต่นมข้างที่ปริมาณน้ำนมมากกว่า น้ำนมจะใสและมีรสชาติหวานกว่า

>> อีกกรณีหนึ่งสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกเกิน 1-2 ขวบ น้ำนมแม่ จะมีรสชาติเค็ม ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติของการผลิตน้ำนมในช่วงใกล้หย่านม เพราะน้ำนมจากเต้านมที่ถูกดูดน้อยหรือบีบออกน้อยจะมีรสเค็มและมีสีเหลืองเนื่องจากขบวนการที่เรียกว่า mammary involution (เซลล์ผลิตน้ำนม/เต้านมกลับคืนสู่ขนาดปกติ) เมื่อน้ำนมถูกดูดหรือบีบออกจากเต้าน้อยลงสัดส่วนของน้ำและแลคโตสในน้ำนมจะลดลง ทำให้น้ำนมมีรสเค็มขึ้นหวานน้อยลงแต่ก็จะมีความเข้มข้นของโปรตีนเพิ่มมากขึ้น และเนื่องจากโปรตีนมีความสำคัญมากต่อระบบภูมิคุ้มกันขบวนการนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้ทารก/เด็กน้อย ได้รับภูมิต้านทานสูตรเข้มข้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหย่านม

>> นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นมเค็ม ได้แก่ คุณแม่มีอาการเต้านมอักเสบ ซึ่งเต้านมอักเสบจะมีรสอูมามิและรสเค็มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะคล้ายกับรสชาติของหัวน้ำนมที่เจ้าตัวน้อยเคยได้รับมาก่อน คุณแม่จึงไม่ควรกังวลเรื่องรสชาติของน้ำนม

และไม่ควรหยุดให้นมหรือปั๊มนม เพราะหากน้ำนมไม่ได้ถูกบีบหรือปั๊มออก การสร้างน้ำนมจะหยุด เต้านมจะปวดมากขึ้นและอาจทำให้เกิดเป็นฝีหนองได้

อ่านต่อ >> “นมแม่รสเปรี้ยว เกิดจากอะไรและให้ลูกกินได้หรือไม่?” คลิกหน้า 2

นมแม่รสเปรี้ยว เกิดจากอะไร! ให้ลูกกินได้หรือไม่?

อาจมีบางเวลาที่น้ำนมแม่จะออกรสเปรี้ยวบ้าง อย่างเช่น หลังจากที่คุณแม่ออกกำลังกายใหม่ๆ เพราะร่างกายจะผลิตกรดแล็กติคขึ้นมาในร่างกายของแม่ ซึ่งเจ้ากรดที่ว่านี้จะมีรสเปรี้ยว ทำให้เมื่อคุณแม่ออกกำลังกายเสร็จแล้วมาให้นมลูกเลยในทันที น้ำนมก็จะมีรสเปรี้ยวๆ หน่อย ซึ่งอาจทำให้เจ้าตัวเล็กทำหน้าเบ้ แล้วไม่ยอมกินนม แต่ก็ไม่ได้แปลว่านมเสียนะคะ

>> แต่หากนมแม่ที่สต็อกไว้มีรสเปรี้ยว นั้นแสดงว่าเป็น นมเสีย ซึ่งอาจเกิดจากคุณแม่ละลายนมแล้วตั้งทิ้งไว้นานเกินไป เพราะโดยปกติแล้วนมแม่ที่ละลายแล้วนั้นสามารถตั้งไว้ในห้อง (ตามอุณหภูมิห้อง) ที่ไม่เปิดแอร์ได้นานถึง 2 ชม. และหากอุณหภูมิห้องที่เปิดแอร์ 25 องศา ก็จะสามารถวางไว้ได้นาน 6-8 ชม. ซึ่งหากลูกน้อยทานนมแม่จากสต็อกที่ละลายไว้แล้วไม่หมด ก็สามารถนำกลับไปแช่ตู้เย็นได้แต่ควรเปลี่ยนนำจุกที่สะอาดมาใส่แทน และควรนำมาให้ลูกทานต่อให้หมดภายใน 24 ชม. ทั้งนี้หากคุณแม่ไม่มั่นใจว่านมจะเสียหรือเปล่า ให้ลองชิมน้ำนมก่อนที่จะให้ลูกดื่ม ซึ่งถ้าชิมแล้วน้ำนมมีรสเปรี้ยว และมีกลิ่นเหม็นบูด ก็แปลว่า นมเสียแล้ว ไม่สามารถนำมาให้ลูกดื่มต่อได้นั้นเองค่ะ

เมื่อไขข้อข้องใจเรื่องรสชาติในนมแม่กันไปแล้ว ก็ขอให้คุณแม่สบายใจได้ทั้ง นมแม่รสเค็ม และ นมแม่รสเปรี้ยว หรือนมแม่ที่มีกลิ่นต่างๆ เพราะถ้าเป็นนมสดๆ จากเต้า ไม่จำเป็นต้องให้ลูกหย่านมนะคะ สามารถให้นมลูกไปได้ตลอด เพราะ น้ำนมแม่ มีประโยชน์จนถึงหยดสุดท้ายจริงๆค่ะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ

>> นมแม่เหม็นหืน ทำอย่างไรดี และมีวิธีเก็บรักษาอย่างไรบ้าง?

>> ไขคำตอบ สารอาหารใน “นมแม่” ชนิดใดที่ทำให้ลูกฉลาด?


ขอบคุณข้อมมูลจาก : www.nommaeshop.com