เบบี๋อยากกินเอง ทำได้จริงหรือ?

เบบี๋อยากกินเอง ทำได้จริงหรือ?

Alternative Textaccount_circle
event

ข้าวตุ๋นกับผักบดและการป้อนอาจไม่ใช่คำจำกัดความของอาหารตามวัยมื้อแรกอีกต่อไป เด็กเพิ่งจะหัดกิน ฟันก็ยังไม่มี แถมไม่ต้องป้อน ให้วางอาหารที่หยิบกินเองแล้วปล่อยให้หยิบกินเอง เด็กที่ไหนจะกินได้ …จะเป็นไปได้อย่างไรกัน

จิลล์ ราเพลย์ หนึ่งในผู้เขียน Baby-Led Weaning คิดว่าเป็นไปได้ เพราะมีพ่อแม่ที่กังวลเรื่องลูกกินน้อยมาบ่นให้เธอฟังในทำนอง “ลูกพยายามจะคว้ากล้วยจากมือฉัน แต่ไม่ยอมกินกล้วยบด” อยู่บ่อยๆ เธอจึงมีแนวคิดใหม่ คือไม่เริ่มด้วยอาหารบด แต่ให้เริ่มด้วยอาหารที่ลูกหยิบกินเองได้ตั้งแต่มื้อแรกเลย และนักวิจัยก็เห็นด้วย เพราะผลวิจัยชี้ว่าการหยิบกินเองช่วยลดโอกาสที่ทารกจะเติบโตเป็นเด็กเลือกกินและน้ำหนักเกินได้ด้วย สมาคมกุมารแพทย์อเมริกันยังส่งเสริมให้พ่อแม่เริ่มอาหารตามวัยตอนลูกอายุ 6 เดือนด้วย แนวคิดนี้จึงยิ่งเป็นไปได้มากขึ้น

คำสำคัญของวิธีนี้คือ ลูกจะเป็นคนกำหนดเองว่าเขา “พร้อม” จะกินเองแล้วหรือยัง

สัญญาณความพร้อม

ตามปกติแล้ว พ่อแม่จะต้องตัดสินใจว่าควรเริ่มอาหารเสริมเมื่อไร แต่สำหรับแนวคิดของราเพลย์ ลูกจะเป็นคนกำหนดเองว่าพร้อมแล้วหรือยัง “จังหวะเวลาที่เหมาะสมของทารกแต่ละคนจะเร็วช้าต่างกัน” ราเพลย์อธิบาย “หน้าที่ของพ่อแม่คือถ้าตั้งใจว่าจะไม่ป้อนหรือแม้แต่ช่วยหยิบ ก็ต้องให้โอกาสและจัดเตรียมอาหารไว้ให้พร้อมลูกก็จะหยิบมากินเอง”

ทีนี้ก็มาช่วยกันสังเกตความพร้อมของลูกโดยดูว่า

  • เขานั่งเองได้หรือยัง การล้มหงายหลังโดยมีอาหารอยู่ในปากเป็นเรื่องอันตราย คุณจึงควรจะรอให้เขานั่งเองได้อย่างมั่นคงก่อน
  • เขาหยิบเป็นหรือยัง เขาควรจะหยิบอาหารได้โดยไม่ต้องให้คุณช่วย โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการใช้นิ้วหยิบเพราะตอนอายุ 6 เดือน ทักษะการใช้นิ้วหยิบอาจเร็วเกินไป เพียงเขาหยิบโดยใช้ทั้งมือเลยได้ ก็ใช้ได้
  • เขาใช้มือหยิบของเข้าปากเก่งหรือยัง ถ้ายัง เขาก็หยิบอาหารกินเองไม่ได้
  • เขากัดแทะของเล่นหรือยัง พฤติกรรมนี้บ่งชี้ว่ากล้ามเนื้อขากรรไกรของเขาพร้อมที่จะบดเคี้ยวอาหารแล้ว และเขาก็จะใช้เหงือกบดเคี้ยวอาหารก่อน ฟันจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็น

เริ่มอย่างไรดี

“ถึงจะไม่ใช่กฎที่เคร่งครัด แต่คุณก็น่าจะเริ่มที่อาหารนิ่มๆ อย่างกล้วยและมะละกอสุก ลูกจะได้ฝึกเคี้ยวก่อนลิ้มลองอาหารที่แข็งขึ้น พอเคี้ยวเก่งแล้ว คุณจะให้เขากินอะไรก็ได้ แค่เลี่ยงอาหารรูปร่างกลมๆ ผิวเรียบลื่นหรือแข็งๆ อย่างองุ่นทั้งลูก ข้าวโพดคั่ว และถั่วเปลือกแข็งก็พอ เขาจะได้ไม่สำลัก และให้นึ่งผักอย่างบรอคโคลีและเซเลอรีก่อน แต่อย่านึ่งจนสุกเกินไป แค่นึ่งให้นิ่มลงเล็กน้อย ลูกจะกินง่ายขึ้น ถ้าจะให้ดีกว่านั้นอีก ก็นำไปอบให้น้ำตาลออกมาเคลือบที่ผิวนอกจนเหนียวหนึบ จะได้ถือกินง่ายขึ้น” ราเพลย์ ให้ภาพ

ราเพลย์ยังแนะนำต่อว่าคุณควรจะเตรียมอาหารให้ลูกโดยหั่นเป็นชิ้นยาวๆ ไม่ใช่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คือให้หั่นเป็นชิ้นยาวราว 3 นิ้ว เขาจะได้ถือปลายข้างหนึ่งขณะเคี้ยวปลายอีกด้าน

เมื่อลูกอายุ 8 เดือน คุณจะให้เขากินอาหารชิ้นเล็กๆ ก็ได้เพราะเขาจะได้ฝึกทักษะในการใช้นิ้วหยิบอย่างเมล็ดถั่วลันเตา ลูกเกด หรือเนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ฉีกฝอยผักและผลไม้อบแห้งก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะน้ำลายของเขาจะเปียกชุ่มอาหารและช่วยทำให้นิ่มลง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up