คุณพ่อ คุณแม่ที่เป็นพ่อแม่มือใหม่ที่มีลูกในวัยทารกแรกเกิด เด็กเล็ก และเด็กโต อาจยังมีข้อสงสัยเรื่องการฉีดวัคซีน ว่าอายุเท่าไหร่ควรฉีดอะไรบ้าง แล้วมีวิธีการฉีดอย่างไรบ้าง คุณพ่อ คุณแม่สามารถพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่แรกเกิด – 12 ปี ตาม ตารางการฉีดวัคซีน ดังนี้
ตารางการฉีดวัคซีน
เด็กๆ ในวัย แรกเกิด เด็กเล็ก และเด็กโต เป็นช่วงวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต และยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาภูมิคุ้มกันทางร่างกาย คุณพ่อ คุณแม่ สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยได้ ด้วยการให้ลูกน้อยดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 6 เดือน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะให้ลูกดื่มนมแม่ไปจนครบอายุ 2 ขวบ
นอกจากการให้ลูกน้อยดื่มนมแม่แล้ว การดูแลระมัดระวังเรื่องสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการได้รับการฉีดวัคซีนที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากโรคภัยต่างๆ ไม่ให้มีอาการรุนแรง วัคซีนจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายของลูกน้อย สร้างภูมิคุ้มกัน และปกป้องไม่ให้ลูกน้อยเจ็บป่วยได้ง่าย
โดยทั่วไป เด็กๆ ควรจะได้รับวัคซีนตามช่วงอายุวัย ตั้งแต่แรกเกิด – 12 ปี ดัง ตารางการฉีดวัคซีน นี้
คุณพ่อ คุณแม่ลองศึกษา และหาข้อมูลได้ตามตารางอัพเดตการฉีดวัคซีน ตัวอย่างเช่นตารางการฉีดวัคซีน ประจำปี 2559 ซึ่งได้อธิบายรายละเอียดเอาไว้ ดังนี้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “ตารางการฉีดวัคซีนประจำปี 2559” คลิกหน้า 2
จากตารางการฉีดวัคซีนที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกน้อยไปฉีดมีทั้งหมด 13 ชนิด โดยแบ่งช่วงอายุวัยที่ควรฉีดตามตารางวัคซีน แต่ละชนิด มีคำอธิบายดังนี
1. วัคซีนบีซีจี
- ฉีด 0.1 มล. ที่ไหล่ซ้าย ไม่ควรฉีดสะโพก
- สามารถฉีดได้ทันทีถ้ายังไม่เคยฉีดมาก่อน ถ้าเคยฉีดแล้วไม่ต้องฉีดซ้ำ
2. วัคซีนตับอักเสบบี
- เด็กทุกคนต้องฉีดอย่างน้อย 3 ครั้ง เข็มสุดท้ายควรฉีดตอนอายุมากกว่า หรือเท่ากับ 6 เดือน
- สามารถแบ่งเป็นอายุ 1 เดือน 2 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ ถ้ายังไม่ทราบผลเลือดคุณแม่ให้วัคซีนครั้งที่ 1 ภายใน 12 ชม. หลังคลอด ครั้งที่ 2 วัย 1 เดือน และครั้งที่ 3 วัย 6 เดือน
- เด็กที่ไม่เคยฉีดวัคซีนตับอักเสบบีมาก่อน อายุน้อยกว่า 11 ปี สามารถฉีดวัคซีนได้ในเดือนที่ 0, 1, 6 ส่วนเด็กอายุ 11-15 ปี อาจให้ฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้งในเดือน 0, 4-6 โดยใช้ขนาดเท่ากับผู้ใหญ่
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “คำอธิบายรายละเอียดวัคซีนแต่ละชนิด” คลิกหน้า 3
3. วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน
- สามารถฉีดวัคซีนชนิดไร้เซลล์ได้ทุกครั้ง ควรใช้ชนิดเดียวกันทั้ง 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4, 6 เดือน
- ฉีดเข็มกระตุ้นตอน 18 เดือน 4-6 ปี และ 11-12 ปี หลังจากนั้นควรฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
- คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีดในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์
4. วัคซีนโปลิโอ
- ควรหยอดวัคซีนโปลิโอ 5 ครั้ง และฉีด 1 ครั้งตอนอายุ 4 เดือน
- สามารถใช้วัคซีนชนิดฉีดแทนชนิดกินได้ ถ้าใช้ชนิดฉีดเพียงอย่างเดียวให้ฉีดเพียง 4 ครั้ง โดยงดตอน 18 เดือน
5. วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม
- ควรฉีดวัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 9-12 เดือน ครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 2 ½ ขวบ ถ้าพื้นที่บริเวณบ้านมีคนเป็นโรคหัดน้อยก็อาจฉีดครั้งแรกหลังอายุ 12 เดือน ครั้งที่ 2 อายุ 4-6 ขวบได้
- ถ้ามีการระบาดของโรคอาจฉีดครั้งแรก 6 เดือน ครั้งที่ 2 ก่อน 2 ½ ขวบ โดยต้องห่างจากเข็มแรก 3 เดือน แต่ถ้าเข็มแรกได้รับอายุก่อน 9 เดือน ให้ฉีดซ้ำเข็มที่ 2 ตอนอายุ 12 เดือน และเข็มที่ 3 ตอนอายุ 2 ½ ขวบ
- ถ้าต้องการฉีดวัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คามทูม และอีสุกอีใสในเวลาเดียวกัน สามารถใช้วัคซีนรวมแทนการฉีดแบบแยกเข็มได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 1-12 ขวบ เพราะถ้าฉีดในเด็กอายุ 12-23 เดือนจะมีโอกาสทำให้เกิดอาการชักจากไข้ได้มากกว่า ถ้าเคยฉีดวัคซีนรวมมาก่อน ควรฉีดให้ห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน
6. วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
- วัคซีนชนิดเชื้อไม่มีชีวิต มี 2 ชนิดฉีด 3 ครั้ง เริ่มเมื่ออายุ 9-18 เดือน ต่อมาอีก 4 สัปดาห์ และ 1 ขวบตามลำดับ อาจกระตุ้นอีกครั้งห่างจากเข็มสุดท้าย 4-5 ปี
- วัคซีนชนิดเชื้อมีชีวิต มี 2 ชนิดให้ฉีด 2 ครั้ง เริ่มเมื่ออายุ 9-12 เดือน ต่อมาอีก 3-12 เดือน หรือ 12-24 เดือน ทั้ง 2 ชนิดสามารถฉีดแทนกันได้ โดยต้องฉีดห่างกันอย่างน้อย 12 เดือน
- ถ้าเคยฉีดมาก่อน 1 ครั้ง แล้วต้องฉีดกระตุ้นควรฉีดอีก 1 ครั้งห่างกันอย่างน้อย 12 เดือน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “คำอธิบายรายละเอียดวัคซีนแต่ละชนิด” คลิกหน้า 4
7. วัคซีนฮิบ
- แนะนำให้ฉีด 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4 และ 6 เดือน ฉีดเข็มกระตุ้นเมื่ออายุ 12-18 เดือน
- ไม่จำเป็นต้องฉีดในเด็กที่แข็งแรง ควรฉีดในเด็กที่มีความเสี่ยง
- ไม่จำเป็นต้องฉีดให้เด็กปกติอายุ 2 ขวบขึ้นไป
8. วัคซีนตับอักเสบเอ
- ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยฉีด 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน อาจใช้ต่างชนิดได้ในการฉีดแต่ละครั้ง
9. วัคซีนอีสุกอีใส
- ฉีดได้ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป แนะนำให้ฉีดเข็มแรกเมื่อ 12-18 เดือน เข็มที่ 2 เมื่อ 4-6 ขวบ
- อาจฉีดเข็มที่ 2 ก่อน 4 ขวบ ถ้ามีการระบาด โดยต้องห่างกันอย่างแรก 3 เดือน
- ถ้าเด็กอายุมากกว่า 13 ปี ให้ฉีด 2 เข็มห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน
10. วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- ให้ฉีดในเด็ก 6 เดือนขึ้นไป – 18 ปี โดยเฉพาะเด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ และเด็กที่มีความเสี่ยง เช่น โรคปอดเรื้อรัง รวมหอบหืด โรคหัวใจ โรคอ้วน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคเรื้อรัง เป็นต้น แนะนำให้ฉีดก่อนฤดูฝน และสามารถฉีดได้ตลอดปี
- ถ้าอายุน้อยกว่า 9 ปี การฉีดในครั้งแรกต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน ถ้าปีแรกได้ฉีดเพียงครั้งเดียว ปีถัดมาให้ฉีด 2 ครั้ง จากนั้นจึงส่ามารถฉีดปีละครั้ง
- ในเด็กน้อยกว่า 3 ขวบ ให้ได้ทั้งขนาด 0.25 หรือ 0.5 มล. สามารถใช้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 หรือ 4 สายพันธุ์ทดแทนได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “คำอธิบายรายละเอียดวัคซีนแต่ละชนิด” คลิกหน้า 5
11. วัคซีนนิวโมคอคคัส ชนิดคอนจูเกต
- ให้ในผู้ที่มีความเสี่ยงชนิดรุนแรง และในเด็กแข็งแรงปกติอายุน้อยกว่า 5 ขวบ เพื่อป้องกันโรค
- ให้ฉีดวัคซีน 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4 และ 6 เดือน และฉีดกระตุ้นเมื่อ 12-15 เดือน โดยห่างกันอย่างน้อย 2 เดือน ถ้าเริ่มฉีดช้าให้ฉีดตามตาราง
- เด็กที่มีความเสี่ยงที่ควรฉีด ได้แก่ เด็กที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จากสาเหตุต่างๆ เช่น ไม่มีม้าม ธาลัสซีเมีย โรคเรื้อรังของอวัยวะต่างๆ เช่น โรคปอด หอบหืดรุนแรง โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต เบาหวาน โรคที่เสี่ยงต่อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก
12. วัคซีนโรต้า
- ชนิด monovalent ให้รับประทาน 2 ครั้ง เมื่ออายุ 2 และ 4 เดือน
- ชนิด pentavalent ให้รับประทาน 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4 และ 6 เดือน
- สามารถเริ่มให้วัคซีนโรต้าครั้งแรกเมื่ออายุ 6-15 สัปดาห์ และครั้งสุดท้ายไม่เกิน 8 เดือน แต่ละครั้งห่างกันไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห์
- ควรใช้วัคซีนชนิดเดียวกันจนครบ ถ้าจำเป็นต้องใช้ต่างชนิดหรือไม่ทราบชนิด ต้องให้วัคซีน 3 ครั้ง
- สามารถให้ร่วมกับวัคซีนโปลิโอได้
- ห้ามใช้วัคซีนนี้กับเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เคยมีประวัติลำไส้กลืนกัน
13. วัคซีนเอชพีวี
- แนะนำให้ฉีดในผู้หญิงอายุ 9-26 ปี เน้นฉีดในเด็กช่วง 11-12 ขวบ โดยฉีด 3 เข็ม ในเดือนที่ 0, 1-2 และ 6
- ในวัยรุ่นแข็งแรงดี ถ้าฉีดเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี ให้ฉีด 2 เข็มได้ที่ 0, 6-12 เดือน
- ประสิทธิภาพของวัคซีนจะสูง ถ้าฉีดในผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- การฉีดในเด็กผู้ชาย ให้ฉีดในช่วง 9-26 ปี เน้นช่วง 11-12 ขวบ และกลุ่มชายรักชาย 9-26 ปี
เครดิต: สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
อ่านต่อเพิ่มเติม คลิก!
กลุ่มเสี่ยง ไข้หวัดใหญ่ ที่ควรได้รับวัคซีนทุกปี
ลูกจำเป็นต้องรับวัคซีนเสริมหรือไม่?
รวมแพ็คเกจค่าฉีดวัคซีนเหมาจ่าย สำหรับลูกน้อยประจำปี 2559
Save
Save
Save
Save
Save
Save
Save
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
Save