คุณพ่อ คุณแม่ ที่มีแก้วตาดวงใจอยู่ในวัยทารก ต้องคอยเอาใจใส่เป็นพิเศษในทุกช่วงเวลา เพราะวัยทารก เป็นช่วงวัยที่ร่างกายยังบอบบาง แม่น้องเล็กมีกรณีตัวอย่าง เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ถึงภาวะ Toe-tourniquet syndrome ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่แม่ควรรู้ เมื่อ เส้นผมรัดนิ้ว จนเลือดไม่เดิน มาฝากค่ะ
เส้นผมรัดนิ้ว จนเลือดไม่เดิน
สก็อต วอล์กเกอร์ พ่อของหนูน้อยชาวอเมริกันจากรัฐแคนซัส ได้โพสต์ภาพของลูกสาววัย 5 เดือน ลงบนเฟสบุ๊ค พร้อมเขียนเตือนภัยคุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลาย ที่กำลังมีลูกอยู่ในวัยทารก ครอบครัววอล์กเกอร์มีเรื่องน่ายินดี เพราะได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นในครอบครัว คือสาวน้อยมอลลี่ เธอเป็นเด็กทารกที่ร่าเริง และแข็งแรง ถึงแม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนดถึง 7 สัปดาห์ และต้องเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนในช่วงแรกเกิดก็ตาม มอลลี่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากสก็อตผู้เป็นพ่อ เจสสิก้าผู้เป็นแม่ และพี่สาวตัวน้อยวัย 3 ขวบ จนสามารถพาหนูน้อยมอลลี่กลับบ้านได้
แต่เมื่อมอลลี่มีอายุได้ 5 เดือน วันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัววอล์กเกอร์ร้อนใจ ขณะที่ทุกคนในครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเที่ยง หนูน้อยมอลลี่ก็มีอาการหงุดหงิด และร้องไห้หนักมาก แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สก็อต และเจสสิก้าพยายามปลอบขวัญหนูน้อย และตรวจดูอาการทุกอย่าง แต่ไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ เจสสิก้ารู้สึกว่ามอลลี่ตัวร้อน เธอจึงถอดถุงเท้าของหนูน้อยออกเพื่อที่จะลดไข้ลง แต่กลับได้พบสิ่งผิดปกติบางอย่าง ที่นิ้วเท้าของทารกน้อย นิ้วชี้ที่เท้าของมอลลี่มีเส้นผมพันอยู่ และรัดแน่นจนบาดเข้าไปในผิวหนัง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “เส้นผมรัดนิ้วลูกรัก จนเลือดไม่เดิน อันตราย!!” คลิกหน้า 2
ไม่ต่างจากอีกเหตุการณ์หนึ่งในประเทศไทย ที่คุณแม่ท่านหนึ่ง ได้มาแชร์ประสบการณ์ พร้อมเตือนคุณแม่ท่านอื่นๆ ให้ระวังภาวะ Toe-tourniquet syndrome นี้ด้วย
ทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ดร.จูลี่ จากสถาบันกุมารเวชย์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้สรุปอาการ ที่เกิดจากการที่นิ้วเท้า หรือนิ้วมือของทารก มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปพันไว้ ส่วนใหญ่จะเกิดในถุงมือ หรือถุงเท้า ทำให้นิ้วมือ นิ้วเท้าถูกรัดจนแน่น และบาดลึกลงไปมาก ก่อนจะพบเห็น
เหตุการณ์นี้พบได้บ่อย และเป็นอันตรายร้ายแรงได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที บางครั้งอาจติดเชื้อจนถึงขั้นต้องตัดนิ้วมือ หรือนิ้วเท้าเพื่อรักษาชีวิตของทารก เนื่องจากผิวหนังและอวัยวะต่างๆ ของทารกแรกเกิดนั้นบอบบางกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า เหตุเล็กน้อยนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงได้ จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแล และสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “อาการเมื่อถูกเส้นผมรัดนิ้ว” คลิกหน้า 3
อาการเขียว
การที่ผิวหนัง หรืออวัยวะบางส่วนกลายเป็นสีม่วง ม่วงแดง หรือม่วงน้ำเงิน เกิดจากการที่ถูกสิ่งของบางอย่างรัดเอาไว้ ที่นิ้วเป็นระยะเวลานาน จนทำให้กลายเป็นสีม่วง แม้ว่าจะดูเป็นสีม่วง แต่โรคนี้ในภาษาไทย เรียกว่า “อาการเขียว”
อาการเขียว หรือที่เห็นเป็นสีม่วงเกิดจากอะไร
เกิดจากสารเลือดแดง (haemoglobin) อยู่ในสภาพที่ขาดออกซิเจนเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เห็นเป็นสีม่วงแทนที่จะเห็นเป็นสีแดงซึ่งเป็นสีของสารเลือดแดง (ที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง) เมื่อได้รับออกซิเจนเพียงพอ
เมื่อใดที่สารเลือดแดง (ฮีโมโกลบิน) ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เม็ดเลือดแดงจะเปลี่ยนจากสีแดงสดเป็นสีแดงดำ หรือสีม่วง สีแดงสดจะเห็นได้เมื่อปลายนิ้วถูกหนามหรือเข็มแทงจนเลือดออก ส่วนสีม่วง หรือสีแดงดำ จะเห็นได้จากสีเลือดเมื่อถูกเจาะเลือดจากแขนพับไปตรวจ หรือในขณะที่ไปให้เลือด อาการเขียวเพราะขาดออกซิเจนอาจเป็นที่ มักเกิดจากเส้นเลือด (หลอดเลือด) ที่ไปเลี้ยงบริเวณนั้นตีบตันหรือถูกอุดกั้น ทำให้ไม่มีเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้น และเลือดที่ค้างอยู่ในบริเวณนั้นจะขาดออกซิเจน
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ ไม่อยากให้ลูกน้อยถูกตัดนิ้ว ควรตรวจเช็กให้ดีก่อนที่จะสวมถุงเท้า เพื่อที่ลูกจะได้ไม่มีอะไรมารัดนิ้วเท้าจนทำให้เลือดไม่เดิน เพราะสารเลือดแดงขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง เนื่องจากเด็กทารกไม่สามารถบอกคุณพ่อ คุณแม่ได้ทุกเรื่อง
เครดิต: Scott Walker, เจ้าหญิงน้อยของแม่ ผู้หญิงคนหนึ่ง, หมอชาวบ้าน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก!!
ใส่ถุงมือถุงเท้าให้ลูกน้อย เสี่ยงปิดกั้นพัฒนาการลูก จริงหรือ?
วิธีรับมือ ผื่นแพ้ทารก แรกเกิดอย่างรู้ทัน!
สังเกตสัญญาณ “พัฒนาการล่าช้า” ของลูก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่