คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรก เกิดความสงสัยปนไม่แน่ใจว่าจะต้องพาลูกไปฉีดวัคซีนอะไรบ้าง วัคซีนตัวไหนจำเป็น หรือไม่จำเป็นกับลูก ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบจากคุณหมอเด็ก ที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ วัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอาย 15 ปี ที่พ่อแม่ควรรู้ เพื่อจะได้พาลูกไปรับวัคซีนกันได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วนมาให้ทราบกันค่ะ
วัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี
ข้อมูลรายการวัคซีนเด็กที่จะต้องเริ่มให้ลูกได้รับตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึงลูกอายุ 15 ปี ทางคุณหมอกัลย์สุดา อริยะวัตรกุล กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าของเพจ Hormone for Kids by Dr.OrN ได้มาสรุปแชร์ข้อมูลที่ดีมากๆ นี้ไว้ในพันทิป ซึ่งคุณหมอได้แบ่ง วัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ออกเป็นแต่ละช่วงอายุ และแบ่งวัคซีนออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) วัคซีนจำเป็น หรือวัคซีนพื้นฐาน คือ วัคซีนที่เด็กทุกคนจะได้รับตามโปรแกรมที่กำหนด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (หากรับบริการที่รพ.รัฐบาล)
2) วัคซีนทางเลือก หรือวัคซีนเสริม คือ วัคซีนที่มีประโยชน์สำหรับเด็กไทย และสามารถให้เพิ่มเติมได้เพื่อป้องกันโรค แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง เพราะเนื่องจากวัคซีนยังมีราคาสูง
อ่านต่อ >> วัคซีนที่ลูกต้องได้รับตั้งแต่แรกเกิดถึง 15 ปี หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ที่พ่อแม่ต้องรู้
หลังเกิดที่โรงพยาบาล เด็กทุกคนจะได้รับวัคซีนจำเป็น 2 ตัวทันที คือ
1) วัคซีนบีซีจี (BCG)
ที่ต้นแขนด้านซ้าย หลังจากนั้นไม่นาน ตำแหน่งที่ฉีดวัคซีนจะกลายเป็นตุ่มนูน เป็นหนอง แตกออก และเป็นแผลเป็น โดยทั่วไปกว่าแผลวัคซีนจะแห้ง ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน
2) วัคซีนตับอักเสบบี (HBV vaccine)
ที่ต้นขาด้านหน้า 1 เข็ม ในกรณีที่คุณแม่เป็นไวรัสตับอักเสบบี แนะนำให้ฉีดเข็มที่ 2 ตอนอายุ 1 เดือน (ปกติฉีดตอนอายุ 2 เดือน) ช่วงวัยนี้ยังไม่มีวัคซีนเสริม
วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 2-4-6 เดือน
วัคซีนสำหรับเด็กวัย 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน จะคล้ายๆกัน
1) วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี (DTP-HB, Tritanrix-HB) ฉีดแล้วอาจจะมีไข้ได้บ้างภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีดยา แต่ไม่แนะนำให้กินยาลดไข้ดักไว้ก่อน เพราะอาจทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นได้ไม่ดีเท่าที่ควร
2) วัคซีนโปลิโอแบบหยอด (OPV)
วัคซีนเสริม
1) วัคซีนฮิบ (Hib) ป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคไซนัสและหลอดลม
โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในวัคซีนรวมกับ คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี และโปลิโอ ที่ต้องรับอยู่แล้ว ได้แก่ Quinvaxem, Infanrix-IPV/Hib, Pentaxim, Pediacel, Infanrix hexa, Hexaxim
2) วัคซีนนิวโมคอคคัส (PCV) หรือวัคซีนไอพีดี (IPD) ป้องกันโรคปอดบวมและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มี 2 แบบ คือ 13 สายพันธุ์ กับ 10 สายพันธุ์ ได้แก่ Prevnar และ Synflorix
3) วัคซีนโรตา (Rota) เป็นวัคซีนแบบหยอด ป้องกันโรคท้องเสียจากไวรัสโรตา ได้แก่ Rotarix และ RotaTeq
วัคซีนทั้งหมดนี้ไม่จำเป็นต้องรับพร้อมกันทั้งหมดในวันเดียว สามารถปรึกษากับคุณหมอ เพื่อขอเลื่อนวันฉีดวัคซีนได้
อ่านต่อ >> วัคซีนสำหรับเด็ก 9-12 เดือน หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 9-12 เดือน
วัคซีนจำเป็น
1) วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) เข็มที่ 1 อาจมีไข้หลังฉีดวัคซีนประมาณ 1 สัปดาห์ และเป็นไข้นาน 1-2 วัน
2) วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JEV) แบบเดิม ต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดย 2 เข็มแรก ฉีดห่างกัน 1-4 สัปดาห์ และฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากเข็มที่ 2 นาน 1 ปี
วัคซีนเสริม
1) วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Vaxigrip, Influvac, Fluquadri)
โดยถ้าได้รับครั้งแรกต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ 75-90% แนะนำให้ฉีดปีละ 1 ครั้งก่อนเข้าฤดูฝน เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตลอดเวลา
2) วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JEV) แบบใหม่ เข็มที่ 1
ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงและอยู่ได้นานกว่า ฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 1 ปี ได้แก่ CD.JEVAX และ IMOJEV
วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 18 เดือน
วัคซีนจำเป็น
1) วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP) ฉีดแล้วอาจจะมีไข้ได้บ้างภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีดยา แต่ไม่แนะนำให้กินยาลดไข้ดักไว้ก่อน เพราะอาจทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นได้ไม่ดีเท่าที่ควร
2) วัคซีนโปลิโอแบบหยอด (OPV)
วัคซีนเสริม
1) วัคซีนอีสุกอีใส (Varilrix, Varicella Vaccine) เข็มที่ 1 สามารถป้องกันโรคอีสุกอีใสได้ 99%
2) วัคซีนตับอักเสบเอ (HAV) เข็มที่ 1 สามารถป้องกันโรคตับอักเสบเอได้ 94-100% ได้แก่ Havrix, Avaxim
3) วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Vaxigrip, Influvac, Fluquadri)
โดยถ้าได้รับครั้งแรกต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ 75-90% แนะนำให้ฉีดปีละ 1 ครั้งก่อนเข้าฤดูฝน เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตลอดเวลา
4) วัคซีนนิวโมคอคคัส (PCV) หรือวัคซีนไอพีดี (IPD) เข็มกระตุ้น
อ่านต่อ >> วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 2 ปี หน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 2 ปี
วัคซีนจำเป็น
1) วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JEV) แบบเดิม เข็มที่ 3
วัคซีนเสริม
1)วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JEV) แบบใหม่ เข็มที่ 2 ได้แก่ CD.JEVAX และ IMOJEV
วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 2 1/2 ปี
วัคซีนจำเป็น
1) วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) เข็มที่ 2
ตามโปรแกรมเดิมฉีดวัคซีน MMR ตอนอายุ 4-6 ปี แต่ล่าสุดเปลี่ยนใหม่แล้ว ให้เลื่อนมาฉีดเร็วขึ้น ตอนอายุ 2 1/2 ปี แทน
วัคซีนเสริม
1) วัคซีนตับอักเสบเอ (HAV) เข็มที่ 2
วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 4-6 ปี
วัคซีนจำเป็น
1) วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP)
2) วัคซีนโปลิโอแบบหยอด (OPV)
3) วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) เข็มที่ 2 (ถ้ายังไม่ได้ฉีดตอนอายุ 2 1/2 ปี)
วัคซีนเสริม
1) วัคซีนอีสุกอีใส (Varilrix, Varicella Vaccine) เข็มที 2
อ่านต่อ >> วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 11-12 ปี หน้า 5
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนสำหับเด็ก อายุ 11-12 ปี
เป็นช่วงวัยที่ห่างหายไปนานกับการรับวัคซีน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ตามตารางวัคซีน จะมีถึงตอนอายุประมาณ 4-6 ปี หรือช่วงวัยอนุบาล
หลังจากนั้นก็จะไม่มีวัคซีนที่จะต้องฉีดอีกเลย จนถึงอายุ 11-12 ปี ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะลืมได้ เนื่องจากทิ้งช่วงห่างไปนาน
วัคซีนจำเป็น
1) วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก (Td) หลังจากนั้นฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
#วัคซีนเสริม
1) วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (Boostrix, ADACEL) คล้ายๆกับตอนเป็นเด็กเล็ก แต่สำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่ ตัววัคซีนจะเปลี่ยนรูปแบบเล็กน้อย โดยใช้ชื่อว่า Tdap
2) วัคซีนเอชพีวี (Cervarix, Gardasil)
สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน และสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 75-80% มีสองชนิดคือแบบ 2 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์
3) วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Vaxigrip, Influvac, Fluquadri)
สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ 75-90% แนะนำให้ฉีดปีละ 1 ครั้งก่อนเข้าฤดูฝน เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตลอดเวลา
4) วัคซีนอีสุกอีใส (Varilrix, Varicella Vaccine)
เฉพาะเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือยังไม่เคยเป็นโรคนี้ แนะนำให้รับวัคซีน เพราะเด็กโตและผู้ใหญ่ เวลาเป็นอีสุกอีใส อาการมักจะเป็นรุนแรง จึงแนะนำให้ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 4-8 สัปดาห์
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสรุปวัคซีน 2016 สำหรับเด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 15 ปี ที่พ่อแม่ต้องรู้
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีคำถามสงสัยเรื่องวัคซีน ก็สามารถ inbox เข้ามาถามทางหน้าแฟนเพจ https://www.facebook.com/hormoneforkids/
หรือเพิ่มเพื่อนทาง Line ได้ โดย search by ID แล้วพิมพ์คำว่า @hormoneforkids หรือคลิกที่ link นี้ http://line.me/ti/p/@oib5932k
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
Update! ตารางวัคซีน ประจำปี 2560 สำหรับเด็กไทย
แพ็คเกจวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ประจำปี 2560
แพ็คเกจวัคซีน IPD โรงพยาบาลในกทม. ปี 60
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
พญ.กัลย์สุดา อริยะวัตรกุล.pantip.com