1.ควบคุมพาหะนำโรค เช่น ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ระวังไม่ให้ลูกน้อยถูกยุงกัด กำจัดน้ำขัง ทายากันยุง
2.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ JE
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ JE
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ JE ในประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ
1.วัคซีนเชื้อตาย
โดยวิธีการคือ เลี้ยงไวรัสก่อโรคเอาไว้ในสมองหนูแรกเกิด มีเชื้อ 2 สายพันธุ์คือ Beijieng และ Nakayama ซึ่งขนาดวัคซีนไม่เท่ากัน สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 3 ขวบ ให้ฉีดครึ่งหนึ่งของเด็กโต โดยเริ่มฉีดประมาณ 12-18 เดือน เข้าใต้ผิวหนัง 2 เข็ม ห่างกัน 1-4 สัปดาห์ แล้วจึงฉีดเข็มที่ 3
ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดนี้ 80-90% จะมีภูมิคุ้มกันสูงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อได้ระยะหนึ่ง เมื่อฉีดครบ 3 เข็ม จะป้องกันโรคได้ 3-5 ปี ถ้าอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้มาฉีดกระตุ้น 1 เข็มทุกๆ 4-5 ปี อีกไม่เกิน 2 ครั้ง ก็สามารถป้องกันโรคได้
2.วัคซีนเชื้อเป็น
วัคซีนชนิดนี้สามารถป้องกันโรคได้ 95-100% มีข้อดีกว่าวัคซีนเชื้อตาย คือ ป้องกันได้นานกว่า โดยไม่ต้องฉีดเข็มกระตุ้น วิธีการคือเลี้ยงไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยง ไม่ได้เลี้ยงในสมองหนู ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดผลแทรกซ้อนทางระบบประสาท ป้องกันสมองและไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากเนื้อเยื่อสมองหนูปนเปื้อนในวัคซีน
การฉีดวัคซีนโดยปกติคือ ฉีด 2 เข็ม ครั้งแรกฉีดเมื่ออายุ 1 ขวบ และเข็มที่ 2 ห่างออกไป 1 ปี แต่ในปัจจุบันสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือนขึ้นไป สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคได้ภายใน 28 วันหลังจากฉีดเข็มแรก และฉีดเข็มที่ 2 ห่างกัน 3-12 เดือน ถ้าต้องการป้องกันระยะยาวให้ฉีดเข็มกระตุ้นทุก 1-2 ปี เข้าใต้ผิวหนัง
สำหรับผู้ใหญ่ อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนป้องกันเพียง 1 ครั้ง ก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคได้หลังจากฉีดไปแล้ว 14 วัน และไม่จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นอีกภายในระยะเวลา 5 ปี หลังจากฉีดเข็มแรก