หากลูกของคุณ คลอดก่อนกำหนด ทำไมคุณหมอต้องพาลูกเข้าตู้อบ ส่องไฟ ให้ออกซิเจนด้วยล่ะ แล้วการรักษาเหล่านี้จะมีผลต่อดวงตา และอวัยวะอื่นของลูกหรือไม่?
โครงสร้างร่างกายของทารกทุกคนที่คลอดออกมาจากท้องคุณแม่ จะยังไม่สมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว แต่จำเป็นต้องออกมาสู่โลกภายนอก จากนั้น ร่างกายน้อยๆ ของเด็กทารกจะเติบโตพัฒนาต่ออย่างรวดเร็วในช่วงขวบปีแรก หากยิ่งคลอดก่อนกำหนด อวัยวะหลายส่วนจึงยิ่งมีความไม่สมบูรณ์มากกว่าเด็กทารกครบกำหนด ความผิดปกติที่พบบ่อยในทารกคลอดก่อนกำหนด ได้แก่
1. ปอดทำงานผิดปกติ
เนื่องจากถุงลมและทางเดินหายใจยังพัฒนาไม่เต็มที่ ผลคือ ทารกจะมีอาการหอบเหนื่อยหรือเสียชีวิต เนื่องจากปอดทำงานแลกเปลี่ยนออกซิเจนไม่ได้ การรักษาจึงต้องใส่ท่อช่วยหายใจทางหลอดลม และใช้เครื่องช่วยหายใจ
2. จอประสาทตาหลุดลอก
จอประสาทตาของทารกเกิดก่อนกำหนดยังมีการพัฒนาไม่เต็มที่ ประกอบกับการได้รับออกซิเจน ทำให้เกิดปัญหาเลือดออก เมื่อซ่อมแซมแล้วกลายเป็นพังผืดแผลเป็น แล้วนำไปสู่การหลุดลอกของจอประสาทตา ทำให้ตาบอดหรือการมองเห็นผิดปกติ ซึ่งต้องรักษาด้วยการยิงเลเซอร์
3. ภาวะตัวเหลือง
เนื่องจากตับของทารกเกิดก่อนกำหนดยังทำงานไม่เต็มที่ จึงเกิดปัญหาตัวเหลืองได้บ่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะรักษาด้วยการส่องไฟ
อ่านต่อ “ความเสี่ยงของการรักษาทารกคลอดก่อนกำหนด” หน้า 2
เข้าตู้อบ ส่องไฟ ให้ออกซิเจน: ต้องดูแลอย่างดี
ในกรณีที่ลูกน้อยต้องเข้าตู้อบ ให้ออกซิเจนเพื่อช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น และส่องไฟเพื่อรักษาตัวเหลืองนั้น ประโยชน์ของออกซิเจนคือ ช่วยให้ลูกรอดชีวิต แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายจากพิษของออกซิเจนต่อ หลอดลม เนื้อปอด และจอประสาทตา ดังนั้นจะต้องมีแนวทางการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว
ข้อห้ามในการส่องไฟมีข้อเดียวคือ กรณีเหลืองจากโรคตับอักเสบ ท่อน้ำดีอุดตัน เพราะจะไม่ลดสารเหลืองที่เกิดจากสาเหตุดังกล่าว แต่ทำให้ผิวหนังเปลี่ยนสี เป็นสีเหมือนทองแดง (Bronze baby syndrome)
บทความโดย: พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด
ภาพ: Shutterstock