คาร์ซีท มี 2 ชนิด คือ
1. ชนิดสำหรับทารก (infant car seat)

ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 16 กิโลกรัม ข้อดีคือ มีน้ำหนักเบา สามารถถอดและนำออกจากรถได้ขณะที่ลูกยังหลับอยู่โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายตัวลูกออก ใช้ถือเพื่อพาลูกไปไหนมาไหนได้ (carrier) หรือนำคาร์ซีทวางไว้ในรถเข็นเด็กได้เลย (stroller) รุ่นนี้ต้องหันไปทางด้านหลังรถเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของศีรษะ คอและลำตัว อย่างน้อยอายุ 2 ปี หรือจนกว่าน้ำหนักตัวเกิน 16 กิโลกรัม เพื่อป้องกันปัญหากระดูกคอเคลื่อนหากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
งานวิจัยยืนยันว่า เด็กเล็กยังมีกระดูกคอไม่แข็งแรง การหันคาร์ซีทไปด้านหลังจะช่วยลดอันตรายจากแรงกระแทก เพราะเบาะของคาร์ซีทจะช่วยกระจายแรงกระแทกต่อกระดูกคอ ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตและเป็นอัมพาตได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการหันคาร์ซีทไปทางด้านหน้า
2. คาร์ซีทชนิดหมุนได้ (convertible seat)

ภาพจาก carseatblog.com
ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 36 กิโลกรัม โดยหากลูกยังเล็กน้ำหนักแรกเกิด-18 กิโลกรัม จะหันไปทางด้านหลังรถ หากเกิน 18 กิโลกรัม ให้หันคาร์ซีทไปทางด้านหน้าได้ คาร์ซีทชนิดนี้มีน้ำหนักมากและยกขึ้นลงไม่สะดวก ข้อดีคือประหยัดเงิน เพราะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนโต แต่ข้อเสียคือหากนำมาใช้ในเด็กทารกแรกเกิด อาจดูใหญ่เกินไปต้องหาอุปกรณ์มาประคองลำตัวและคอของทารกให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น