ลักษณะ อึทารกแรกเกิด หรือ สีอุจจาระทารกแรกเกิด เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรสังเกตอยู่เสมอ แถมไม่ใช่เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะรับมือได้ง่ายๆ เลย Amarin Baby & Kids จึงมีวิธีการดูสีอุจจาระของทารกแรกเกิด มาแนะนำ เพื่อให้คุณแม่ทราบถึงสุขภาพร่างกายของลูกน้อยแรกเกิดได้ จะเป็นอย่างไรตามมาดุกันเลยค่ะ
สีอุจจาระทารกแรกเกิด บอกสุขภาพได้มากกว่าที่คิด
ซึ่งในครั้งแรกๆ คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจรู้สึกรังเกียจ อุนจิ หรือ อึของลูก ขณะที่คุณพ่อคุณแม่บางคนรู้สึกเฉยๆ แถมบางคนกลับชอบเจ้าอุนจินี่ด้วยซ้ำ เพราะเวลาไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอก็มักจะถามถึงสีและรูปร่างของอุนจิของลูกทารกน้อยเสมอ
ทั้งนี้เรื่อง การอึ ของลูกน้อยนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่มือใหม่ทุกคนกังวลใจอย่างมาก เพราะคุณจะไม่รู้มาก่อนเลยว่าเวลาที่ลูกน้อย “อึ” ออกมาไม่รู้สีแบบไหนปกติ หรือไม่ปกติ หรือทำไมเวลาที่ลูกหน้าดำหน้าแดงบิดตัวไปมาเป็นเพราะปวดท้องอึ หรือปวดท้องอย่างอื่นหรือเปล่า ซึ่งนั่นก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ที่จะต้องเรียนรู้กันต่อไปคือการสังเกตว่า สีอุจจาระทารกแรกเกิด สีแบบไหนบ่งบอกอะไรต่อสุขภาพของลูกน้อยค่ะ
อย่างไรก็ดี เมื่อลูกน้อยเริ่มอาหารเสริมได้แล้ว อาหารเหล่านั้นก็มีส่วนทำให้ รูปร่าง และ สีอุจจาระทารกแรกเกิด เปลี่ยนไปได้ ซึ่งสิ่งที่ช่วยทำให้ลูกน้อยขับถ่ายได้ดีมี 3 ประการ คือ
1) น้ำ
2) เส้นใย
3) ฝึกลูกให้มีอุปนิสัยในการขับถ่ายที่ดี
เพราะอาหารเสริมนั้นแข็งกว่าน้ำนม จึงทำให้อุจจาระของเด็กที่เพิ่งเริ่มฝึกหม่ำอาหารเสริมมีความแข็งขึ้น และมีสีที่เข้มขึ้นด้วย เนื่องจากเขากำลังปรับตัวเข้ากับอาหารใหม่ๆ บางครั้งคุณแม่อาจพบชิ้นส่วนอาหารที่ไม่ย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ ปนออกมากับอุจจาระ ผักและผลไม้อาจทำให้อุจจาระของลูกมีลักษณะเปลี่ยนไปบ้าง เมื่อลูกอายุเข้าปลายขวบปีแรก ลูกมักจะถ่ายอุจจาระวันละ 1 ครั้ง อาจมีความถี่มากหรือน้อยกว่านี้ได้ในเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ตราบใดที่อุจจาระยังคงนิ่มเหมือนเดิม
แล้วลักษณะเด่น และสีอุจจาระทารกแรกเกิด จะสามารถบอกสุขภาพของลูกได้อย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ…⇓
10 ลักษณะเด่น และ สีอุจจาระทารกแรกเกิด บอกสุขภาพ
1. สีอุจจาระทารกแรกเกิด ก้อนแรกหลังคลอด เรียกว่า “ขี้เทา”
อุนจิก้อนแรกของลูกน้อยแรกคลอดจะเหนียวและมีสีดำ เรียกว่า “ขี้เทา” เป็นของเสียที่สะสมตั้งแต่เบบี๋อยู่ในท้องของคุณแม่ ภายในหนึ่งถึงสองวันแรกหลังคลอด หนูน้อยควรต้องถ่าย “ขี้เทา” นี้ออกมา หลังจากนั้นอุจจาระของเบบี๋ก็จะนิ่มขึ้น แต่ยังมีสีเข้มอยู่ค่ะ
2. หากปัสสาวะของหนูน้อยแรกคลอดมีสีชมพูอ่อนๆ ปนมา เป็นเรื่องปกติ
หากช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด ปัสสาวะของหนูน้อยมีสีชมพูอ่อนๆ ส้มอ่อน หรือสีแดงระเรื่อปนมา คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะผลึกกรดยูริคที่สะสมอยู่อาจทำให้ปัสสาวะมีสีเหล่านี้ออกมาได้ แต่หากปัสสาวะของเบบี๋มีสีปนมาเกิน 4 วัน คุณพ่อคุณแม่ควรรีบปรึกษากุมารแพทย์
3. อุนจิเบบี๋ควรมีสีอ่อนลงหลังจากคลอด 3 วัน
ในวันที่ 3 อุนจิของเบบี๋ควรจะมีสีอ่อนลง เด็กบางคนอาจอุจจาระออกมาเป็นสีเขียว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติค่ะ หากลูกน้อยยังอุจจาระออกมาเป็นสีดำเข้ม คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษากุมารแพทย์ค่ะ
4. เมื่อเบบี๋อายุครบ 5 วัน อุจจาระควรจะเป็นสีออกเหลืองมัสตาร์ด
เมื่อลูกน้อยอายุครบ 5 วัน อุนจิควรเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด (สำหรับเด็กบางคนอาจมีอุนจิสีเขียวอ่อนหรือสีส้มอ่อนได้ค่ะ) เมื่อถึงเวลานี้อุนจิของเบบี๋จะมีปริมาณมากขึ้น มีลักษณะที่เหลวขึ้น และสีอ่อนลงค่ะ
5. 5 วันแรกหลังคลอด ปริมาณการขับถ่ายของเสียของเบบี๋ควรเพิ่มขึ้น
หนูน้อยอายุ 1 วันอาจมีการขับถ่ายของเสียวันละ 1 ครั้ง เมื่อถึงวันที่ 2 ก็ควรมีการขับถ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 2 ครั้ง โดยเพิ่มขึ้นแบบนี้เรื่อยไปจนถึงวันที่ 5 ค่ะ
6. เมื่อลูกน้อยอายุครบ 5 วัน ควรมีการขับถ่ายของเสีย 5 ครั้ง
ตั้งแต่ลูกมีอายุครบ 5 วันเป็นต้นไป ลูกน้อยควรอุจจาระหรือปัสสาวะอย่างน้อยวันละ 5 ครั้ง โดยปัสสาวะควรมีสีอ่อนและกลิ่นเหม็นน้อยลงค่ะ
7. เมื่อครบ 5 วันแล้ว ทารกน้อยควรอุจจาระอย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน
หลังจากหนูน้อยอายุครบ 5 วัน ลูกควรอุจจาระอย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน โดยอุจจาระควรมีสีเหลืองมัสตาร์ด ยิ่งถ้าหนูน้อยได้กินนมแม่จะยิ่งอุจจาระบ่อย และเนื้อเหลวกว่าอุจจาระของหนูน้อยที่กินนมผสมค่ะ อุนจิของทารกที่กินนมผสมจะมีสีออกน้ำตาลกว่าและมีกลิ่นที่ต่างออกไป
8. หลังจาก 6 สัปดาห์ ลูกน้อยอาจถ่ายน้อยลง
เมื่อลูกน้อยอายุครบ 6 สัปดาห์แล้ว ลูกน้อยอาจถ่ายน้อยลง เด็กบางคนอาจถ่ายอุจจาระ 1 ครั้งทุก 2 – 3 วัน หากอุนจิของหนูน้อยไม่เหลวจนเกินไปและมีปริมาณมากพอ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ
9. ลูกน้อยจะเริ่มกินอาหารได้เมื่อไหร่
เมื่อทารกน้อยอายุครบ 6 เดือน คุณพ่อคุณแม่สามารถทดลองให้ลูกกินอาหารชนิดอื่นนอกจากนมได้แล้วค่ะ เมื่อหนูน้อยเริ่มกินอาหารที่เปลี่ยนไป อุนจิก็จะมีลักษณะที่เปลี่ยนไปด้วย โดยจะเหนียวขึ้นและมีสีที่แตกต่างกันออกไปตามชนิดของอาหารที่กิน เช่น ทารกที่กินแครอทหรือฟักทองมากๆ อุจจาระจะมีสีออกส้ม
10. หากอุจจาระมีลักษณะผิดปกติ ควรปรึกษากุมารแพทย์
เมื่อคุณพ่อคุณแม่พบว่าอุจจาระของลูกเป็นมูก มีสีดำ หรือเป็นสีขาว ควรรีบปรึกษากับกุมารแพทย์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ลักษณะ และ สีอุจจาระทารก แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยเรื่องอุจจาระของลูกน้อยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาคุณหมอและผู้เชี่ยวชาญได้เลยค่ะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- สีของฉี่ บ่งบอกสุขภาพ พร้อม 10 ประโยชน์ที่รู้แล้วต้องอึ้ง!
- สีอุจจาระลูก ไม่ว่าจะนมแม่หรือนมผสมต่างกันอย่างไร
- สีอุจจาระบอกโรค อุจจาระลูกเปลี่ยนสีเพราะอะไร
ที่มา: bellybelly.com.au