จากข่าวเมื่อปีที่แล้ว (2559) ที่บีบีซีไทย ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับแป้งเด็ก ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ และทำให้เสียชีวิตได้ เพราะมีส่วนผสมของ ทัลคัมอันตราย สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนในโลกสังคมออนไลน์ไปทั่วโลก แล้วทำอย่างไรจึงจะหลีกเลี่ยงอันตรายได้
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 60 ที่ผ่านมานี้ บีบีซีไทย ก็ได้แจ้งอัปเดตข่าวนี้ว่า…
ทางศาลประจำรัฐเซนต์หลุยส์ ได้มีคำตัดสินให้บริษัทที่ผลิตแป้งเด็กนี้ จ่ายเงินค่าชดเชยกว่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่นางโลอิส สเลมป์ หญิงอเมริกันวัย 62 ปี จากรัฐมิสซูรี หลังได้ฟ้องร้องว่าแป้งเด็กของบริษัทนี้ เป็นสาเหตุทำให้เธอป่วยด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้แป้งนี้มานานถึง 40 ปี
ซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่าทางบริษัทมีความผิดที่ไม่ได้แจ้งเตือนผู้บริโภคถึงความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์อย่างเพียงพอ โดยก่อนหน้านี้เชื่อกันว่าสารทัลค์ (Talc) ในแป้ง ซึ่งทำมาจากแร่ในหินชนิดหนึ่ง อาจทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันถึงความเชื่อมโยงกันดังกล่าว
♥ บทความแนะนำควรอ่าน : สัญญาณเตือนโรค “มะเร็งรังไข่” ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรรู้!
ก่อนหน้านี้นางสเลมป์บอกว่าใช้ผลิตภัณฑ์แป้งทาตัวของสองยี่ห้อ มาเป็นเวลานาน ก่อนแพทย์จะวินิจฉัยว่าเธอเป็นมะเร็งรังไข่เมื่อปี 2012 ขณะนี้เธอยังเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดอยู่หลังโรคมะเร็งหวนกลับมาอีกครั้งและแพร่กระจายไปที่ตับ
ในด้านบริษัทแป้งเด็กที่ถูกฟ้อง ยังคงยืนยันถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์แป้งเด็ก และบอกว่าจะทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในปีนี้ ทั้งจะขอยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป ซึ่งคดีนี้เป็นหนึ่งใน 2,400 กรณีที่มีผู้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อทางบริษัท เนื่องจากเกิดการเจ็บป่วยหลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีทัลค์เป็นส่วนประกอบ
ซึ่งผู้สื่อข่าววิทยาศาสตร์ของบีบีซีรายงานว่า แม้จะมีกระแสข่าวว่าการใช้แป้งทัลคัมทาตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณอวัยวะเพศจะทำให้เป็นมะเร็งรังไข่ได้ แต่นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา สารทัลค์ที่ใช้ในแป้งทาตัวและเครื่องสำอางนั้นเป็นแบบที่ปราศจากแอสเบสโทสซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเจือปน ประกอบกับที่ผ่านมาผลการศึกษาทดลองในเรื่องนี้หลายครั้งให้ผลที่ขัดแย้งกัน โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (IARC) ระบุเพียงว่า “อาจมีความเป็นไปได้” ที่แป้งทัลคัมจะก่อมะเร็งรังไข่
♥ บทความแนะนำควรอ่าน : อันตราย!! แป้งเด็ก ฆ่าลูกน้อยได้! ภาค 2
อ่านต่อ “อันตรายของทัลคัม” คลิกหน้า 2
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : www.bbc.com
แล้วแป้งที่คุณพ่อคุณแม่ทาตัวลูกน้อยในตอนนี้ ปลอดภัยแล้วจริงเหรอ? คงเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มสงสัย เรามาดูกันว่าส่วนผสมในแป้งเด็กโดยทั่วไปที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างไร?
ทัลคัมคืออะไร?
รศ.ดร.ไสยวิชญ์ วรวินิต ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีแป้ง และนักเทคโนโลยีดีเด่นของมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2549 ให้ความรู้เอาไว้ว่า แป้งเด็กทาตัวที่นิยมใช้กันอยู่นั้นทำมาจากแร่หินชนิดหนึ่งมีชื่อว่า ทัลค์ (Talc) หรือ ทัลคัม (Talcum) โดยการนำมาโม่ให้ละเอียด อบให้แห้ง ผ่านการฆ่าเชื้อ และแยกสิ่งแปลกปลอมออก
แป้งที่ทำมาจากทัลคัม มีลักษณะเป็นสีขาวโปร่งใสทำให้ผิวแห้งเนียน จึงนิยมนำมาใช้ทำแป้งฝุ่น แป้งเด็ก แป้งหน้าทา และอายแชร์โดว์ ถึงแม้จะมีการแยกสิ่งแปลกปลอม ก็ยังไม่สามารถทำให้บริสุทธิ์ได้ 100%
อันตรายของทัลคัม
ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) และ U.S. Environmental Protection Agency ได้จัดให้ทัลคัมเป็นสารก่อมะเร็งที่ไม่สามารถจัดจำพวกได้ นอกจาก “ทัลคัม” จะมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งแล้ว ยังมีผลต่อระบบทางเดินหายใจของลูกน้อยอีกด้วย โดยสามารถดูได้ใน Infographic จากเว็บไซต์กระปุก
นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าทัลค์ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อสัตว์ทดลอง ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ และไม่เป็นสารก่อมะเร็ง ถ้าผ่านการทำให้บริสุทธิ์ ผ่านการบด คัดแยก ให้มีขนาด 0.3 – 75 ไมโครเมตร และไม่มีอนุภาคแข็ง ต้องไม่พบแร่ใยหิน ซึ่งสำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เฝ้าระวังความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์แป้งที่มีส่วนผสมของทัลค์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ถึง 2558 จำนวน 73 ตัวอย่าง ผลการตรวจพบว่าทุกตัวอย่างไม่พบการปนเปื้อนของแร่ใยหิน
ถึงแม้ว่าสารนี้จะไม่ทำให้เกิดอันตรายในช่วงสั้นๆ แต่แร่หินทัลคัมไม่สามารถย่อยสลายได้เอง ถ้าสูดดมเข้าไปทีน้อย เป็นเวลานานๆ อาจสะสมอยู่ในปอด ผิวปอดจะจับแป้งเอาไว้เป็นก้อน ทำให้มีปัญหาการหายใจ มีอาการไอ จาม ระบบทางเดินหายใจติดขัด หากเป็นเด็กทารกอาจทำให้ปอดอักเสบ เสี่ยงเกิดโรคเนื้องอกในปอด และเสียชีวิตได้ ในบางประเทศ เช่น อเมริกา มีการห้ามใช้ทัลคัมในการผลิตแป้งฝุ่นสำหรับเด็กด้วย
นอกจากนี้ ถ้านำไปทาที่จุดซ่อนเร้น อาจทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง 3 เท่า และอาจเป็นไปได้ที่จะหลงเข้าไปในร่างกายผ่านทางช่องคลอด
อ่านต่อ “ข้อเท็จจริง >> ทัลคัมในแป้งเด็กอันตรายจริงหรือไม่?” คลิกหน้า 3
ข้อเท็จจริง : ทัลคัมในแป้งเด็กอันตรายจริงหรือไม่?
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ออกมาชี้แจงว่า ทัลคัม แบ่งออกเป็น 2 เกรด คือเกรดที่ใช้กับโรงงาน และเกรดที่ใช้กับอาหารและเครื่องสำอาง ซึ่งต้องทำให้บริสุทธิ์สูง และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ต้องไม่มีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน ซึ่งเป็นสารที่กระทรวงสาธารณะสุขห้ามใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ถึงแม่ว่ากระทรวงสาธารณะสุขจะอนุญาตให้ใช้ทัลคัมที่บริสุทธิ์ในเครื่องสำอางได้ แต่ก็มีการสั่งให้มีคำเตือนในแป้งฝุ่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบว่า “ระวังอย่าให้เข้าจมูกและปากของเด็ก”
√ วิธีใช้แป้งที่ถูกต้อง
1.เทแป้งใส่มือในปริมาณน้อย แล้วใช้มือถูไปมาให้บางๆ ก่อนทาบนตัว ไม่ควรโรยบนร่างกายโดยตรง
2.หลีกเลี่ยงการใช้บริเวณใบหน้า และจุดซ่อนเร้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าแป้งที่ใช้ทาตัวลูกน้อยปลอดภัย?
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผลการยืนยันที่แน่ชัด แต่เราสามารถป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายจากการใช้แป้งของลูกน้อยได้ง่ายๆ ด้วยการสังเกตที่ฉลากข้างผลิตภัณฑ์ ที่ต้องไม่มีคำว่า TALC หรือ Talcum powder หันมาใช้แป้งที่มีส่วนผสมจากแป้งข้าวโพด แป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี หรือส่วนผสมที่ทำมาจากธรรมชาติบริสุทธิ์แทน
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- ใช้แป้งเด็กกับเบบี๋แล้วปลอดภัยไหม?
- 19 สัญญาณเตือนโรคมะเร็ง ที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม
- อาการผิดปกติของทารก ที่ต้องพบแพทย์
เครดิต: บีบีซีไทย – BBC Thai, Kapook.com, คมชัดลึก, Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
Save
Save