คุณแม่หลายคนคงกลุ้มใจ เมื่อ ลูกแพ้เหงื่อตัวเอง มีผดผื่นขึ้นเต็มตัว ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนเช่นนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอนที่จะมีเหงื่อ โดนเฉพาะลูกเล็กๆ ที่บางครั้งอาจจะออกแรง เล่น หรือทำกิจกรรมต่างๆ จนทำให้เหงื่อออกตลอดเวลา จนเกิดอาการคัน แดง และเป็นผดผื่น เต็มตัว
หนูน้อยบางคนมีอาการแพ้หนัก ผดผื่นขึ้นเต็มหน้าอก คอ ไรผม ตามหน้าผาก ข้อพับ จนคุณแม่รู้สึกสงสารลูก เพราะลูกน้อยเกา และงอแงตลอดเวลา บางครั้งมีอาการรุนแรงคล้ายลมพิษ
โรคแพ้เหงื่อตัวเอง คืออาการของภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากเหงื่อเป็นพิษ แต่เกิดจากความชื้น และความเค็มของเหงื่อ ทำให้ผิวหนังเกิดอาการคัน มีผื่นแดง และไม่สบายตัว
โรคแพ้เหงื่อเกิดจากอะไร
- เกิดจากโรคผิวหนังที่เป็นอยู่ ทำให้มีรอยโรค และพร้อมก่อปฏิกิริยาบางอย่างกับเหงื่อได้ทันที
- เกิดจากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น มีฝุ่นละออง มีเชื้อโรค เชื้อรา หรือแบคทีเรีย
- เกิดจากผิวบอบบางง่ายต่อการแพ้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก หรือเด็กที่มีปัญหาผิวติดสเตียรอยด์
- เกิดจากปฏิกิริยาแพ้เหงื่อของร่างกาย คือ ร่างกายต่อต้านเหงื่อของตัวเอง เป็นการแพ้ที่ผิดปกติ
วิธีเช็คว่าลูกแพ้เหงื่อหรือไม่
- มีอาการคันเวลาเหงื่อออก โดยเฉพาะจุดที่มีเหงื่อมาก เช่น ลำคอ ใบหน้า ขาหนีบ แขน ขา ข้อพับ
- เมื่อเหงื่อออก ผื่นแดง หรือตุ่มใสจะขึ้นตามมา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีแค่ไหนก็ตาม
- ตุ่มคัน หรือผื่นแดงที่ปรากฏ จะอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ถ้าเหงื่อออกอีกครั้งก็จะเป็นอีก
อาการของโรคแพ้เหงื่อตัวเองในเด็ก
- ผื่นจากต่อมเหงื่อ
ต่อมเหงื่อของเด็กเล็กยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้ต่อมเหงื่ออุดตัน กลายเป็นผดผื่น ทำให้เกิดผดใส ผดแดง ผดสีขุ่น ขึ้นอยู่กับความลึกของต่อมเหงื่อ คุณแม่อาจจะรู้สึกว่าลูกตัวร้อนกว่าปกติ นั่นเพราะร่างกายกำลังขับความร้อนออกมา คุณแม่ไม่ต้องกังวล ให้สังเกตว่าลูกยังรับประทานอาหารได้ปกติ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง
- ผื่นคันจากต่อมไขมัน
อาการมักจะเกิดกับเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงเดือนแรกหลังคลอด ซึ่งเป็นช่วงที่รูเปิดของต่อมไขมันยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการอุดตัน และอักเสบได้ง่าย ผดผื่นที่เกิดขึ้นจะมีบริเวณที่มีต่อมไขมัน เช่น ศีรษะ คิ้ว ใบหู หลังหู ใบหน้า แก้ม ข้อพับ ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ หน้าอก แผ่นหลัง แต่ไม่มีอาการคัน (อ่านต่อ ปัญหา “ผิวหนัง” ยอดฮิตของลูกเบบี๋)
- ผื่นจากความอับชื้น
เกิดจากการสวมใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปนานเกินไป ทำให้น้ำปัสสาวะ และอุจจาระหมักหมม จนทำให้ผิวหนังเป็นผื่นคัน และอักเสบ เรียกกันว่า ผื่นผ้าอ้อม ทำให้เกิดเชื้อรา เพราะสัมผัสกับแบคทีเรีย และอาจพุพองได้
อ่านต่อ “การดูแลรักษา หากลูกแพ้เหงื่อตัวเอง” คลิกหน้า 2
การรักษาโรคแพ้เหงื่อตัวเอง
เคล็ดลับจากประสบการณ์คุณแม่เมื่อ ลูกแพ้เหงื่อตัวเอง
- เวลาอาบน้ำ ฟอกสบู่ เน้นที่บริเวณที่เป็นผื่น ให้ความเค็มของเหงื่อออกไป แล้วซับให้แห้ง ทาด้วยแป้งเด็ก ถ้าระหว่างวันมีเหงื่อออก ให้เอาผ้าชุบน้ำ บิดหมาดๆ เช็ดซับให้แห้ง แล้วทาแป้งเด็ก ประมาณ 2-3 วันจะหาย
- พาลูกไปพบคุณหมอ คุณหมอจะให้คาลาไมด์ ยาแก้แพ้ และสบู่มา คุณหมอแนะนำว่าเวลาอาบน้ำให้ลูก อย่าเปิดจากก๊อกโดยตรง เพราะน้ำอาจร้อนเกินไปสำหรับผิวเด็ก ให้รองน้ำใส่ภาชนะให้เย็นก่อน ลดผื่นได้
เคล็ดลับจากคุณหมอ (ศ.ดร.นพ.ธัมม์ทิวัตถ์ นรารัตน์วันชัย)
- ไม่ใช้สารเคมีที่รุนแรงมากเกินไปเมื่อทำความสะอาดผิวเด็ก
- ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดล้างร่วมกับสบู่อ่อนๆ และควรเปลี่ยนผ้าอ้อมและทำความสะอาดทุกครั้งที่ลูกถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
- ไม่ควรให้ลูกอาบน้ำร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงขนสัตว์ นุ่น ฝุ่นละออง
- ระมัดระวังมิให้ลูกสัมผัสเครื่องสำอาง เช่น เวลาผู้ใหญ่เล่นกับเด็ก เพราะในเครื่องสำอางมักมีสารเคมี จะทำให้แพ้ และติดเชื้อได้
- สำหรับเด็กโต รักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจลูกให้ดี ไม่ให้ลูกเครียด ให้ลูกรู้และเข้าใจ ป้องกันตัวเองมากขึ้น
- ผิวที่เป็นผื่นควรทำให้สะอาด และเป่าลมให้แห้ง เวลาอยู่บ้านไม่ต้องใส่ผ้าอ้อม ปล่อยให้ผิวโล่ง
- บางครั้งอาจต้องทายาฆ่าเชื้อรา ฆ่าแบคทีเรีย หลีกเลี่ยงอากาศร้อนชื้น ไม่ใส่เสื้อหนา ใส่เสื้อโปร่ง
- อยู่ในห้องปรับอากาศช่วยลดอาการได้ ควรอาบน้ำให้เด็กบ่อยๆ ทาแป้งฝุ่น และทายาแก้คัน
- ถ้าไม่หายดีให้พาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษา
เครดิต: ยัยจิ๋ว, kapook.com, ศ.ดร.นพ.ธัมม์ทิวัตถ์ นรารัตน์วันชัย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
อย่ากลัว ลูกติดอุ้ม !! หมอเด็กเผยเหตุผลดี ๆ ที่แม่ควรอุ้มลูก
