13.เมื่อถูกสุนัขกัด
ถ้าสุนัขที่กัดนั้นได้รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้ว ให้ล้างแผลด้วยสบู่ และน้ำสะอาด เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยเช็ดในทิศทางที่ออกจากแผล จากนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรนำลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่า สุนัขที่กัด ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้วหรือยัง? อาจทำให้ลูกเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ ทางที่ดีคุณแม่ควรล้างแผลด้วยน้ำสบู่แล้วเช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อย่างไรก็ดี ไม่ควรฆ่าสุนัขที่กัด แต่ควรขังไว้เพื่อดูอาการ 10 วันว่าเป็นบ้าหรือไม่ หรือนำสุนัขไปให้สัตวแพทย์เพื่อตรวจอาการต่อไป
แต่ถ้าสุนัขตายระหว่างดูอาการ ให้นำซากสุนัขไปส่งสถานเสาวภา หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดเพื่อตรวจพิสูจน์ หรือหากต้องเดินทางหลายวัน ให้แช่หัวสุนัขไว้ในน้ำแข็งเพื่อกันไม่ให้สมองสุนัขเน่า และถ้าสุนัขที่กัดเป็นบ้า หรือไม่สามารถติดตามสุนัขได้ ให้พาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
14.เมื่อลูกกระดูกหัก
แน่นอนว่า วัยเด็กถือเป็นวัยกำลังซนมาก การเล่นจึงมีความเสี่ยงที่จะหกล้มได้สูง โดยเฉพาะล้อแล้วกระดูกหัก ดังนั้นเมื่อกระดูกหัก วิธีแรกให้ลูกนอนอยู่กับที่ ห้ามเคลื่อนย้ายโดยไม่จำเป็น ถ้ามีเลือดออกให้ทำการห้ามเลือดโดยด่วน
หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้เข้าเฝือกชั่วคราวไว้ก่อน ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งถ้ามีบาดแผลให้ปิดแผลด้วยผ้าสะอาดก่อนเข้าเผือก จากนั้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ดี ถ้าเป็นอาการกระดูกหักที่ส่วนคอ หรือกระดูกสันหลัง ต้องพยายามเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะหากเคลื่อนไหวผิดท่าอาจทำให้เด็กพิการได้
15.เมื่อลูกเคล็ดขัดยอก
เคล็ดขัดยอกอาจเกิดจากการสะดุดล้ม หรือโดนของแข็ง ลำดับแรกควรจัดท่านั่ง หรือนอนพักในท่าสบายๆ ให้กับลูก จากนั้นให้ยกส่วนที่เคล็ดให้สูงขึ้น รองด้วยหมอน หรือผ้าห่มหนาๆ แล้วนวดด้วยน้ำมันปาล์ม พันด้วยผ้าพันแผล แต่อย่าพันให้แน่นมาก เพราะจะทำให้ส่วนที่ขัดยอกระบมได้
16.เมื่อลูกโดนของมีคมบาด
การถูกมีดบาด ถือเป็นเรื่องปกติที่เด็กจะโดนบาดกัน ซึ่งเชื่อว่า ลูกๆ ของท่านผู้อ่านคงต้องโดนบาดกันมาบ้างแล้ว อย่างไรเสียเมื่อถูกบาดแล้ว ให้รีบทำความสะอาดบริเวณรอบๆ บาดแผลโดยใช้สำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เจือจางด้วยน้ำ และเช็ดในทิศทางที่ออกจากแผล จากนั้นปล่อยให้แห้ง ทาครีมที่มียาฆ่าเชื้อโรค หรือปล่อยให้แผลเปิดแห้ง หรือถ้าถูกตะปูตำอวัยวะของร่างกาย ควรทำความสะอาดแผลเบื้องต้น
คงจะเป็นวิธีการช่วยเหลือเด็กเบื้องต้นที่จะเป็นประโยชน์ไม่ใช่น้อย ทางที่ดีการจัดเก็บ และมีความละเอียด รอบคอบในการจัดบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะกันไว้ดีกว่าแก้ อย่างไรก็ดี บ้านไหนเคยเจอสถานการณ์เสี่ยงแบบนี้ หรือแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ และสามารถช่วยเหลือลูกให้รอดพ้นจากสถานการณ์เสี่ยงตายเหล่านั้นได้ นำมาแบ่งปัน และแชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ ทั้งนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์กับครอบครัวอื่นๆ ในการช่วยเหลือบุตรหลานต่อไป
เครดิต: ผู้จัดการออนไลน์