ใครว่าเด็กๆ วัยเบบี้ที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอน แถมทำตาแป้วๆ ใส่คุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องทำอะไร … แท้ที่จริงแล้วเห็นเด็กๆ แบบนี้หนูๆ ก็มีงานต้องรับผิดชอบนะคะ ซึ่งงานสำหรับเด็กๆ คือ “การเล่น” นั่นเอง สิ่งที่พ่อแม่ทำได้คือหา วิธีเล่นสนุกสร้างเสียงหัวเราะ เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการให้กับลูกน้อย
เพราะการเล่นของลูกๆ นอกจากจะเรียกเสียงหัวเราะและความสนุกแล้ว การเล่นยังแฝงไว้ด้วยบทเรียนชีวิตที่ช่วยฝึกพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับลูกอีกด้วย เด็กทารกมีความมหัศจรรย์ตรงที่บอบบางน่ารักน่าชัง แม้จะยังพูดไม่ได้ เดินก็ยังไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงอ้อแอ้ คลานไปมา ซึ่งการเล่นกับเด็กทารกจะแตกต่างจากการเล่นกับเด็กโต และของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูก “ของเล่นที่มีชีวิตคอยเติมเสียงหัวเราะให้กับลูก คือ คุณพ่อคุณแม่” หากคุณสงสัยว่าจะเล่นกับลูกในวัยทารกให้สนุกและปลอดภัยได้อย่างไรนั้น ตามมาดูกันค่ะว่ามีกิจกรรมสนุกๆ อะไรบ้าง
1. ทำหน้าตลก ๆ
ผลวิจัยและจากการสังเกตพบว่าเด็กทารกชอบมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เด็กทารกวัย 2-3 เดือนมักจะมองหน้าพ่อแม่โดยไม่อาจเบนสายตาไปทางอื่นได้ เด็กทารกวัย 4 เดือนขึ้นไปจะจับจ้องข้าวของชิ้นใหม่หรือของชิ้นเดิมที่คุ้นเคยแต่ดูแปลกตาไปได้เป็นเวลานาน ๆ ดังนั้นถ้าคุณลองดึงหูตัวเอง หยีตา ขยับปาก แลบลิ้น ทำหน้าตาตลก ๆ ใบหน้าที่ลูกคุ้นเคยจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รับรองว่าลูกน้อยจะอดใจจ้องคุณตาเป๋งไม่ไหวแน่ เป็นการเล่นสนุกทั้งสำหรับพ่อแม่และลูกน้อยค่ะ
2. อ่านหนังสือนิทานภาพกับลูกกันเถอะ
ลองหาหนังสือนิทานภาพที่มีเนื้อหาไม่มาก เรื่องโปรดที่คุณพ่อคุณแม่ชอบมาอ่านให้ลูกฟังด้วยน้ำเสียงสนุกๆ ดูซิค่ะ เสียงนิทานที่อ่านให้ลูกฟังจะช่วยฝึกพัฒนาการในเรื่องภาษา และการฟัง และภาพการ์ตูนสีสันสวยๆ จะช่วยเรียกความสนใจจากลูกได้อีกด้วยค่ะ
3. เป็นนักร้องเสียงเอก กับนักเต้นวัยเยาว์
คุณพ่อคุณแม่ลองร้องเพลงจังหวะสนุกๆ ทำนอง และเนื้อเพลงง่ายๆ ให้ลูกฟัง พร้อมกับจับแขนขา และลำตัวลูกให้โยกเบาๆ ไปกับจังหวะของเสียงเพลง เพื่อให้ลูกได้ฝึกการฟังเสียง และขยับแขนขาตามจังหวะสนุกๆ เบาๆ
4. เล่นสบตากับหนุ่มน้อยสาวน้อยตาหวาน
จำการเล่นจองตาแบบห้ามผู้เล่นกะพริบตากันได้หรือเปล่าคะ การเล่นสบตากับลูกน้อยก็มีลักษณะการเล่นคล้ายๆ กันค่ะ แต่จะต่างกันตรงที่เวลาเล่นนอนสบตากับลูกนั้นสามารถกะพริบตาได้ค่ะ (ถ้าเล่นแบบห้ามกะพริบตาใครชนะก็เห็นๆ กันอยู่ใสๆ) การเล่นสบตาปิ้งๆ จะช่วยเสริมสร้างความทรงจำให้กับลูกค่ะ
5. คนล้มอย่าข้าม
แต่ให้คลานข้ามไปเลย คุณพ่อคุณแม่ลองนอนนิ่งๆ ให้ลูกคลานข้ามผ่านแขน หรือ ขาของคุณพ่อคุณแม่ไปให้ได้ค่ะ เพื่อฝึกให้ลูกลองแก้ปัญหา และออกกำลังแขน และขาไปพร้อมกันด้วย
6. โมบายแสนสวย
ลองหาหรือประดิษฐ์โมบายสีขาว – ดำ มาแขวนให้ลูกมองเล่นเพลินๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกใช้สายตากันค่ะ ถ้ามีเสียงเพลงเบาๆ นอกจากจะช่วยให้ลูกมองโมบายแบบไม่วางตาแล้ว ยังช่วยในเรื่องการฟังอีกด้วย
อ่านต่อ >> “วิธีเล่นสนุกเสริมพัฒนาการลูกวัยเบบี๋ โดยไม่เสียเงินสักบาท” คลิกหน้า 2
7. กัดผักเย็นๆ
สำหรับคุณหนูที่เริ่มมีอาการหมั่นเขี้ยวคันเหงือก คุณพ่อคุณแม่ ลองหาผักสดต้มสุกแล้วแช่เย็น นำมาให้ลูกกัดเล่นๆ พอให้หายคันเหงือก
8. หยิบของเล่นออกจากกล่อง
ใส่ของเล่นสีสดใสไว้ในกล่อง แล้วให้ลูกลองหาทางหยิบของเล่นออกมาเอง เพื่อฝึกการหยิบจับ และการแก้ปัญหา (จะหยิบออกมาเล่นได้สำเร็จไหมนะ…!!!)
9. จ๊ะเอ๋…จ๊ะเอ๋ แม่อยู่ไหน?
การเล่น “จ๊ะเอ๋” กับลูกเป็นวิธีส่งเสริมพัฒนาการที่ง่าย แต่ได้ประโยชน์อย่างมากเลยค่ะ คุณแม่ใช้ผ้าเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกโดยผลัดกันเอาผ้าปิดหน้าเพื่อให้เด็กรู้จักซ่อน และโผล่หน้ามาเล่นจ๊ะเอ๋ หรือรู้จักดึงผ้าออก นอกจากจะทำให้ลูกหัวเราะแล้ว ยังช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่าเมื่อสิ่งของหายไปแล้วสามารถกลับคืนมาได้อีก
10. เล่นปูไต่ๆ
วิธีนี้ก็สนุกไม่เบา ใช้ปลายนิ้วมือของแม่หรือพ่อสัมผัสที่ท้องลูกเบาๆ ลูกจะรับรู้ถึงสัมผัสนั้นได้ แค่นี้ก็ทำให้ลูกรู้สึกจั๊กจี๋และหัวเราะออกมาได้แล้ว
11. เอื้อมให้ไกลไปให้ถึง
เพียงแค่คุณเอาของเล่นที่ลูกชอบ วางให้ห่างจากมือลูกสักนิดเจ้าตัวเล็กจะคืบคลานทีละนิดๆ เพื่อเอื้อมหยิบของเล่นชิ้นนั้น วิธีนี้สร้างทั้งเสียงหัวเราะและฝึกให้เขาได้บริหารกล้ามเนื้อแขน ขา และนิ้วมือด้วย
12. ยิ้มให้กระจก
ลองหากระจกที่มีลวดลายสีสันสดใสให้ลูกส่องดูตัวเองสิคะ แล้วทำท่าทางต่างๆ ให้ลูกทำตาม แค่เขาเห็นตัวเองในกระจกก็ยิ้มไม่หุบแล้วค่ะ และถ้ามีท่าตลกๆ ให้เขาเห็นหรือทำตาม เขาจะหัวเราะร่าเลยเชียว
13. ตุ๊กตาหนูหายไปไหน
นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ฮิตไม่เบาเช่นกัน เพียงเอาของที่ลูกโปรดปรานไปแอบไว้สักพัก แล้วค่อยๆ เอาออกมาทำท่าตกใจให้เขาเห็น
อ่านต่อ >> “วิธีเล่นสนุกเสริมพัฒนาการลูกวัยเบบี๋ โดยไม่เสียเงินสักบาท” คลิกหน้า 3
14. ของเล่นไขลาน
ตามให้ทันนะ ฉันจะหนี วางของเล่นไขลานให้ลูกลองไล่จับของเล่น เพื่อให้ลูกได้คลาน ฝึกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแขน และขา
15. เคาะให้เกิดเสียง
ใช้ช้อนคันเล็กๆ เคาะให้เกิดเสียง หรือ เขย่าของเล่นที่มีเสียง ทางซ้ายที ทางขาวที เพื่อให้ลูกหันตามเสียง เพื่อฝึกการได้ยิน
16. ใครเอ่ย หน้าคุ้นๆ
ลองหาอัลบั้มรูปถ่ายของคุณพ่อคุณแม่ และญาติมาเปิดให้ลูกดู พร้อมกับชวนลูกดูว่าคนในภาพนั้นคือใคร เพื่อฝึกการมองเห็น และความจำไปพร้อมกันค่ะ
17. เหินฟ้า…………
ใช้มือ 2 ข้างจับตัวลูกชูขึ้น-ลง ทำอย่างนี้ซ้ำ 2-3 ครั้ง ครั้งแรกเขาอาจจะตกใจแต่เมื่อทำอีก คราวนี้ลูกจะสนุกและหัวเราะร่วนเลยล่ะค่ะ
18. อาบน้ำกัน
ตีน้ำในอ่างอาบน้ำให้แตกกระจาย คุณพ่อคุณแม่ลองสวมวิญญาณความเป็นเด็กอีกครั้ง ตีน้ำเล่นกับลูกให้น้ำกระเด็นใส่ดูบ้าง เรียกเสียงหัวเราะในขณะอาบน้ำกันได้ดีเลยละค่ะ
19. เสื้อผ้าแสนสนุก
หลังอาบน้ำเสร็จขณะที่คุณจะแต่งตัวให้เขา คุณก็นำเสื้อผ้าเหล่านั้นมาสร้างเสียงหัวเราะให้ลูก ด้วยการนำเสื้อผ้ามาสวมที่มือคุณแล้วเต้นไปตามจังหวะเพลงที่คุณร้อง หรืออาจจะแต่งเป็นนิทานสักเรื่องหนึ่งก็ได้ หรืออาจใช้เสื้อผ้าไปจั๊กจี๋ลูกแทนมือก็ได้อีกเช่นกัน
20. ฟังเสียงหัวใจกันและกัน
หลังจากทำกิจกรรมสนุกๆ กับลูกจนหัวเราะท้องแข็ง แวะมาปรับอารมณ์ให้สู่สภาพปกติด้วยการกอดกับลูก แบบหัวใจแนบหัวใจให้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นตุ๊บๆๆ กันค่ะ
ลองนำกิจกรรมสุดสนุกแบบนี้ไปลองเล่นกับคุณลูกดูนะคะ รับรองว่าลูกของคุณจะติดหนึบ จนประหยัดเงินค่าของเล่นไปเป็นกระบุงๆๆ อย่างแน่นอน อีกทั้งยังช่วยฝึกทักษะและพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: gobabyboygirl.com , baby.haijai.com