การนอนของลูก แรกเกิด ถึง 6 ปี จริงๆ แล้วพ่อแม่ควรให้ลูกนอนนานแค่วันละกี่ชั่วโมงในแต่ละวันของช่วงวัยลูก เป็นเรื่อง ที่มีหลายๆ ครอบครัวถามกันเข้ามากค่ะ เพราะส่วนหนึ่งกังวลว่าลูกจะน้อยไป หรือนอนมากไป เรื่องนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบมาให้เพื่อไขข้อข้องใจกันให้ค่ะ
การนอนของลูก แรกเกิด ถึง 6 ปี
ถ้าจะว่าด้วยเรื่อง การนอนของลูก แรกเกิด ถึง 6 ปี เป็นอีกหนึ่งความสนใจของพ่อแม่ในหลายๆ ครอบครัวที่ให้ความสำคัญกันมาก นั่นเพราะการนอนอย่างมีประสิทธิภาพของลูก สามารถส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการการเจริญเติบโตของลูกได้อย่างมาก รวมถึงพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกด้วย
การนอนที่ได้คุณภาพเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิตที่จะส่งผลต่อเนื่องเรื่อยไปในทุกช่วงวัยของลูก ซึ่งแนะนำว่าพ่อแม่ควรปูพื้นฐานกันมาตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี เพราะเป็นช่วงที่พัฒนาการการเจริญเติบโตทำงานได้อย่างเต็มที่ และการนอนที่มีประสิทธิภาพยังช่วยให้โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตหลั่งได้ดี สำหรับโกรทฮอร์โมนเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เอง โดยหลั่งมาจากต่อมไร้ท่อที่สร้างจากต่อมพิทูอิทารีภายใต้สมอง ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกาย กระตุ้นให้เกิดการสร้าง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ โกรทฮอร์โมนจึงสำคัญมากสำหรับเด็กที่จะทำให้สูงสมวัย และไม่แคระแกร็น ทั้งยังเสริมสร้างภูมิต้านทานไม่ให้เจ็บป่วยง่าย ช่วยเรื่องความจำ และพัฒนาการด้านสมอง ซึ่งจะสังเกตได้ว่า หากเด็กคนไหนนอนหลับแต่หัวค่ำและเพียงพอที่ร่างกายต้องการ เด็กจะตื่นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง มีความกระตือรือร้น มีสมาธิในการเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีการจดจำที่ดีอีกด้วยค่ะ
บทความแนะนำ คลิก>> ปัญหาการนอนหลับในเด็ก และการแก้ไข
ในเบื้องต้นพอทราบกันแล้วนะคะว่าการนอนที่ได้ประสิทธิภาพจะช่วยให้ร่างกายลูกหลังฮอร์โมนการเจริญเติบโตได้ดีมากขึ้น ทีนี้มาถึงคำถามที่ว่าแล้วลูกในแต่ละช่วงวัยควรนอนแค่ไหนถึงจะพอละ? เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผู้เขียนมีคำตอบมาให้ได้ติดตามกันต่อดังนี้ค่ะ…
อ่านต่อ ต้องนอนแค่ไหนต่อวันกับลูกวัย 0-6 ปี หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การนอนของลูก แรกเกิด ถึง 6 ปี แค่ไหนถึงจะพอ?
เด็กๆ จะมีชั่วโมงการนอนในแต่ละวันที่แตกต่างกันไปตามช่วงวัยของพวกเขา ซึ่งพ่อแม่ควรศึกษาข้อมูลในเรื่องนี้ให้ดีด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกันว่า “ลูกฉันนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นแล้ว” หรือ “ทำไมลูกถึงนอนนานขนาดนี้นะ ลูกเป็นอะไรไหม?” และอีกสารพัดคำถามเกี่ยวกับการนอนของลูกที่จะเกิดขึ้นกับพ่อแม่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราจะแยกชั่วโมงการนอนของเด็กๆ กันตามช่วงวัยของพวกเขากันค่ะ
-
ช่วงแรกเกิด – 6 เดือน
ถ้าพ่อแม่ลูกอ่อนมือใหม่สังเกตกันให้ดีๆ จะเห็นว่าตามธรรมชาติของลูกวัยเบบี๋ขนาดนี้เขาจะนอนทั้งวันทั้งคืน ตื่นขึ้นมาก็เฉพาะตอนหิวนม ปวดอึ ปวดฉี่เปียกแฉะเท่านั้น ซึ่งโดยเฉลี่ยที่หมดไปกับการนอนของทารกคือประมาณ 16-20 ชั่วโมงต่อวัน โอ้โห!!! นอนเยอะมากจริงๆ นะเนี่ย สำหรับช่วงเวลาการนอนของทารกจะแบ่งเป็นช่วง ซึ่งบางช่วงก็นอนนานถึง 4-5 ชั่วโมง หรือนอนชั่วโมงสั้นๆ แค่ 2-3 ชั่วโมงก็มีค่ะ การนอนของลูกในวัยนี้พ่อแม่อย่ากังวลกันนะคะ เพราะถือเป็นชั่วโมง การนอนหลับที่ปกติค่ะ
-
ลูกอายุ 6-12 เดือน
สเต็ปการนอนของลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากช่วงแรกเกิดอยู่บ้าง แต่หลักๆ แล้วการนอนก็ยังคงเป็นกิจวัตรประจำวันของลูกอยู่ค่ะ สำหรับการนอนของเด็กในช่วงวัยนี้จะแบ่งออกเป็น
– 3 ชั่วโมงสำหรับการนอนช่วงกลางวัน
– 11 ชั่วโมงสำหรับการนอนช่วงกลางคืน เห็นไหมคะว่านอนนานกันจริงๆ แนะนำว่าการสร้างบรรยากาศในการนอนที่ดีให้ลูกจะทำให้เขาไม่สะดุ้งตื่นบ่อยกางดึกค่ะ
-
ลูกอายุ 1-3 ปี
เข้าสู่ช่วงวัยเตาะแตะ นอกจากการนอนจะเป็นหน้าที่หลักของลูกแล้ว กิจกรรมการเล่นสนุก และการกินก็ยังเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของพวกเขาด้วยค่ะ วัยนี้เป็นช่วงวัยที่จะสนุกไปกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว กิน เล่น แล้วก็นอน พ่อแม่อย่างเ นี่อิจฉาลูกซะจริงๆ เลยค่ะ ^_^ สำหรับการนอนของลูกนั้นโดยรวมจะนอนกันอยู่ที่วันละประมาณ 10-13 ชั่วโมง
-
ลูกอายุ 3-5 ปี
หลายครอบครัวมีลูกอยู่ในช่วงวัยนี้ และเป็นวัยที่ถูกส่งเข้าเตรียมอนุบาลกันแล้วด้วย โดยส่วนมากแล้วเด็กๆ จะได้ใช้ชีวิตเกือบค่อนวันในการอยู่ที่โรงเรียน และต้องห่างจากพ่อแม่ เชื่อว่างานนี้มีน้ำตาซึมทั้งแม่และลูกค่ะ แต่อย่ากังวลไปเลยค่ะการพาลูกเข้าโรงเรียนถือเป็นการฝึกวินัย และกฎระเบียบไปให้ลูกในตัวที่ดีมากๆ ค่ะ สำหรับการนอนของเด็กวัยนี้จะนอนนานประมาณ 10-12 ชั่วโมงในช่วงเวลากลางคืน ส่วนช่วงกลางวันโยมากทางโรงเรียนเขาจะมีจัดให้เด็กๆ นอนกันอยู่แล้วก่อนที่พ่อแม่จะมารับกลับบ้านค่ะ
บทความแนะนำ คลิก>> ต่อมอดีนอยด์โต และภาวะการนอนกรนในเด็ก
-
ลูกอายุ 6 ปีขึ้นไป
เมื่อมาถึงช่วงอายุที่มากขึ้น ชั่วโมงการนอนของลูกจะค่อยๆ ลดลง และมีชั่วโมงการนอนที่เหมือนกับของผู้ใหญ่ ส่วนการนอนกลางวันก็จะไม่มีให้เห็นกันสักเท่าไหร่
ลูกวัย 6 ปี ในวัยนี้จะนอนวันนึงประมาณ 10-12 ชั่วโมงต่อวันค่ะ แต่ในเด็กบางคนอาจนอนช่วงกลางคืนแค่ 10 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ตื่นมาก็สดชื่นสดใส สมองกระปรี้กระเปร่าในการเรียนแล้วค่ะ
เห็นเด็กๆ นอนกันแบบนี้แล้ว จะดีมากกว่าถ้าได้นอนหลับสนิท ไม่มีอะไรมารบกวนการนอนของลูกค่ะ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะช่วยให้ลูกๆ ได้นอนหลับกันอย่างมีประสิทธิภาพกันค่ะ
อ่านต่อ วิธีป้องกันลูกนอนผวา หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5 วิธีช่วยป้องกันลูกน้อยนอนผวา
- ในห้องนอนต้องไม่มีสิ่งกระตุ้นเร้า ที่เป็นตัวการทำให้ลูกนอนผวา ไม่ว่าจะเป็น เสียงดังจากทีวี แสงสว่างจ้าจากไฟ ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกนอนหลับไม่สนิท และอาจมีอาการผวา สะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมาได้ค่ะ
- การจัดท่านอนให้ลูกได้นอนคว่ำ แต่ตะแคงหน้าไปทางใดทางหนึ่ง จะช่วยลดอาการนอนผวาให้ลูกได้ค่ะ แต่ขอแนะนำว่าหากให้ลูกนอนคว่ำควรเป็นช่วงนอนกลางวัน ที่มีคุณแม่ หรือคนช่วยเลี้ยงลูกคอยช่วยดูอยู่ด้วย เพราะการนอนคว่ำหากจัดท่านอน หรือที่นอนไม่ดีอาจทำให้ลูกหายใจไม่ออก จนขาดออกซิเจนแล้วเสียชีวิตได้
- เวลาที่ลูกนอนให้มีผ้าห่มวางไว้บนหน้าอกลูกด้วย เพราะจะช่วยลดอาการผวา หลับไม่สนิท สะดุ้งตื่นได้
- ให้ลูกนอนเปลแบบผ้าขาวม้าที่พอลูกนอนลงไปแล้วผ้าที่อยู่ขนาบข้างจะชิดติดกับตัวลูก จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ช่วยทำให้ลูกหลับได้นาน และช่วยลดการนอนผวาของลูกด้วย
- ก่อนพาลูกเข้านอนไม่ว่าจะนอนกลางวัน หรือนอนกลางคืน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเล่นกับลูกให้เขาหัวเราะมากไป หรือจับลูกอุ้มโยนขึ้นลง หรือเล่นท่าเครื่องบิน เพราะลูกอาจเก็บไปฝันแล้วทำให้ผวาตื่นขึ้นมาได้
การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กๆ มากค่ะ เพราะการนอนช่วยให้เกิดการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป และช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีพัฒนาการการเจริญเติบโตที่สมวัยอีกด้วย ดังนั้นหากอยากให้ลูกมีการนอนหลับที่ดี พ่อแม่ต้องไม่ลืมสร้างบรรยากาศในการนอนให้กับลูกด้วยนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ลูกเตี้ย เพราะขาดโกรทฮอร์โมน จากการนอนดึก จริงหรือ ?
5 ข้อดีของการนอนกลางวัน ที่แม่อาจไม่เคยรู้มาก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
www.clinicdek.com