ลูกนิสัยเหมือนใคร กันแน่? …ว่ากันว่า ดูช้างให้ดูหาง จะดูนางให้ดูแม่ ซึ่งหมายถึงแม่มีลักษณะพฤติกรรมเป็นอย่างไร ลูกก็มักจะเป็นอย่างนั้น แล้วแท้จริงนั้น ลูกที่เกิดมาจะมีนิสัยเหมือนแม่จริงหรือ Amarin Baby & Kids มีคำตอบของเรื่องนี้มาฝากค่ะ
จากคำถามที่ว่า ลูกมีนิสัยเหมือนใคร ก่อนอื่นขออิงกระแสนิดหน่อย จากเรื่อง บุพเพสันนิวาส ซึ่งหลังจากฉากโล้สำเภา ของคุณพี่เดชกับแม่นายการะเกดผ่านไป ทั้งสองก็มีลูกด้วยกันถึง 4 คน เป็นแฝดชายสอง และลูกสาวอีกสองคน ซึ่งแต่ละคนก็มีนิสัยและเป็นที่รักของคนในบ้านแตกต่างกันไป
วิจัยเผย…แท้จริงแล้ว ระหว่างพ่อกับแม่ ลูกนิสัยเหมือนใคร กันแน่!
โดยสองลูกแฝดชาย “พ่อเรือง-พ่อริด” จะเป็นลูกคนโปรดของ แม่นายการะเกด เพราะตั้งชื่อตามคนรักเก่า และทำให้คิดถึงเรืองฤทธิ์ที่เป็นคุณพี่เดชในภพชาติที่จากมา
มาที่ “แม่ปราง” ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นที่รักของคุณพี่เดช กับความซน ซ่า แสบ ที่สงสัยจะได้จากแม่ (เกศสุรางค์) มาเต็มๆ ซึ่งงานนี้คุณพี่ถึงกับเอ่ยปากว่าจะไม่พาไปเที่ยวตลาดอีก …โดยมีผู้ใช้อินสตาแกรม buppesannivasfans ได้เผยข้อความว่า “พระยาวิสูตรสาครกล่าว “เตือนข้าด้วยหนาแม่การะเกด ว่าจักมิยอมพาลูกๆ โดยจำเพาะแม่ปรางมาเที่ยวชมตลาดน้อยอีกแล้วหนา” เมื่อแม่ปรางแอบไปปล่อยไก่ในซุ้มที่ตลาด จนต้องเหมาทั้งตลาด 555 เเสบเหมือนเเม่แบบนี้นี่เอง จึงทำให้คุณพี่เดชหลงสุดๆ
ซึ่งจากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าแม้จะมีลูกแฝด หรือลูกธรรมดา แต่เด็กแต่ละคนที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน ก็มีนิสัยต่างกัน แล้วแท้จริงนั้น ลูกนิสัยเหมือนใคร กันแน่ และนิสัยสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม ได้หรือไม่? ตามมาดูคำอธิบายพร้อมวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะ…⇓
อย่างไรก็ตามผู้เขียนเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ต่างก็รอคอยวันที่ลูกน้อยจะได้ออกมาลืมตาดูโลก จะได้เจอกับลูกน้อยเป็นครั้งแรก และคิดสงสัยว่าลูกจะหน้าตาเหมือนใคร ลูกฉลาดเหมือนใคร หรือ ลูกจะมีนิสัยเหมือนพ่อหรือแม่ ซึ่งเมื่อลูกเริ่มสื่อสารได้และโตขึ้นไปเรื่อยๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้พบเห็นอุปลักษณะนิสัยของลูกน้อย
ทั้งนี้เนื่องจากทารกสามารถแสดงลักษณะนิสัยเฉพาะตัวของเขาได้ตั้งแต่เมื่อแรกเกิดเลยล่ะค่ะ ซึ่งลักษณะนิสัยนี้จะบ่งชี้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่ช่างตื่นเต้นตกใจ หรือเป็นคนที่ง่ายๆอะไรก็ได้ เป็นคนจริงจังกับชีวิต หรือรักอิสระเสรี เป็นคนขี้อาย หรือกล้าพูดกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็นไปตลอดชีวิตของเขา
สำหรับเรื่อง ลูกนิสัยเหมือนใคร นั้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่พยายามที่จะหาคำตอบว่า แท้จริงแล้วธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม มีผลต่ออุปลักษณะนิสัยใจคอของเด็กหรือไม่?
ซึ่งในความจริงแล้ว ลักษณะนิสัยของลูกน้อยจะเป็นอย่างไรนั้น จะประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง อย่างที่คุณพ่อคุณแม่อาจเคยได้ยินว่า “เด็กคนนี้ร่าเริงเหมือนแม่” หรือ “ขี้โมโหเหมือนพ่อ” ก็อาจมีส่วนจริงอยู่บ้าง
เพราะมีงานวิจัยพบว่า ฝาแฝดที่ถูกเลี้ยงแยกกันก็มีนิสัยเหมือนกันได้ แต่ถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจะมีส่วนในการกำหนดลักษณะนิสัยของเด็ก แต่การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมรอบตัวก็เป็นอีกปัจจัยหลักเช่นกัน
และก็พบว่า นิสัยของลูก ครึ่งหนึ่งเป็นผลมาจากลักษณะทางพันธุกรรม
และอีกครึ่งหนึ่ง มีผลมาจากการเลี้ยงดูนั่นเอง!
โดยนักวิจัยพบว่า…เด็กได้รับการถ่ายทอดนิสัยใจคอบางอย่างมาจากพ่อแม่ได้
- ไม่ว่าจะเป็นความก้าวร้าว
- ความเห็นอกเห็นใจ
- ความรู้สึกตื้นเต้นตกใจ
- ความคิดสร้างสรรค์
- ความเป็นผู้นำ
- อาการขี้อาย
- หรือแนวโน้มในการติดอะไรเป็นพิเศษ และรวมไปถึงแนวโน้มการเป็นโรคเครียด เป็นต้น
แล้วหน้าตาหรือสติปัญญาของลูกจะเหมือนใคร?…ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ประมาณเอาไว้ ดังนี้….
หากพูดถึง หน้าตาลูกเหมือนใคร ซึ่งในรายงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยมองต์เปลิเญร์ของฝรั่งเศส ที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารวิวัฒนาการและพฤติกรรมมนุษย์ ระบุว่า… แท้จริงแล้วทารกแรกเกิดจะหน้าตาเหมือนแม่มากกว่าพ่อ โดยเด็กหญิงจะยังหน้าตาเหมือนแม่เมื่อโตขึ้น ขณะที่เด็กชายหน้าตาจะเริ่มกระเดียดไปทางพ่อมากขึ้นเมื่ออายุ 2-3 ขวบ
ส่วนเรื่องความสามารถทางด้านสติปัญญา ผู้เชี่ยวชาญได้ประมาณเอาไว้ว่า… ลักษณะทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมจะมีผลต่อความเฉลียวฉลาดของเด็กในลักษณะครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว เช่น ถ้าหากลูกของคุณมีไอคิวสูงกว่าเด็กโดยทั่วไปประมาณ 20 คะแนน ก็เป็นไปได้ว่า 10 คะแนนที่ว่านี้เป็นผลมาจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และอีก 10 คะแนนเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดู
ทั้งนี้สำหรับเรื่องการศึกษาเด็กที่เป็นฝาแฝดเหมือน (ที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน) ได้ส่งเสริมข้อสรุปดังกล่าวโดยชี้ให้เห็นว่า… สภาพแวดล้อมมีผลต่อพฤติกรรมของเด็กมากแค่ไหน ซึ่งหากพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของเด็กขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมแต่เพียงอย่างเดียว ฝาแฝดที่ได้รับ การเลี้ยงดู มาด้วยกันก็ควรที่จะมีลักษณะนิสัยที่เหมือนกัน มากกว่าฝาแฝดที่ถูกแยกเลี้ยงตั้งแต่เกิดจริงไหมคะ
แต่กลับปรากฏว่า…
ฝาแฝด ที่เติบโตมาด้วยกันนั้นก็ไม่ได้มีนิสัยใจคอที่ใกล้เคียงกันมากไปกว่าฝาแฝดที่ถูกแยกเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดแต่อย่างใดค่ะ เพราะพบว่า ฝาแฝดคู่หนึ่งที่แยกกันเติบโตขึ้นในครอบครัวสองครอบครัวที่แตกต่างกัน ก็ยังคงมีความสนใจที่คล้ายคลึงกัน รวมไปถึงความสนใจทางด้านความเชื่อ และความสนใจในวิชาชีพด้วย
ในการศึกษาอีกกรณีหนึ่งพบว่า…
เด็กหญิงทารกฝาแฝดที่ถูกแยกให้พลัดพรากจากกันตั้งแต่แรกเกิดนั้นได้เติบโตขึ้นมามีลักษณะนิสัยหลายอย่างที่คล้ายคลึงกันอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อนำเด็กทั้งสองมาเปรียบเทียบในเวลา 4 ปีต่อมา มีรายงานจากพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเด็กหญิงแฝดผู้พี่ว่า ลูกบุญธรรมของพวกเขาเป็นเด็กที่ช่างเลือกรับประทานอาหาร ดื้อ ไม่ค่อยเชื่อฟัง และจะไม่รับประทานอะไรที่ใส่อบเชย
ในขณะที่พ่อแม่บุญธรรมอีกคู่หนึ่งของเด็กหญิงแฝดผู้น้องรายงานว่า ลูกบุญธรรมของพวกเขารับประทานอาหารเก่ง เชื่อฟังดี และว่านอนสอนง่าย และชอบรับประทานอาหารทุกอย่างที่ใส่อบเชย
ทั้งนี้ทั้งนั้นจากการศึกษาวิจัยทั้งหมดสรุปได้ว่า ไม่ว่า ลูกนิสัยเหมือนใคร ก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะยอมรับลักษณะนิสัยใจคอบางอย่างของลูกน้อยนะคะ แม้ว่านิสัยบางอย่างนั้นจะไม่เป็นที่น่าพอใจของคุณพ่อคุณแม่ก็ตาม เพราะอย่าลืมว่าพฤติกรรมของลูกน้อยส่วนหนึ่งนั้น เป็นผลมาจากการถ่ายทอดตามกรรมพันธุ์มาจากคุณพ่อคุณแม่นั่นเองค่ะ
อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!
- ชวนแม่ ตั้งชื่อลูกไทยๆ ตามตัวละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส
- รวมภาพความน่ารัก น้องเรเน่ ลูกสาว แม่การะเกด กับพ่อเดช
- ทำความรู้จักกับการ คลอดลูก หมอตำแย โบราณ คลิก!
- เผยสูตรเด็ด! มะม่วงน้ำปลาหวาน แก้แพ้ท้อง ตำรับ แม่นายการะเกด
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ Smart-wiring your baby’s brain
What you can do to stimulate your child during the critical first three years
แปลโดย ภรณี ภูรีสิทธิ์
และอ้างอิงจาก : https://mgronline.com/around/detail/9490000138298