AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

12 คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปาก ทำลูกเสียใจ!!

ระวัง! คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปากโดยตั้งใจ หรือไม่ทันคิด อาจทำลูกเสียใจ และทำลายอนาคตลูก

ไม่อยากทำร้ายจิตใจลูก ต้องระวัง! คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปากเผลอต่อว่าเมื่อลูกทำผิด อาจสร้างปมถึงขั้นทำลายความฝันของลูกก็เป็นได้

ระวัง! คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปาก ทำลูกเสียใจ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า คำพูดของพ่อแม่ มีอิทธิพลต่ออนาคตของลูกน้อยได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหาก คำพูดของพ่อแม่ ที่เผลอหลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ทันคิด นอกจากจะทำให้ลูกเสียใจร้องไห้ ก็อาจมีเด็กบางคนเก็บกด เก็บเอาไปคิด และบั่นทอนความเชื่อมั่นลึกๆให้ลดลงเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ของคุณพ่อกอล์ฟกับน้องชูใจนี้

บอกได้เลยว่าเรื่องราวของนักร้องชื่อดัง กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ และครอบครัวแสนน่ารักอบอุ่น แม่เบล และน้องชูใจ มีแนคลับคอยติดตามความเคลื่อนไหว ทั้งความสามารถของคุณพ่อ และความน่ารักสดใสของคุณแม่และคุณลูก … จนล่าสุด คุณพ่อกอล์ฟ ก็ได้โพสต์บทความหนึ่งลงเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของตัวเอง โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ คำพูดของพ่อแม่ ที่น่าจะช่วยเตือนใจพ่อแม่หลายคนได้ ดังนี้

ชูใจมักมีกระเป๋าของเธอพกติดตัวไปไหนมาไหน ในกระเป๋าใบนั้น เธอจะเก็บขนมของเธอเอาไว้ ลูกอม ช๊อคโกแลต บิสกิตสอดไส้ ใดๆก็ตามแต่ที่จะมีหีบห่อพอจะใส่กระเป๋าได้ เธอจะนำขนมเหล่านั้นใส่กระเป๋าสะพายเอลโม่สีแดงเต็มอัตราจนตุง สะพายออกจากบ้านประจำ ประหนึ่งแหล่งเก็บเสบียงกรังยามโหยหิว ชีวิตขาดรสหวานเมื่อใดก็จะแอบเปิดกระเป๋าหยิบขึ้นมากินทีละชิ้น เหมือนกลัวมันหมด
ผมแอบเห็นพฤติกรรมนี้มานาน แรกๆก็ได้แค่เตือนว่าพกไปได้ แต่ต้องกินเป็นเวลา ซึ่งลูกก็ปฏิบัติตามอย่างดี จะกินขนมในกระเป๋าก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาต นานๆไปเข้าผมชักรู้สึกว่ากระเป๋าสีแดงใบนี้มันเกะกะ
วันหนึ่งขณะที่ไปทำงานที่ห้างแห่งหนึ่ง รถของเราสามารถจอดให้ลงได้แค่อึดใจเพราะมีรถคันอื่นมาจ่อหลัง ความชุลมุนทำให้เรารีบลงรถ แต่ชูใจไม่ยอมลงเพราะหากระเป๋าสีแดงไม่เจอ เธอร้องงอแงหากระเป๋าขนม
นาทีนั้นผมดุลูกว่า “จะอะไรนักหนากับเรื่องขนม ไม่ได้พกไปด้วยมันจะเป็นอะไร ใส่โลกไว้ทั้งใบไว้หรือไง หนูจะบ้าของกินเกินไปแล้วนะ”
ลูกหน้าเจื่อน ขณะนั้นด้วยความเร่งรีบผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากต้องรีบพาลูกลงรถก่อนจะโดนบีบแตรไล่
นับตั้งแต่นั้นผมก็ไม่เห็นลูกสะพายกระเป๋าสีแดงใบโปรดอีกเลย กอปรกับงานที่ยุ่งมากทำให้ช่วงนั้นผมกับลูกไม่ได้คุยกัน เลยไม่ได้ถามไถ่ถึงการเลิกพกกระเป๋า
วันหนึ่งในขณะที่พอมีเวลาว่าง ผมพาครอบครัวไปทานอาหารที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง ปกติแล้วชูใจจะชอบกินเค้กร้านนี้ กินทีไรก็จะบอกว่า ป๊ะป๋าๆ โตขึ้นหนูอยากเป็นนักกินขนม แล้วรีวิวขนมเค้กให้ผมฟัง
วันนี้เธอสั่งเค้กมากินตามปกติ ผมเห็นเธอกินเงียบๆเลยชวนคุยว่าไหนรีวิวขนมเค้กนี้ให้ป๊ะป๋าฟังหน่อยซินักชิม
“หนูไม่อยากเป็นนักกินขนมแล้ว โตขึ้นหนูจะเป็นยูนิคอร์น” เธอบอกไปกินไป
“ทำไมล่ะ” ผมซัก
“หนูพกขนมไปชิมไม่ได้แล้วนี่ หนูกลัวป๊ะป๋าดุ”
นาทีนั้นผมเกิดบางอ้อและอยากตบปากตัวเอง สาเหตุที่ลูกชอบพกขนมหลากหลายแบกไปไหนมาไหน แท้จริงแล้วนั่นไม่ใช่ความตะกละตะกลามขาดขนมไม่ได้ แต่เธอคงเข้าใจไปเองว่านี่คือเส้นทางสู่ฝันการเป็นยอดนักกินขนมของเธอ แม้จะฟังดูว่ามันเป็นอาชีพที่ดูไม่มีจริงในภาษาของเด็ก แต่ในความเป็นจริง สิ่งนี้อาจต่อยอดให้เธอกลายเป็นนักทำขนม ยูทูบเบอร์ของกิน ครีเอทีฟรายการอาหาร หรืออื่นๆอีกมากมายที่เธอมีความสุขที่จะทำ
.. และคำพูดของผมไม่กี่คำ เพิ่งทำลายฝันของเธอไป
ผมรีบเข้าไปกอดและขอโทษลูก ผมบอกเธอว่าผมเข้าใจแล้วว่ากระเป๋าใบนั้นสำคัญกับเธอ ขอโทษที่ป๊ะป๋ามองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ทั้งที่จริงๆสาระของคนเราต่างอยู่ที่หัวใจของใครของมัน
ชูใจน้ำตาซึม เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอร้องไห้ในลักษณะนี้ คือน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่ไม่มีเสียงร้อง
.. เหมือนมันเป็นเรื่องที่เธอเก็บไว้ ไม่กล้าร้อง กล้าพูด จนเอ่อล้นออกมาทางดวงตา
นี่เป็นบทเรียนครั้งสำคัญมากในชีวิตการเป็นพ่อของผม เรามักดูถูกจินตนาการน้อยๆของเด็กว่ามันเล็กมากจนไม่มีสาระ แต่แท้ที่จริงแล้วสาระคือความสุขต่างหากที่หัวใจของลูกพึงจะมี ในอนาคตจะมีอาชีพอีกมากมายที่พ่อแม่อย่างเราคิดไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีได้ เพราะในวันนี้ แรปเปอร์ ยูทูบเบอร์ นักแคสท์เกม ไปจนถึงนักกินก็ปรากฎเป็นอาชีพบนโลกนี้แล้ว
การเอาความเป็นผู้ใหญ่ ครอบตัดขอบจินตนาการของเด็ก บางครั้งนั่นอาจเป็นความไร้สาระที่แท้จริง
จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่เห็นกระเป๋าสีแดงใส่ขนมของลูกใบนั้นอีก แต่ผมไม่เคยดุลูกอีกเลยทุกครั้งที่เธอเอาตุ๊กตายูนิคอร์นขึ้นรถ ใครจะรู้ โตไปลูกผมอาจจะเป็นนักวาดการ์ตูนยูนิคอร์น เป็นกราฟฟิติสท์พ่นสตรีทอาร์ทรูปยูนิคอร์น หรือเป็นคนสวมชุดมาสคอทยูนิคอร์น
พ่อกับแม่มีชีวิตเลี้ยงเธอได้จนสิ้นอายุขัย แต่สิ่งที่เธอทำด้วยความรักจะอยู่กับเธอตลอดไป
นั่นทำให้บางครั้งผมยังคิดถึงกระเป๋าเอลโม่สีแดงใบนั้น ใครจะรู้ว่าสำหรับลูกสาวของผม
.. ข้างในนั้นเธอใส่โลกทั้งใบของเธอไว้จริงๆ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆและภาพจาก : IG @ftodah

อ่านต่อ >> “ระวัง 12 คำพูดของพ่อแม่ที่ไม่ควรพูดกับลูก” คลิกหน้า 2

 

อ่านต่อบทความอื่นของพ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ คลิก!

12 คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปากทำลูกเสียใจ

เพราะ คำพูดของพ่อแม่ มีอิทธิพลต่ออนาคตของลูกน้อยเป็นอย่างมากจริงๆ ซึ่งบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็อาจมีคำพูดติดปากที่พูดไปเรื่อยเปื่อย หรือบางทีคิดว่า คำพูดของพ่อแม่ เหล่านั้น “ดี”​ ต่อลูก เลยพูดออกมาเตือนลูก สอนลูก บอกให้ลูกฟัง แต่ความจริงแล้ว “ไม่เกิดประโยชน์” และบางครั้ง “เกิดโทษ” เสียด้วยซ้ำ

1. ตกลงมั้ย = เมื่อพ่อแม่พูดว่า “เรากำลังจะไปหาคุณหมอกันนะ ตกลงมั้ยลูก” จะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกตอบว่า “ไม่” ได้ ทางที่ดีควรบอกสิ่งที่ลูกควรรู้ไปเลย “เรากำลังจะไปหาคุณหมอกันใน 5 นาทีนี้นะคะ ลูกเตรียมตัวขึ้นรถได้เลย”

2. ไม่น่ารักเลย = ลูกวัยนี้ยังไม่รู้ว่า “น่ารัก” ที่คุณพูดนั้นคุณต้องการบอกอะไร ลองคำอื่นที่ให้ความหมายชัดเจนมากขึ้นดีกว่า เช่น “แม่ไม่ให้ลูกตีน้องเขานะ” เขาจะเข้าใจและไม่ทำอีก

3. ไม่เห็นหรือไง? = ซึ่งความจริงแล้วลูกก็อาจไม่เห็นสิ่งที่ถามจริงๆ ว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังวุ่นอยู่กับอะไร และเป็นเรื่องปกติที่เจ้าตัวเล็กค่อนข้างจะมองตัวเองเป็นศูนย์กลาง จึงไม่ได้มองว่าคนรอบตัวทำอะไรอยู่ ดังนั้นจึงควรบอกให้ลูกรู้ “เดี๋ยวก่อนนะ แม่กำลังคุยกับคุณพ่ออยู่จ้ะ” หรือ “รอให้แม่คุยเสร็จก่อนนะ”

4. เด็กโง่! / ทำไมโง่อย่างนี้ = สำหรับลูกน้อยวัยเตาะแตะการทดลองและผิดพลาดในเรื่องเดิมๆ ก็เพื่อต้องการทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ได้หมายความว่า “เขาโง่”  ให้ลองเปลี่ยนประโยคใหม่ เป็น “แม่ว่าถ้าลูกทำแบบนี้จะดีกว่านะ เราลองมาทำด้วยกันไหม” กำลังใจ-การทำให้ดู-ทำด้วยกัน จะช่วยพัฒนาทักษะของลูกให้ก้าวหน้าได้ดีกว่าด้วย

5. หยุดร้องนะ ถ้าไม่หยุด เดี๋ยวแม่จะ… = บางครั้งลูกน้อยอาจจะยังมีทักษะด้านการสื่อสารยังไม่ดีมากนัก การร้องไห้จึงเป็นวิธีแรกและสำหรับหลายๆ คนก็เป็นวิธีเดียวที่เขาใช้สื่อสาร ดังนั้นถ้าคุณมองข้าม และบังคับให้ลูกทำตามความต้องการของคุณ (ทำให้ลูกหยุดร้องไห้ให้ได้) ด้วยการตะคอก ตวาด หรือสั่งให้หยุดจึงไม่มีผลต่อความเข้าใจของลูกเลย

6. รอให้พ่อแกกลับบ้านก่อนเถอะ = การขู่ จัดอยู่ในกลุ่มวิธีที่ไม่ค่อยได้ผลกับเด็กๆ วิธีที่ได้ผลในการสอนลูกเล็กคือ ทำดีก็ชมทันที ทำไม่ดีก็ทำโทษหรือสอนกันเดี๋ยวนั้น โดยคนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น ไม่ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของคนอื่น เพราะไม่มีใครเข้าใจเรื่องราวหรือสถานการณ์ได้มากเท่าพ่อแม่

7. เร็วเข้า..อืดอาดจริง = สิ่งที่พ่อแม่คาดหวังอยากให้ลูกทำได้ ทำเป็นเร็วๆ สามารทำได้แต่ไม่ใช่ภายในระยะเวลาจำกัดหรือชั่วโมงเร่งด่วนของคุณ ดังนั้นเรื่องที่พ่อแม่ควรเข้าใจใหม่ คือ สนามฝึกกับสนามรบต้องแยกกัน ถ้าคุณต้องการฝึกก็ไม่ควรทำในเวลาเร่งรีบ แต่ถ้าจะฝึกในสถานการณ์จริงก็ต้องเผื่อเวลาให้ลูกด้วย

8. เยี่ยมไปเลย สุดยอด = การชมเชยเป็นเรื่องดี แต่คำชมที่ทรงพลัง คือ ไม่ชมพร่ำเพรื่อ ชมจากใจ สิ่งที่ควรทำคือบอกความรู้สึกลงไปด้วย ชมที่พฤติกรรมเฉพาะเจาะจง

9. ออกไปไกลๆ เลย … แม่กำลังยุ่ง = พูดอย่างนี้อันตรายอย่างไร?? ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ยิ่งลูกได้ยินประโยคนี้มากเท่าไหร่ เท่ากับรู้กำลังรู้สึกว่าถูกผลักไสไปจากคุณมากเท่านั้น เพราะเขาจะคิดว่าแม่ไม่อยากคุยด้วย เมื่อไม่ได้คุยกันบ่อยๆ เรื่องที่จะคุยก็น้อยลง ยิ่งโตขึ้นจะยิ่งห่างกันออกไป ทีนี้เวลามีเรื่องอะไรเขาก็จะไม่คิดจะปรึกษาหรือขอความเห็นจากคุณแน่นอน

10. เด็กอย่างแกมันช่าง… = แม้จะพูดเพราะอารมณ์ ไม่ได้ตั้งใจ แต่คำต่อท้ายในทางลบ เช่น “ร้าย โง่ ไม่เอาไหน หรือขี้เกียจ” ล้วนเป็นคำที่ทำร้ายจิตใจเจ้าตัวเล็กอย่างร้ายกาจ วิธีที่ดีกว่าคือพูดคุยกับลูกถึงพฤติกรรมของเขาจะดีกว่า

11. อย่าร้องนะ! = คำว่า “อย่า” ไม่ได้มีผลใดๆ กับเด็ก กลับเป็นยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยเตาะแตะที่ยังไม่สามารถบอกอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ดี เพราะยังมีคำพูดน้อย การร้องไห้จึงเป็นวิธีช่วยป้องกันตัวจากความรู้สึกต่างๆได้ เปลี่ยนมานั่งลงข้างๆ หรือโอบกอดเขาเมื่อลูกและคุณผ่อนคลายลงแล้ว ค่อยไถ่ถามสาเหตุร้องไห้กัน การแสดงความเห็นอกเห็นใจจะทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้น

12. ทำตัวให้เหมือนพี่เธอบ้างไม่ได้รึไง = เด็กแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน แม้จะเป็นพี่น้องกัน … การพูดเปรียบเทียบจึงไม่ได้มีผลดีต่อการปรับพฤติกรรมของเด็กเลยแต่ผู้เชี่ยวชาญก็เห็นว่า “การเปรียบเทียบเพื่อดูพัฒนาการของลูกๆ ก็เป็นเรื่องปกติและทำได้ แต่ไม่ใช่การทำให้น้องเหมือนพี่เพราะจะกลายเป็นความกดดันและเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กคนละวัยกัน เปลี่ยนคำพูดเปรียบเทียบเป็นการให้กำลังใจกับสิ่งที่ลูกกำลังทำอยู่ดีกว่า

รู้อย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามข่มใจตัวเองไม่ให้เผลอพูด ประโยคไม่ดีต่างๆ เหล่านี้ ที่อาจทำร้ายลูก จนลูกเสียความรู้สึก และร้องไห้เสียใจกับ คำพูดของพ่อแม่ ที่บางครั้งอาจตั้งใจ หรือเผลอพูดไปโดยไม่รู้ตัว เพราะนั่นอาจถึงขั้นทำลายอนาคตลูกได้นะคะ

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก !

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids