คุณแม่ฟูลไทม์ …การเลี้ยงลูกด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่คุณแม่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะจะได้อยู่ดูแลลูกตลอดเวลา ได้เห็นพัฒนาการของลูกรักทุก ๆ ขั้น ทุก ๆ เรื่องราวอย่างใกล้ชิด แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณแม่ฟูลไทม์ต้องเผชิญก็คือคำพูดต่างๆ ที่บั่นทอนจิตใจคุณแม่ เช่น “สบายเลยนะ อยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว!”
เป็น คุณแม่ฟูลไทม์ สบายจริงหรือ?
ซึ่งคนภายนอกหรือคนที่ยังไม่มีลูก มักมองเห็นว่า การคุณแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านว่าแสนสบาย น่าอิจฉาเป็นที่สุด เพราะแค่เลี้ยงลูกเฉยๆ ไม่ต้องออกไปทำงาน สู้รบปรบมือกับคนนอกบ้านในเหนื่อยแรง มีสามีคอยให้เงิน และยิ่งสำหรับคุณแม่มือใหม่แล้วเมื่อใกล้ครบกำหนดลาคลอด เชื่อเลยว่ามีคุณแม่หลายๆ ท่านมีอาการ “ติดลูก” ความกังวลต่างๆ นานา ประดังประเดเข้ามา “ลูกยังติดเต้าอยู่เลย จะทำยังไงดี” “กลับไปทำงานจะมีเวลาปั๊มนมไหม” “คนเลี้ยงจะดูแลลูกดีไหม” เมื่อลูกไม่อยู่ในสายตา สัญชาตญาณของแม่จะผุดขึ้นมาทันที และเพราะใจของคนเป็นแม่นั้นมีความกังวลต่อความปลอดภัยของลูกน้อยตลอดเวลา และต้อการเลี้ยงดูแลลูกได้ดีที่สุด
Must read : ลาออกมาเลี้ยงลูก กับข้อ 10 ข้อก่อนตัดสินใจ
ด้วยเหตุนี้ ทางเลือกการเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ ก็ผุดมาในห้วงความคิด แต่คุณแม่ก็ต้องมานั่งกดเครื่องคิดเลขดูก่อนว่า ถ้าเราออกจากงาน รายได้ทางเดียวจะพอจุนเจือครอบครัวไหม เพราะมีหลายครอบครัวโชคดีที่ไม่มีภาวะทางการเงินมาบีบบังคับ สามารถเลือกลาออกจากงานได้ทันที แต่หลายครอบครัวไม่มีโอกาสแบบนั้น ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ Amarin Baby & Kids จึงขอแนะนำว่าควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
- ภาวะทางการเงิน ปัจจัยสำคัญในยุคข้าวยากหมากแพงนี้ อาหารก็แพง ของเล่นของใช้เด็กก็แพง นอกจากคำนึงถึงค่าใช้จ่ายประจำวัน เราควรนึกไปถึงค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกัน ค่าเล่าเรียน
Must read : ค่าใช้จ่ายสำหรับลูก ตั้งแต่ แรกเกิด – ป.ตรี ต้องใช้เงินเท่าไหร่? รู้หรือยัง?
- ภาวะทางสังคม หากคุณแม่เป็นคนทำงาน แน่นอนว่ามักจะชอบสังคม ได้ออกไปช้อปปิ้งตลาดนัดตอนกลางวัน ได้ทานข้าวเม้าท์กับเหล่าสาวๆ ได้เหล่หนุ่มเพิ่มความกระชุ่มกระชวย แล้วจะรับได้ไหม หากในหนึ่งวันต้องอยู่บ้านกับลูก ได้เม้าท์กับเพื่อนผ่านทางแชตเท่านั้น ได้แต่แอบส่องเฟสคนอื่น เวลาไปจัดใหญ่กินข้าวตอนมื้อเที่ยงที่ร้านส้มตำข้างตึก
- ภาวะแรงกดดันจากคนใกล้ตัว ญาติพี่น้องมีความเป็นห่วงเป็นใย กล่าวตักเตือนแกมตำหนิ “จะไม่ทำงานหรอ” “สบายเลย อยู่บ้านเลี้ยงลูก” “ถ้าสามีทิ้งจะทำไง” และความหวังดีประสงค์ร้ายต่างๆนานาที่มาบั่นทอนความตั้งใจของเรา
- ภาวะความภาคภูมิใจในตนเองถดถอย หลายคนเป็นผู้หญิงทำงาน เป็นบอส เมื่อต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูก อาจจะรู้สึกไร้ค่า เมื่อก่อนได้ตัดสินใจในดีลร้อยล้านพันล้าน วันนี้ได้ตัดสินใจแค่ว่า ลูกจะกินข้าวกับอะไร ต้องซื้อผ้าอ้อมตุนไว้ไหม
เหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เชื่อไหมคะว่ามันเป็นแค่ภาวะหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจแม่ฟูลไทม์ คือรอยยิ้มของลูกน้อย ก้าวเดินแรก คำพูดแรกของเค้า ได้เป็นคนแรกที่เค้าเห็นเมื่อยามตื่น และได้เป็นคนสุดท้ายที่เค้าเจอในยามหลับ แค่นี้เท่านั้นก็ยืนยันได้ว่า เราตัดสินใจถูกแล้ว
อ่านต่อ >> “10 เหตุผลที่ทุกคนต้องรู้! การเป็นคุณแม่ Full time ไม่ได้สบาย เหมือนที่ใครคิด” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่