วิธีสร้างเวลาคุณภาพ ให้ลูกฉลาดไม่สิ้นสุด - Amarin Baby & Kids
วิธีสร้างเวลาคุณภาพ

วิธีสร้างเวลาคุณภาพ ให้ลูกฉลาดไม่สิ้นสุด

event
วิธีสร้างเวลาคุณภาพ
วิธีสร้างเวลาคุณภาพ

ศักยภาพในการเรียนรู้ และพัฒนาของเด็กแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น กรรมพันธุ์ ความตั้งใจ ความขยัน และอีกหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้น “เวลา” เป็นตัวกำหนด แม่น้องเล็กจึงมีเคล็ดลับ วิธีสร้างเวลาคุณภาพ เพื่อให้ลูกน้อยเรียนเก่งขึ้น

วิธีสร้างเวลาคุณภาพ เพื่อให้ผลการเรียนลูกดีขึ้น

มีเนื้อหาหนึ่งถูกเขียนโดย ดร. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร แนะนำแนวคิดการสร้างเวลาคุณภาพ เพื่อผลการเรียนของลูกที่ดีขึ้น ซึ่งเจ้าของเพจก็ใจดีให้แม่น้องเล็กได้นำมาแบ่งปันให้คุณพ่อ คุณแม่ได้อ่านกัน ดังนี้

เหตุจูงใจสำคัญที่ผมอยากจะเขียนถึงเรื่อง “เวลาคุณภาพ” นั้นเกิดขึ้นจากการที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งมาปรึกษากับผมว่า แม้ว่าปัจจุบันผลการเรียนของลูกก็ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่เหมือนว่าจะไม่สามารถดีขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว และตอนนี้เวลาเรียนพิเศษก็เต็มหมดแล้วด้วย คุณแม่เลยไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี ผมมาสะดุดกับคำว่า “เวลาเรียนพิเศษเต็มหมดแล้ว!!!” ผมจึงสอบถามไปว่าคุณแม่พาลูกไปเรียนพิเศษวันไหนบ้าง ปรากฎว่าเด็กคนนี้เรียนพิเศษหลังเลิกเรียนจนถึง 19.30 น. ทุกวัน กว่าจะกลับถึงบ้านก็สองทุ่มเศษ กว่าได้นอนก็เกือบสี่ทุ่ม แถมวันเสาร์อาทิตย์ ก็ยังมีเรียนพิเศษทั้งวันอีกด้วยนะครับ เวลาเต็มจริงๆ ด้วยครับ!!!

ผมจึงเริ่มเล่าแนวคิดของผมให้คุณแม่ฟังว่า จริงๆ แล้วผมไม่ได้คัดค้านการเรียนพิเศษ หรือการเรียนเสริมเลยนะครับ แต่เราควรให้ลูกเรียนในวิชาที่เขาไม่มีพื้นฐานที่พอจะฝึกฝนด้วยตนเองจริงๆ หรือต้องการเรียนเสริมในสิ่งที่เขาชอบ และมีศักยภาพอยู่แล้ว เพื่อให้เขามีความสามารถในด้านๆ นั้นเพิ่มสูงขึ้น แต่การเรียนพิเศษในทุกๆ วิชา โดยที่เด็กไม่มีเวลาฝึกฝนทำแบบฝึกหัดด้วยตนเอง ซึ่งรวมทั้งไม่มีเวลาที่จะเล่น บางรายไม่มีเวลาจนต้องเอาเปรียบเพื่อนในการทำงานกลุ่ม หรืองานที่ต้องส่งคุณครู คุณพ่อคุณแม่ต้องถึงกับทำให้ ถึงแม้ว่าการเรียนพิเศษมากๆ จะส่งผลดีต่อผลการเรียนในระยะต้น แต่ในระยะยาวเด็กจะไม่ได้รับการพัฒนาอุปนิสัย ทักษะที่จำเป็นต่างๆ (เช่น การบริหารจัดการเวลา การจัดลำดับความสำคัญ การมุ่งมั่น และมีวินัยต่อเป้าหมายที่ตนเองกำหนดขึ้น การทำงานเป็นทีมที่ดี ฯลฯ) และ Growth Mindset (ทัศนคติทีว่า หากว่าเรามีความพยายาม และมีวินัยในการฝึกฝน เราจะสามารถเก่งขึ้นเองได้) ได้เลย

วิธีสร้างเวลาคุณภาพ

ผมแนะนำให้คุณแม่ท่านนั้น ลองไปนับโจทย์คณิตศาสตร์ที่ลูกได้ฝึกทำระหว่างการเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน 2 ชั่วโมง ว่าทำกี่ข้อ ซึ่งปรากฏว่าได้ 10 ข้อ เป็นข้อที่ลูกทำเองประมาณ 7 ข้อ อีก 3 ข้อ ลูกไม่ได้ทำเอง แต่ลอกเฉลยจากบนกระดานเท่านั้นเอง นั่นหมายความว่าในเวลา 2 ชั่วโมง ไม่ใช่สิ! ถ้านับเวลาเดินทางไป-กลับ อีกสักชั่วโมงครึ่ง นั่นเท่ากับว่าในเวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง หรือ 210 นาที ลูกได้ทำโจทย์ไปแค่ 7 – 10 ข้อเท่านั้น เท่ากับว่าข้อหนึ่งลูกต้องเสียเวลาไปถึง 21 – 30 นาที เลยทีเดียว นี่ล่ะครับ ที่ผมเรียกว่า “การใช้เวลาที่ไม่มีคุณภาพ”

เปรียบเทียบกับเด็กอีกคนหนึ่งที่ผมรู้จัก คุณพ่อของเขา กำหนดกติการ่วมกันกับลูกว่า ให้ทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ทุกวันวันละ 10 ข้อ หลังจากกลับมาจากโรงเรียน พอทำเสร็จแล้ว ลูกจะไปเล่นอะไรตามใจก็ได้ ซึ่งการนั่งทำโจทย์เลข 10 ข้อ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แรกๆ ตอนเริ่มทำใหม่ๆ คุณพ่อก็นั่งเล่นเป็นเพื่อนลูกทำแบบฝึกหัด คอยตอบคำถามบ้าง แต่หลังๆ พอการฝึกทำแบบฝึกหัดเป็นนิสัยไปแล้ว พอถึงเวลาลูกก็จะหยิบเอาแบบฝึกหัดมานั่งทำเอง คุณพ่อก็เพียงแต่คอยซื้อแบบฝึกหัดมาวางเอาไว้ และให้คำแนะนำเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งปรากฏว่า เด็กคนที่มีวินัยในการทำแบบฝึกหัดเอง นั้นมีผลการเรียนที่ดีเช่นกัน และมีความร่าเริงมากกว่าด้วยครับ ถึงจะมีเรียนพิเศษบ้าง ก็เพียงวันเสาร์ครึ่งวันเท่านั้น ไม่ได้เป็นภาระอะไรที่เหนื่อยเกินไปเลยครับ นี่ล่ะครับผมเรียกว่า “การบริหารเวลาที่มีคุณภาพ”

เด็กที่มีตารางเวลาอัดแน่นไปหมด เขาจะไม่มีทางเรียนรู้ที่จะพัฒนาทักษะการบริหารเวลาได้เลย เพราะในแต่ละวัน เขาก็ต้องปล่อยให้ตัวเองเดินตามตารางที่เขาถูกกำหนดเอาไว้แล้วเท่านั้น เวลาเล่นก็อาจจะน้อย เวลาพักผ่อนก็อาจจะจำกัด บางครั้งถ้าคุณครูมอบหมายงานกลุ่มให้ทำกับเพื่อนๆ ก็ต้องเอาเปรียบเพื่อนโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บ่อยครั้งเข้า ก็บ่มเพาะกลายเป็นอุปนิสัยที่ไม่ดี งานที่คุณครูมอบหมายให้ทำส่ง คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยทำให้ นานๆ เข้า อุปนิสัยการมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ก็จะไม่ได้รับการพัฒนา

นอกจากนี้ การที่เด็กมีคิวแน่นไปหมด จะทำให้เขาไม่สามารถที่จะมีเวลาที่จะมาทบทวน และกำหนดเป้าหมายให้กับตัวเอง ไม่มีโอกาสที่จะพัฒนาทักษะในการจัดลำดับความสำคัญ และวางแผนการใช้เวลาของตนเองในแต่ละวัน แล้วทักษะการบริหารเวลามันจะเกิดได้อย่างไรล่ะครับ

มีงานวิจัยยืนยันนะครับว่า ทักษะการบริหารเวลา นั้นส่งผลทำให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น (http://bit.ly/2MUibbG) Dr. Karia Hylton อาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลการเรียนของนักเรียนชาวจาไมก้า ได้ให้ความเห็นเอาไว้ว่า (http://bit.ly/2MNDnAd) การที่จะทำให้เด็กมีผลการเรียนที่ดี นั้นจะต้องทำให้เด็กมีความสุขในการเรียนด้วย และการรู้จักจัดสรรเวลา เป็นเครื่องมือที่จะทำให้ความสุขในการเรียน นั้นเกิดขึ้นควบคู่ไปกับผลการเรียนที่ดี โดย Dr. Daria Hylton ได้ให้ข้อแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูก เพื่อสอนให้เขารู้จักที่จะบริหารจัดการเวลา ดังต่อไปนี้

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ “วิธีสร้างเวลาคุณภาพให้ลูกรู้จักบริหารจัดการเวลา” คลิกหน้า 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up