เด็กวัยเรียน คือเด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 6 – 12 ปี คุณพ่อคุณจะสังเกตเห็นว่าลูกวัยนี้มีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างแตกต่างจากวัยอนุบาล ช่วงอายุของลูกวัยนี้ ถือเป็นช่วงสำคัญของเด็กในการเรียนรู้ทักษะชีวิตและพัฒนาการต่าง ๆ เช่น มีการเจริญเติบโตที่ช้าลงแต่มีการเปลี่ยนแปลงทางสัดส่วนของร่างกายมากขึ้น รู้จักเข้าสังคมมีกลุ่มเพื่อนมากขึ้น มีความจำดีขึ้น มีเหตุผลมากขึ้น ฯลฯ ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่การทำงานของสมองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและเต็มที่ ดังนั้นธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กวัยเรียน จึงมีการเจริญเติบโตในแต่ละขวบปีที่พ่อแม่จะเห็นอย่างได้ชัด
แม่ต้องรู้! พัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของ เด็กวัยเรียน 6-12 ปี
พัฒนาการลูกอายุ 6 ปี สามารถมองเห็นและเข้าใจความแตกต่างระหว่างสิ่งของได้ เช่น ความแตกต่างของลวดลาย เข้าใจความหมายของทิศทางรอบตัวเอง มีความสนใจการกระทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่ก็ยังมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมค่อนข้างสั้น ไม่ค่อยสนใจความสำเร็จของกิจกรรม นอกจากความสนุกที่ได้ลงมือทำ ลงมือเล่น และจะกระตือรือร้นกับงานหรือกิจกรรมที่ตนเองสนใจ แต่เมื่อหมดความสนใจก็เลิกทำเอาง่าย ๆ ทันที
พัฒนาการลูกอายุ 7 ปี เด็กวัยนี้จะมีความอยากรู้อยากเห็น สามารถจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้เยอะขึ้น มีความสนใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ และจะพยายามทำให้สำเร็จได้มากขึ้น รู้จักชอบหรือไม่ชอบสิ่งนั้นสิ่งนี้ เด็กจะมีความสนใจสิ่งต่าง ๆ ทีละอย่าง ดังนั้น ถ้ามีงานให้ลูกทำ ควรจะแบ่งหรือกำหนดให้เป็นส่วน ๆ ไม่ควรสั่งให้ทำพร้อมกันทีเดียว เพราะจะทำให้ลูกไม่สนใจที่จะทำ
พัฒนาการลูกอายุ 8 ปี นอกจากความความอยากรู้อยากเห็นแล้วเด็กจะรู้จักสนใจซักถามมากขึ้น กระตือรือร้นที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน เริ่มมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมนานขึ้น มีความสนใจที่จะทำงานให้สำเร็จ สนใจที่จะรับฟังคำแนะนำจากพ่อแม่มากขึ้น และชอบที่จะแสดงออกกับการเล่น การแสดงต่าง ๆ เริ่มสนใจสิ่งที่ตัวเองชอบและจดจ่อกับสิ่งนั้นเป็นพิเศษ เช่น การสะสมของ วาดภาพ อ่านการ์ตูน หนังสือนินทาน ฟังวิทยุ ตัวละครที่ชื่นชอบ เป็นต้น
พัฒนาการลูกอายุ 9 ปี ลูกจะรู้จักใช้เหตุผล มีความรู้รอบตัวกว้างขึ้น สามารถตอบคำถามหรือที่เรียนรู้มาได้อย่างมีเหตุผล สามารถแก้ปัญหาและรู้จักหาเหตุผลโดยอาศัยการสังเกต ลูกวัยนี้โตขึ้นมากแล้วและเริ่มต้องการอิสรภาพเพิ่มขึ้น และชอบที่จะเลียนแบบการกระทำของไอดอลที่ชื่นชอบ
พัฒนาการลูกอายุ 10 ปี วัยนี้เป็นวัยที่สมองกำลังพัฒนาเต็มที่ มีการเรียนรู้ ใช้ความคิด หาเหตุผล และการแก้ปัญหาดีขึ้น สามารถตัดสินใจด้วยตนเองด้วยการคิดก่อนตัดสินใจ เข้าใจวันเดือนปีและทำให้สามารถศึกษาประวัติศาสตร์สำคัญ รู้จักดูวันสำคัญในปฏิทิน สามารถเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำและกว้างขวางขึ้น และเด็กผู้ชายจะเริ่มสนใจแนววิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ เด็กผู้หญิงจะสนใจเรื่องการเรือน DIY การดีไซน์ออกแบบแต่งตัวและแฟชั่นมากขึ้น
พัฒนาการลูกอายุ 11-12 ปี เด็กวัยนี้มีความคิดเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ มีเพื่อนเล่นในวัยเดียวกันเป็นกลุ่ม ทำกิจกรรมแบบที่ชอบร่วมกัน เช่น เล่นกีฬาในแบบเป็นทีม เต้น cover dance งานอดิเรก ฯลฯ เริ่มเห็นความคิดของเพื่อนสำคัญมากกว่าความคิดเห็นของพ่อแม่ ต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจและยอมรับในความคิดของตนด้วย พัฒนาการการร่างกายนอกเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนในร่างกายชัดขึ้น และใส่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น
นอกจากพัฒนาการต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงขึ้นตามวัยแล้ว สำหรับเด็กในยุคเจน Z ที่เกิดขึ้นในสังคมที่เปลี่ยนไปจากยุคคุณพ่อคุณแม่ จะเห็นได้ว่าเด็กวัย 6-12 ปีนี้พฤติกรรมที่ทำให้พ่อแม่นั้นต้องพยายามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเด็ก เพื่อเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับลักษณะทางพฤติกรรมของลูกอย่างสอดคล้อง เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพร่วมด้วย ซึ่งเด็กในวัยเรียนจะมีพฤติกรรมที่แสดงออก อาทิเช่น
วัยที่ชอบเรียนรู้
เนื่องจากเป็นวัยที่เข้าโรงเรียน เด็กวัยนี้จึงเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมจากบ้านสู่โรงเรียน ร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และวุฒิภาวะทุกด้านกำลังงอกงามเกือบเต็มที่ สังคมในโรงเรียน ประสบการณ์ หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ทำให้เด็กมีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกหลายด้าน เนื่องจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเป็นสิ่งที่ช่วยก่อให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ซึ่งการจัดสิ่งแวดล้อมโดยเปิดโอกาสให้เด็กได้มีการเคลื่อนไหว สรรค์สร้างจินตนาการ และเข้าร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ทำให้เด็กได้เรียนรู้กว้างขวางขึ้น สามารถที่จะคิดและแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ รวมถึงเป็นการเพิ่มและเสริมพัฒนาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านอารมณ์ ภาษา และสติปัญญา ของเด็กเป็นอย่างมาก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เรื่องสำคัญ! การเปลี่ยนแปลงของลูกวัย 6-12 ปีที่แม่ต้องรู้ คลิกหน้า 2
วัยที่ชอบแสดงความสามารถ
เด็กวัยนี้จะสนใจและชื่นชมในสิ่งที่ตัวเองชอบ และพยายามที่จะเรียนรู้ ฝึกฝนความสามารถของตน ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ดนตรี ร้องเพลง เต้น หรืองานอดิเรกต่าง ๆ ดังนั้นถ้าพ่อแม่สังเกตเห็นความชอบ ความสามารถของลูกและคอยสนับสนุนในด้านที่ลูกสนใจ ก็จะเป็นการพัฒนาทักษะต่อยอดในความสามารถนั้น ๆ ให้โดดเด่นมากขึ้นไป ส่งผลดีต่อการเรียน ทักษะ อาชีพ ในอนาคตได้
วัยที่ชอบเลียนแบบ
เด็กวัยนี้ช่างจดช่างจำพฤติกรรมต่าง ๆ จากคนใกล้ชิดและสิ่งแวดล้อมได้เก่งเหลือเกินค่ะ สิ่งไหนที่ลูกชื่นชอบเด็กก็พยายามจดจำจนกลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ดังนั้นในช่วงวัยนี้นอกจากการจัดหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ดูแลสื่อในมือถือที่ลูกใช้งานบ่อย ๆ คุณพ่อคุณแม่หรือคนใกล้ชิดเองก็พยายามเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกกันนะคะ
เป็นวัยแห่งการสร้างมิตรภาพ
เด็กวัยเรียนจะมีกลุ่มสังคมทั้งภายในโรงเรียนและเชื่อมโยงกับเพื่อนฝูงภายนอกมากขึ้น เด็ก ๆ จะเรียนรู้แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างกัน เล่นกิจกรรมด้วยกันเพื่อสร้างมิตรภาพ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรม ออกไปเล่นนอกบ้านสนุกตามประสาก็จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์ส่งผลให้ลูกเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส รู้จักทักษะการเข้าสังคมกับคนอื่นหรือเพื่อนในวัยเดียวกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้หลายอย่างที่เป็นประโยชน์ เช่น เรียนรู้ถึงการยอมรับและมีความรับผิดชอบ การมีน้ำใจนักกีฬา และการมีพฤติกรรมที่สังคมยอมรับ เพื่อเป็นรากฐานในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมต่อไป ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยการปล่อยให้ลูกได้ทำกิจกรรมก็ยังควรอยู่ในสายตาคุณพ่อคุณแม่นะคะ
ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง
พัฒนาการทางด้านร่างกายของลูก น้ำหนักและส่วนสูงจะเพิ่มขึ้นช้า แต่สิ่งที่เห็นได้คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านสัดส่วนของร่างกาย ในวัยนี้ชั้นไขมันตามแก้ม อก ท้อง ก้น และต้นขาจะน้อยลง ทำให้เด็กดูผอมและสูงขึ้น พัฒนาการของกล้ามเนื้อ กระดูก และประสาทดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ร่างก่ายเคลื่อนไหวคล่องตัวและว่องไว สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้อย่างประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามความสามารถในการเคลื่อนไหวของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนหรือโอกาสที่เด็กจะได้เข้าร่วมกิจกรรม ตลอดจนความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเอง ที่พ่อแม่สามารถมีส่วนร่วมคอยสนับสนุนให้ลูกได้ทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาตามที่ลูกถนัดได้นะคะ
จะเห็นได้ว่าพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของเด็กวัยนี้ สิ่งที่มีอิทธิพลต่อตัวเด็กมากที่สุดนั่นคือ สภาพแวดล้อม ได้แก่ บ้าน โรงเรียน และพื้นที่อื่นๆ ที่จะส่งต่อพฤติกรรมและทัศนคติต่อตัวเด็ก รวมไปถึงสื่อที่อยู่ในพื้นที่ออฟไลน์และออนไลน์ด้วย ดังนั้น พ่อแม่ควรทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของเด็กในวัยนี้ หากบรรยากาศในครอบครัวเป็นพื้นที่ที่ดีและอบอุ่นกับตัวเด็กก็จะส่งผลดีต่อพฤติกรรมของลูก คอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง พยายามสอนสิ่งต่างๆ ที่เด็กยังไม่เข้าใจอย่างไม่กัดดัน และเป็นแบบอย่างที่ดีในรูปของพฤติกรรมที่ลูกสามารถปฏิบัติตามได้ ก็จะเป็นประโยชน์ที่ดีต่อตัวการเติบโตของลูกในอนาคตค่ะ.
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.sanook.com, www.familynetwork.or.th, www.gotoknow.org
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :
ลูกไม่ได้เป็นเบบี๋อีกต่อไป พัฒนาการ เด็ก 6 ขวบ ที่พ่อแม่ต้องรู้
7 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับดวงตาของเด็กวัยเรียน ที่เกิดจากหน้าจอ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่