AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

7 วิธีสร้างเกราะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ และไม่ให้ลูกบูลลี่คนอื่น

วิธีสร้างเกราะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ และไม่ให้ลูกบูลลี่คนอื่น

การบูลลี่ในโรงเรียน ไม่ว่า ลูกถูกบูลลี่ หรือ ลูกไปบูลลี่คนอื่น ต่างก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะผลของการบูลลี่ทั้งต่อคนที่ถูกกระทำและตัวผู้กระทำเอง อาจสร้างแผลทางใจฝังลึกจนยากเยียวยาได้

วิธีสร้างเกราะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่
และไม่ให้ลูกบูลลี่คนอื่น

ปัจจุบันข่าวเรื่อง การ Bully (พฤติกรรมรุนแรง กลั่นแกล้ง รังแกผู้อื่นทั้งทางวาจาและร่างกาย) เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในสังคมไทย ซึ่งไทยเราตกอยู่ในอันดับ 2 ของโลก ที่มีสัดส่วนนักเรียนถูกรังแกจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันสูงถึงร้อยละ 40 รองจากญี่ปุ่น ทั้งนี้ผลร้ายที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เฉพาะกับคนที่ถูกบูลลี่ แต่คนที่ไปบูลลี่คนอื่น ก็ล้วนแล้วแต่ต้องได้รับาดเจ็บทั้งกายและใจจากการกระทำเหล่านนั้นไปด้วย ดังเช่นข่าวที่มีออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง … และเช่นเดียวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งมีเด็กชายคนหนึ่งที่ผูกคอตาย โดยมีสาเหตุมาจากการถูกเพื่อนบูลลี่ต่างๆ สารพัด ซึ่งหนูน้อยคนนี้ได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ด้วย

Must read >> แพทย์เผย! เด็กไทย ชอบแกล้งเพื่อน ติดอันดับ 2 ของโลก!

 

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ จัสมิน มะลิ ได้มาโพสต์ข้อความว่า “วันที่ 5 มีนาคม เวลา 17.30 น. น้องมาร์ค ผูกคอตายเพราะถูกเพื่อนบูลลี่ ต่างๆ นานาอยากถามว่าการบูลลี่ แล้วสุดท้ายได้อะไร คุณอาจจะได้ความสุขแต่อีกหลายๆ คนต้องจมอยู่กับความทุกข์ของการบูลลี่ ของคุณ คุณคิดได้หรือเปล่าว่าการกระทำแบบนี้ส่งผลดีหรือผลเสียความสุขของใครหลายๆ คน คือความทุกข์ของคนๆ หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการติด #หยุดบูลลี่” ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ญาติได้เล่าว่าเด็กชายผู้เสียชีวิต น้องอาศัยอยู่กับตาตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนพ่อและแม่นั้นแยกทางกันตั้งแต่น้องยังไม่คลอด อีกทั้งน้องยังเป็นเด็กเรียนเก่ง และเป็นหัวหน้าห้องด้วย แต่มีหลายครั้งที่น้องกลับมาจากโรงเรียนก็มักจะบ่นว่าถูกเพื่อนแกล้งสารพัด จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุน้องขาดเรียนหลายวัน ไม่ไปโรงเรียน สุดท้ายจึงเกิดเรื่องสุดเศร้าขึ้น ซึ่งทางทีมแม่ ABK ก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมา ณ ที่นี้ด้วย

Must read >> ลูกโดนแกล้ง พ่อแม่ช่วยได้ ป้องกันก่อนสายใช้กำลัง- ฆ่าตัวตาย

จะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ ได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามทั่วโลกได้มีการรณรงค์มาตลอดเกี่ยวกับเรื่องของการต่อต้านการบูลลี่ เพราะสังคมปัจจุบันทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันและตอนนี้เข้าสู่ปี 2020 แล้ว ก็ไม่ควรที่จะเอาปมด้อย รูปลักษณ์ ฯลฯ โดยผู้โพสต์ได้นำเรื่องนี้มาเล่าต่อก็เพื่อจะให้เป็นเคสตัวอย่าง และไม่ให้เกิดขึ้นกับใครอีกต่อไปด้วย

ทั้งนี้คำว่า “บูลลี่” คือพฤติกรรมกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่าและมักเกิดขึ้นในโรงเรียนเกือบทั่วโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเราอาจจะจะได้ยินคำว่า “Bully” บ่อยครั้ง เนื่องจากทุกวันนี้ผู้คนสื่อสารกันผ่านโลกไซเบอร์กันมาก จนคิดว่าเป็นแค่การบูลลี่ในโลกไซเบอร์ แต่ในความจริงแล้วการบูลลี่เกิดขึ้นได้ทุกที่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในสถานศึกษา หรือที่ทำงาน และเกิดขึ้นมานานแล้ว

การรับมือ ลูกถูกบูลลี่ คือ มีสติ เงียบเฉย ตอบโต้ ชี้แจงให้ถูกจังหวะ ไม่คิดแค้น เครียด หรือวิตกกังวลเกินไป รวมถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตในสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดี ปิดรับเรื่องราวทางโซเชียลฯ บ้าง หากหาทางออกไม่ได้ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

อ่านต่อ >> “7 วิธีสร้างเกราะป้องกันลูกโดนบูลลี่
และไม่ให้ลูกไปบูลลี่คนอื่น” คลิกหน้า 2


ขอบคุณเฟซบุ๊ก : จัสมิน มะลิ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

จากข่าวการเสียชีวิตของเด็กชายที่ถูกบูลลี่ นายอธิวัฒน์ เนียมมีศรี เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน ได้เปิดเผยผลสำรวจ ความคิดเห็น เรื่อง ลูกถูกบูลลี่ การกลั่นแกล้ง ความรุนแรงในสถานศึกษาในกลุ่มเด็กอายุ 10-15 ปี จาก 15 โรงเรียน โดยกรมสุขภาพจิต เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผลสำรวจพบว่า..

นอกจากนี้ นายอธิวัฒน์ ยังเห็นว่า.. สังคมไทยต้องเลิกเห็นว่า เรื่องบูลลี่ การกลั่นแกล้งกัน เป็นเรื่องเด็กๆ ปกติธรรมดาแล้วปล่อยผ่าน ต้องให้ความสำคัญ และสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ถูกต้อง พร้อมเร่งปลูกฝังเรื่องการเคารพสิทธิเนื้อตัวร่างกายและให้เกียรติกัน

ผลของการบูลลี่คนอื่น และ เมื่อ ลูกถูกบูลลี่

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า “การรังแกกันหรือล้อเลียนกันในโรงเรียน เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นการปลูกฝังเด็กเรื่องความรุนแรง การทำร้ายกัน มีผลกระทบต่อเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งอารมณ์จิตใจร่างกายและคุณภาพชีวิตในระยะยาว นักเรียนที่ถูกรังแกมักเครียด ซึมเศร้า มีปัญหาการเข้าสังคมจนโต หากถูกกดดันรุนแรงหรือเรื้อรัง จะนำไปสู่การทำร้ายคนอื่นเพื่อแก้แค้น หรือทำร้ายตนเอง รุนแรงถึงฆ่าตัวตาย ขณะที่นักเรียนที่รังแกคนอื่น เมื่อทำบ่อยครั้งจนกลายเป็นนิสัยเคยชิน จะมีปัญหาบุคลิกภาพแบบใช้ความก้าวร้าว ความรุนแรงต่อผู้อื่น ความรู้สึกผิดน้อย ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เป็นอันธพาล อาชญากรได้”

ทำไมเด็กๆ ถึงบูลลี่คนอื่น

เพราะเด็กไม่มองเห็นศักยภาพตัวเอง (Self) เพราะ Self ของเด็กมันถูกผูกกับการศึกษาและความเก่งในห้องเรียน ขณะที่สังคมของประเทศอื่น เช่น ฟินด์แลนด์ ญี่ปุ่น จะเน้นความเท่าเทียมและเคารพกัน ว่าทุกคนมีดี มีความแตกต่างหลากหลาย เมื่อมันหลากหลายมันจึงไม่มีใครเหนือกว่าใคร เด็กมีความแต่งต่างกัน  สนใจในเรื่องต่างๆกัน มีกลุ่มศิลปินชอบศิลปะ กลุ่มชอบกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มความถนัดทางกาย กลุ่มนักดนตรี กลุ่มภาษาวรรณกรรม  แต่สังคมไทย ให้ความสำคัญกับเด็กที่เรียนเก่งเป็นพิเศษ

สร้างเกราะป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ และไม่ให้ลูกไปบูลลี่คนอื่น

สำหรับวิธีป้องกัน ลูกถูกบูลลี่ และการสอนไม่ให้ลูกไปบูลลี่คนอื่น ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ หรือ หมอวิน เจ้าของเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้

  1. เมื่อไหร่ก็ตามที่ครอบครัวแน่นแฟ้น มีความรักความอบอุ่นให้กันจะช่วยสร้างตัวตนเด็ก เด็กที่อยู่ในครอบครัวอบอุ่นและรับฟังกันโดยไม่ตัดสินเด็กจะกล้าพูดความรู้สึกตัวเอง
  2. สอนให้ลูกปฏิเสธเป็น สอนให้เป็นคนช่างเจรจาและต่อรองแบบเหมาะสมได้ เช่น บอกไปหากไม่ชอบอะไรให้บอกตรงๆ และถ้าไม่หยุด จะต้องบอกคุณครู เป็นต้น
  3. หากเกิดการกลั่นแกล้ง ถูกหยอกล้อด้วยพูด ทำให้ลูกรู้สึกไม่ดี ให้ลูกไปบอกคุณครู แต่ถ้าคุณครูเมินเฉย และมองว่าเพื่อนแค่หยอกถ้าครูไม่ปกป้องเด็ก โรงเรียนนั้นไม่น่าอยู่แล้วถึงปล่อยให้การกลั่นแกล้งแบบนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีการตักเตือนอีกฝ่าย
  4. อย่าปล่อยให้ลูกเจอเรื่องแบบนี้โดยไม่มีใครปกป้อง หากเด็กเริ่มสะสมความเครียดเก็บไว้เยอะๆ สุดท้ายมันจะออกมาในรูปแบบของความรุนแรง หรือหากยอมมากๆ จะเกิดความเศร้า ฆ่าตัวตาย หรือวันหนึ่งถ้าลุกขึ้นสู้ จะมีการใช้ความรุนแรงเข้ามายุติเรื่องราวเหมือนที่เห็นในข่าวปัจจุบัน
  5. เมื่อใดก็ตามที่เห็นลูกล้อเพื่อน หรือไปตีเพื่อน โดยมีความจงใจจะแกล้งผ่านการเล่น ห้ามเพิกเฉยและมองว่าเป็นการเล่นของเด็กๆ พ่อแม่ต้องรีบเข้าไปสั่งสอนลูกด้วยตัวเอง ห้ามดึงคนนอกให้มามีอำนาจเหนือคนในบ้าน เพราะการสั่งสอนจะไม่สำเร็จผล
  6. พ่อแม่ไม่ต้องสั่งสอนมาก แค่ทำแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น เป็นที่น่านับถือและน่าเคารพต่อลูกๆ เป็นที่พึ่งของเขา
  7. อาวุธที่ดีที่สุดคือ สายสัมพันธ์และการรับฟัง ซึ่งมีอ้อมกอดที่อบอุ่น หูที่รับฟัง และจิตใจที่เปิดกว้าง สามอย่างนี้เป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดของคุณพ่อคุณแม่ที่จะเชื่อมกับลูกได้ตลอดในทุกช่วงวัย
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thairath.co.th

อย่างไรก็ตาม การที่ ลูกถูกบูลลี่ ไม่ใช่เรื่องปกติในสังคมที่ต้องอดทน แต่เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไข  โดยเริ่มจากบ้าน โรงเรียน และสังคม ซึ่งสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรสอนลูกให้ตั้งรับอย่างมีสติ เงียบเฉยบ้าง ตอบโต้ ชี้แจงให้ถูกจังหวะ ไม่คิดแค้น เครียด หรือวิตกกังวลเกินไป รวมถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตในสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดี เหมาะสมกับตัวเอง และข้อสำคัญ หากหาทางออกไม่ได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.samitivejhospitals.comwww.amarintv.com ,  www.dmh.go.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids