AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

บทเรียนจากความพ่ายแพ้ มีคุณค่าเสมอ ตัวอย่างที่ดีที่ควรสอนลูก

ใน Facebook Page เข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้เขียนเรื่องราวที่ได้ข้อคิดเอาไว้ เกี่ยวกับ บทเรียนจากความพ่ายแพ้ เพราะทุกการแข่งขัน ไม่มีใครที่ไม่เคยแพ้มาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แม้แต่นักกีฬาว่ายน้ำที่คว้าเหรียญทองมาได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับเด็กที่มุมานะ

#‎ทุกความพ่ายแพ้มีคุณค่าเสมอ

บนเส้นทางของผู้ชนะ ไม่เคยมีใครไม่เคยพ่ายแพ้ เป็นสัจธรรมของความเป็นจริงของโลกใบนี้

แม้แต่ นักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกันผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ อย่าง ไมเคิล เฟล์ปส

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2559 ไมเคิลลงแข่งรอบชิงชนะเลิศในรายการว่ายผีเสื้อ 100 เมตร เขาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ตามหลัง โจเซฟ สกูลลิง นักกีฬาว่ายน้ำชาวสิงคโปร์

โจเซฟ หรือ โจ เด็กหนุ่มชาวสิงคโปร์อายุ 21 ปี นอกจากการเอาชนะไมเคิลได้ในวันนี้ เหรียญทองนี้ ก็ถือเป็นเหรียญทองแรกในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ของประเทศสิงคโปร์และเป็นเหรียญทองแรกในโอลิมปิกของโจ

“ผมผิดหวังอยู่นะ ใครล่ะที่อยากจะแพ้”

ไมเคิลให้สัมภาษณ์หลังเกม ต่อคำถามถึงความรู้สึกที่มีกับผลการแข่งขัน แม้จะบอกแบบนั้น แต่เขาหัวเราะ มีรอยยิ้มกว้าง สวนทางกับสิ่งที่พูด

“แต่รู้มั้ย ผมรู้สึกภูมิใจในตัวโจ ชัยชนะของเขามันยอดเยี่ยม”

“ผมหวังว่าชัยชนะในครั้งนี้ของโจ จะทำให้เด็กๆ เรียนรู้ได้ว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้ากล้าที่จะฝัน อย่ากลัว และจงมีความเชื่อ”

อ่านต่อ “บทเรียนจากความพ่ายแพ้ มีคุณค่าเสมอ” คลิกหน้า 2

“มองไปในท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มันไม่มีขีดจำกัด ก็เหมือนความฝันของคนเรา”

ความแตกต่างอาจจะอยู่ที่ คนๆ นั้น กล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเองหรือไม่

ย้อนหลังไปเมื่อราวแปดปีก่อน เด็กชายโจ อายุเพียง 13 ปี ตอนนั้นโจเป็นแค่นักว่ายน้ำฝึกหัด โจได้พบกับไมเคิลโดยบังเอิญที่คลับแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ซึ่งไมเคิลมาเก็บตัวเพื่อเตรียมไปแข่งโอลิมปิคที่ปักกิ่ง

เหมือนทุกคนที่ชอบว่ายน้ำ โจมีไมเคิลเป็นไอดอลในใจเสมอมา โจได้ขอไมเคิลถ่ายรูป เป็นที่ระลึก ตอนนั้นโจไม่เคยคิดฝันว่าในวันหนึ่ง พวกเขาจะได้มาแข่งขันในสระว่ายน้ำเดียวกัน

ลึกๆ ในใจ โจมีความฝันที่จะทำได้อย่างไมเคิล เขาฝันจะได้เหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิก

แต่ตอนนั้นความเป็นจริง กับความฝันมันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน

แต่ใครจะรู้อนาคต อีกสี่ปีต่อมา โจเป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงลอนดอนในปี 2012

ท่าผีเสื้อ เป็นท่าที่โจมีความถนัดที่สุด แต่ตอนนั้นด้วยความผิดพลาดหลายๆ อย่าง โจทำเวลาได้ไม่ดีเลยในการแข่งขัน ไม่ผ่านรอบคัดเลือกด้วยซ้ำ

เขารู้สึกผิดหวังมาก และเสียกำลังใจ

ในเส้นทางที่เดินไปสู่ความฝัน อาจมีหลายครั้งที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้กำลังใจของคนเราหล่นหายไป สิ่งที่เลือกทำ ก็คือ การสร้างกำลังใจให้ตัวเอง แล้วเดินตามความฝันนั้นต่อไป หรือเลือกที่จะเก็บความฝันนั้นในก้นบึ้งของจิตใจ เลิกล้มทุกอย่าง

แต่เพราะอะไร โจจึงเลือกที่จะเดินหน้าคว้าฝันต่อไป

อ่านต่อ “บทเรียนจากความพ่ายแพ้ มีคุณค่าเสมอ” คลิกหน้า 3

โจเล่าความทรงจำในครั้งนั้น หลังจากความพ่ายแพ้หมดรูป ในโอลิมปิกครั้งแรกว่า

“หลังแข่ง ตอนนั้นผมเดินตามหลังไมเคิล พอเขาหันมาเห็นหน้าผมเข้า ไมเคิลก็ถามผมว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’ ผมเลยเล่าให้เขาฟังว่า เกิดเรื่องแย่ๆ อะไรกับผมบ้าง เขากอดผม แล้วพูดว่า ‘นายยังเด็กนัก ยังมีทางให้นายเดินอีกไกล เรื่องครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ ที่ทำให้นายได้เรียนรู้ ดังนั้น จงเงยหน้าขึ้นและก้าวเดินต่อไป’ ผมจำที่เขาพูดกับผมได้ทุกประโยค”

จนมาถึงวันนี้ วันที่โจคว้าเหรียญทองได้จากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่สองในชีวิตของเขา

ที่สำคัญเขาเอาชนะไมเคิล ไอดอลในดวงใจได้

ไม่ว่าจะเป็นความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ของไมเคิล หรือความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นของโจ มันก็เป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่สูญเปล่า

เช่นเดียวกันกับทุกความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น บนเส้นทางไปสู่ความฝันของเราแต่ละคน ถึงจะทำให้เสียน้ำตา แต่เชื่อว่า ก็จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเราแต่ละคนที่ได้เรียนรู้

มีคำกล่าวที่ว่า “ฝันไหนๆ ก็ตาม ไม่มีทางเป็นความจริงได้ด้วยเวทย์มนต์ใดๆ แต่ต้องอาศัยความอดทน มุมานะ และความเพียรพยายาม”

เชื่อในความฝัน และกล้าที่จะทำให้มันเป็นความจริง

เครดิต: www.facebook.com/kendekthai/photos/a.468916916480833.98758.468898189816039/1138383359534182/?type=3, www.straitstimes.com/sport/olympics-nobody-is-happy-to-lose-but-im-proud-of-jo-phelps, www.theguardian.com/sport/2016/aug/13/michael-phelps-taught-a-lesson-for-once-by-singapores-joseph-schooling

อ่านเพิ่มเติม คลิก!

วิธีสอนลูกโตไปไม่ดูถูกคนอื่น รู้แพ้ ชนะ ให้อภัย

ลูกไม่รู้จักคำว่า น้ำใจนักกีฬา

สอนลูกมีน้ำใจนักกีฬา