AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

15 มารยาททางสังคม สอนลูกให้มีติดตัวไว้ โตขึ้นไปมีแต่คนรักและเอ็นดู

มารยาททางสังคม

มารยาททางสังคม เป็นอีกสิ่งหนึ่งในฐานะความรับผิดชอบของคนเป็นพ่อแม่ที่ควรได้ปลูกฝังให้ลูกเข้าใจถึงความสำคัญของมารยาทที่ดีและปฏิบัติตัวเพื่อให้เข้ากับสังคมได้ตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อให้ติดตัวไปจนโต ไปไหนจะได้มีแต่คนเอ็นดู ไม่เป็น “โรคมารยาททางสังคมบกพร่อง และเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่าเด็ก ๆ ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี มารยาทอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกและแสดงเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดต่อหน้าเด็ก ๆ

15 มารยาททางสังคม สอนลูกให้มีติดตัว โตขึ้นไปมีแต่คนรัก

สอนลูกให้พูดเพราะ

1.สอนลูกให้พูดเพราะ พูดจาดีเป็นที่รัก

การสอนให้ลูกพูดจาดีเป็นมารยาทพื้นฐานที่พึงจะมีในสังคม และควรปลูกฝังในเด็กตั้งแต่เล็ก ๆ เริ่มต้นด้วยการสอนคำพูดที่สามารถใช้ติดตัวไปจนโต เช่น การกล่าวทักทาย “สวัสดีครับ/ค่ะ” การเอ่ยคำว่า “ขอบคุณครับ/ค่ะ” การกล่าวคำว่า “ขอโทษ” เมื่อพวกเขาทำสิ่งที่ผิด สอนลูกในการใช้คำขอโทษว่าควรใช้ในสถานการณ์ใด และแสดงออกอย่างจริงใจ รวมถึงการพูดประโยคที่ควรมีคำลงท้ายครับ/ค่ะ การฝึกให้ลูกพูดคำเหล่านี้บ่อย ๆ จัดเป็นทักษะชีวิตที่ลูกจะเรียนรู้ไปจนโต และในที่สุดลูกก็จะพูดติดตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่จะทำให้ลูกของคุณพ่อคุณแม่น่ารัก น่าเอ็นดูในสายตาของทุกคน

2.ไม่พูดคำหยาบ

เด็ก ๆ ควรได้รับการสอนว่าไม่ควรพูดคำหยาบคายต่อหน้าใคร ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินจากในโทรทัศน์ เพื่อน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ใกล้ตัวก็ตาม รวมถึงน้ำเสียงที่ใช้พูด อีกทั้งการที่คุณพ่อคุณแม่ใช้คำสุภาพพูดกับลูกทุกครั้ง จะเป็นพฤติกรรมที่จะทำให้ลูกซึมซับมารยาทที่ดีนี้ได้ ดังนั้นถ้าได้ยินลูกพูดคำหยาบคุณพ่อคุณแม่ควรตักเตือนทันทีและอธิบายถึงว่าทำไมคำพูดแบบนี้ถึงไม่ดี ไม่ควรพูด เป็นมารยาทที่ไม่ดี ไม่น่ารัก

3.เคาะประตูก่อนเข้าห้องคนอื่น

เด็ก ๆ ควรได้รับการสอนว่าความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะที่บ้านไม่ว่าจะเป็นห้องนอนพ่อแม่ หรือพี่น้องของพวกเขาเอง ลูกควรรู้ว่าการเคาะประตูและขออนุญาตก่อนเข้าห้องนั้นเป็นการเคารพสิทธิส่วนตัวของผู้อื่น รวมถึงตัวเองด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถทำเรื่องนี้ต่อหน้าเด็ก ๆ ได้ด้วยการเคาะประตูก่อนเข้าห้องลูกเป็นตัวอย่างเพื่อสร้างเป็นนิสัยที่ดีให้กับทุกคนในครอบครัว

4.ปิดปากเมื่อไอหรือจามเสมอ

สอนเด็ก ๆ ให้ปิดปากเมื่อพวกเขาจามหรือไอ โดยเฉพาะในที่สาธารณะ อันเป็นส่วนหนึ่งของมารยาทที่ดีและรวมถึงการช่วยรักษาสุขอนามัยในส่วนรวมด้วย

5.ไม่ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นด้วยความสนุก

สิ่งนี้ลูกควรจะได้รับการสอนตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าไม่ควรไปทำร้ายความรู้สึกของเพื่อนหรือคนอื่นเพื่อความสนุกหรือรังแกผู้อื่นให้เดือดร้อน

6.ไม่พูดแทรกขณะคุณพ่อคุณแม่คุยโทรศัพท์

ลูกควรรู้วิธีการรับและพูดคุยทางโทรศัพท์ ด้วยการรับฟังเมื่อมีคนพูดอีกด้าน ไม่พูดแทรก หรือการนิ่งเงียบในขณะที่พ่อแม่คุยโทรศัพท์ ก่อนหาจังหวะคุย สิ่งนี้จะช่วยให้คนรับฟังรู้สึกประทับใจในตัวพวกเขาได้

สอนลูกให้ มีสัมมาคารวะ

7.สอนลูกให้มีสัมมาคารวะ แสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่

เด็ก ๆ ควรได้รับการสอนให้แสดงความเคารพต่อ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ครู และผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ที่พวกเขาพบ ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ ที่เป็นการแสดงออกถึงมารยาทที่ดีในสังคมไทยเพื่อแสดงความเคารพ การทักทายหรือจากลา การขอโทษหรือขอบคุณ ไม่ว่าจะต่อผู้ที่มีอาวุโสกว่า เพื่อนรุ่นเดียวกัน หรือการแสดงมารยาทด้วยการลุกที่นั่งบนระบบขนส่งสาธารณะให้กับผู้สูงอายุ การที่เด็ก ๆ รู้จักแสดงความเคารพ มีสัมมาคารวะ อ้อมนอมถ่อมตน บ่งบอกถึงมารยาทที่ดีและการเลี้ยงดูที่ดีจากคุณพ่อคุณแม่ และทำให้ลูก ๆ เป็นเด็กน่ารักและเป็นที่น่าเอ็นดูของคนรอบข้าง

8.ไม่ชี้หรือจ้องมอง

สอนลูก ๆ ว่าการชี้หรือจ้องมองคนอื่นนั้นเป็นกิริยาที่เสียมารยาท คนที่ถูกชี้หรือโดนจ้องมองอาจจะไม่พอใจ คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนเรื่องนี้เพื่อให้ลูกเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้อื่น ความไม่พอใจ และแสดงกิริยาด้วยการผายมือแทน

9.มีน้ำใจต่อคนพิการ

เด็ก ๆ อาจจะเพิ่งเคยพบเจอคนพิการ พวกเขาอาจจะเกิดความสงสัย ชี้ จ้องมอง หรือถามเสียงดัง แม้กระทั่งความกลัว คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเข้าใจว่าแม้คนพิการเหล่านี้แตกต่างจากคนปกติ แต่ก็สามารถได้รับการปฏิบัติให้เหมือนคนทั่ว ๆ ไปได้ ด้วยการแสดงความมีน้ำใจ ความช่วยเหลือต่อคนพิการ การสอนลูกในด้านนี้จะทำให้ลูกโตมามีความอ่อนโยน รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

10.มีความเห็นอกเห็นใจ

คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกให้ช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องที่เหมาะสมกับวัยของลูกได้ เช่น การช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานบ้าน การช่วยครูที่โรงเรียน การเปิดประตูให้กับคนที่มีของเต็มมือ การเรียนรู้ที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือควรเป็นนิสัยติดตัวสำหรับเด็ก ๆ นอกจากจะทำให้พวกเขารู้สึกดีกับตัวเอง เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองแล่ว การได้ช่วยเหลือผู้อื่นจะทำให้เป็นที่เอ็นดูแก่คนรอบข้างด้วย

สอนลูกให้แบ่งปัน

11.รู้จักที่จะแบ่งปัน

นิสัยนี้มีความสำคัญมากสำหรับเด็ก ๆ เมื่อพวกเขาเล่นกับผู้อื่น เด็ก ๆ ควรจะได้รับการสอนว่าการแบ่งปันคือการเอาใจใส่และเป็นการแสดงน้ำใจที่ดี ไม่ว่าจะแบ่งปนของเล่นหรืออาหาร คุณพ่อคุณแม่อาจจะเริ่มสอนลูกให้รู้จักแบ่งปันภายในครอบครัวโดยเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ หรือการพาลูกไปบริจาคสิ่งของ ไปเป็นจิตอาสาเพื่อให้ลูกเรียนรู้จักการให้ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

12.การเป็นแขกที่ดี

สอนมารยาทให้ลูกในการไปเยี่ยมบ้านคนอื่น เช่น บ้านญาติ บ้านเพื่อ ให้เด็ก ๆ แสดงความสุภาพ กล่าวทักทายเจ้าของบ้าน และไม่แสดงออกกับมื้ออาหารแม้จะไม่ใช่ของโปรดก็ตาม

13.ไม่ตะโกนเสียงดัง

สอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้มารยาทการพูด การสนทนาที่ดี และควรรู้ว่าการตะโกน ตะคอกเสียงดัง ไม่ใช่พฤติกรรมที่น่ารัก การสอนให้พูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ นุ่มนวล และสอนให้ลูกรอจนกว่าคนอื่นจะพูดจบก่อนถึงจะพูด รวมทั้งการสบตาระหว่างสนทนาที่จะแสดงความถีงมั่นใจและความเคารพต่อผู้ร่วมสนทยา หากเด็ก ๆ ได้เรียนรู้มารยาทในด้านนี้ก็จะทำให้ลูก ๆ เติบโตขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดี เข้ากับผู้อื่นในสังคมได้ดี

14.เป็นเด็กรักสะอาด

เพื่อปลูกฝังนิสัยให้ลูกรักสะอาดทั้งต่อตัวเอง ภายในบ้าน รวมถึงสังคมสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ทิ้งขยะบนพื้นถนน หรือการทำสกปรกในที่ต่าง ๆ คุณพ่อคุณสามารถเริ่มต้นสอนให้เด็ก ๆ ล้างจานหลังรับประทานข้าว การนำขยะไปทิ้ง หรือให้ลูกได้ช่วยทำงานบ้าน พวกเขาจะเรียนรู้การทำความสะอาดและรู้จักรักสะอาดเพื่อส่วนรวมโดยอัตโนมัติ

15.มีความจริงใจ

การสอนให้เด็ก ๆ เป็นคนจริงใจ ไม่โกหก ม่ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่ควรปลูกฝังให้กับเด็ก ๆ อธิบายว่าทำไมการบอกความจริงจึงสำคัญ และการแสดงความจริงใจจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนมองเห็นความดี มารยาทในเรื่องนี้ถือเป็นการปลูกฝังให้เด็กมีคุณธรรมได้ตั้งแต่เล็ก ๆ เติบโตไปเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมแน่นอน

สอนลูกให้มีมารยาท

มารยาทที่ดีเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่จะปลูกฝังให้เด็ก ๆ ติดตัว ที่จะทำให้พวกเขามีนิสัยดีขึ้นได้เมื่อเติบโตขึ้น เด็กที่มีมารยาท สุภาพ มีน้ำใจ จะสร้างความประทับใจที่ดีต่อต่อคนรอบข้าง เป็นสิ่งที่จะทำให้เด็ก ๆ สามารถเข้ากับผู้อื่นได้ และมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จทั้งที่โรงเรียนและที่ทำงาน โดยการสอนลูกเรื่องมารยาททั้งหมดนี้ ควรเริ่มจะสอนตั้งแต่ยังเล็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มต้นได้จากการเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งจะทำให้ลูกเห็นและซึมซับได้ง่าย ตรงข้ามกับการเพิกเฉยต่อการสอนเรื่องมารยาทให้กับเด็ก ๆ จะมีผลและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่ออนาคตของพวกเขาได้ ที่สำคัญเมื่อลูกแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดี เด็ก ๆ ก็ควรจะได้รับคำชมเชยและให้กำลังใจ เพื่อพวกเขาจะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เป็นเด็กที่น่ารัก มีผู้ใหญ่เอ็นดู และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้นะคะ.

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

9 ข้อที่ควรสอนลูก ป้องกันการ “วีน เหวี่ยง แซงคิว ไม่มีมารยาท” ในที่สาธารณะ

ทักษะชีวิต 12 ข้อสอนลูกให้ติดตัว พร้อมเผชิญหน้ากับชีวิตในอนาคตได้ดี

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids