วัคซีนเด็ก ฉีดเพื่อป้องกันและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้กับลูกน้อย ซึ่งเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนให้ครบตามตารางวัคซีน ที่กำหนด
วัคซีน แต่ละตัวที่ผลิตออกมาใช้ทั่วโลก ก็เพื่อตอบสนองการมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้หลายชนิด และด้วยพลังสติปัญญาของนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้เราสามารถใช้วัคซีนได้ตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ไปจนกระทั่งวัยชรา ซึ่งการเลือกใช้วัคซีนแต่ละชนิดให้เหมาะกับร่างกายของลูกน้อย แม่ท้อง หรือผู้ใหญ่นั้น ควรต้องขอคำแนะนำจากแพทย์เสียก่อน ด้วยสภาพร่างกาย อายุ เพศ และยาที่ได้รับในขณะนั้น ต่างมีผลต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานของวัคซีนทั้งสิ้น
หมอแนะ 5 วัคซีนเด็ก สำคัญ! ป้องกัน 9 โรคร้ายให้ลูกตอนโต
เหตุใดจึงต้องฉีด วัคซีนเด็ก
จุดประสงค์ในการฉีดวัคซีนนั้น เพื่อป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง โดยเฉพาะกับเด็ก การฉีดวัคซีนนั้นขัดขวางการแพร่ระบาด และลดผลกระทบที่ร้ายแรงของโรคติดต่อ ในบางกรณีอาจจะกำจัดโรคได้หมด โดยโรคในเด็กหลายโรค เช่น หัด คอตีบ ไอกรน และโปลิโอ ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยมีแล้ว อีกทั้งโรคเหล่านี้ยังเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเสียชีวิตของเด็กอ่อนในศตวรรษที่ 19 ถึง ต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งจากประสบการณ์ของประเทศยุโรปตะวันออก บ่งชี้ว่า โรคเหล่านี้อาจกลับมาอีกได้หากว่าไม่ให้ความใส่ใจในการฉีดวัคซีนเด็ก
การฉีดวัคซีนมีประโยชน์อย่างไร?
ประโยชน์ของการฉีดวัคซีน คือส่งผลในการป้องกันตัวของเด็กเอง และอีกหนึ่งประโยชน์คือ เมื่อเด็กได้รับวัคซีนโรคนั้นๆแล้วโรคนั้นจะไม่ติดต่อไปยังเด็กคนอื่น เพราะฉะนั้นแล้วการฉีดวัคซีนจึงเป็นการเสริมสร้างพิเศษ ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในการป้องกันโรค
⇒ Must read : Update! ตารางวัคซีน ประจำปี 2560 สำหรับเด็กไทย
⇒ Must read : วัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ที่พ่อแม่ต้องรู้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโรคบางโรคที่รักษาหาย จนคุณพ่อคุณแม่หลายคนคิดว่าไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย ซึ่งอาจมาจากความคุ้นชินเคยได้ยินชื่อโรคมานมนานแล้ว ก็เลยไม่ค่อยจะใส่ใจกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เรื่อยมา อัตราการเกิดโรคติดเชื้อ ที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในเด็กเล็ก “ลดลง” อย่างชัดเจน
แต่ตรงกันข้ามกับ “กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น” เพราะอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคยังต่ำอยู่ เนื่องจากเป็นวัยที่มีลักษณะเฉพาะตัว เข้าถึงวัคซีนที่ค่อนข้างยาก หรือแม้แต่ผู้ปกครองไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนเหมือนในเด็กเล็ก และเมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนบางชนิดในวัยเด็กลดลง จึงทำให้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อ ที่สามารถป้องกันได้ด้วย “วัคซีน”
นอกจากนี้อัตราการฉีดวัคซีนในวัยรุ่นที่ต่ำ อาจทำให้กลุ่มวัยรุ่นเป็นแหล่งแพร่โรคไปสู่กลุ่มอื่นที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคสูงได้ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ทำให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้
อ่านต่อ >> “5 วัคซีนที่ลูกควรฉีดตอนโต เพื่อป้องกัน 9 โรคร้ายในวัยผู้ใหญ่” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เพราะไม่ใช่เพียงแต่เด็กเล็กเท่านั้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีน และการฉีดวัคซีนเพียงครั้งเดียวในตอนเป็นเด็กก็อาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บไปตลอดชีวิต เพราะร่างกายคนเราหลังจากฉีดเข็มแรกแล้ว ทุก ๆ 10 ปี จำเป็นต้องฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกครั้ง นอกจากนี้ความจริงอีกข้อคือแม้จะเคยฉีดวัคซีนไปแล้วก็ยังมีความเสี่ยงจะติดโรคได้ประมาณ 10% แต่อาการจะแสดงไม่รุนแรงเท่ากับคนที่ไม่ได้ฉีดเลย นี่คือข้อดีของการฉีดวัคซีน
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทย ได้กล่าวว่า ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วต่างให้ความสนใจสนับสนุนการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคในกลุ่มอายุต่าง ๆ มากขึ้น แต่ก็มีการพบว่าอัตราการให้วัคซีนแก่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น (อายุระหว่าง 9-26 ปี) ยังต่ำอยู่ ทำให้กลุ่มคนวัยนี้มีความเสี่ยงเกิดโรคบางชนิดมากขึ้น
ทั้งนี้ทางด้านสถานเสาวภา สภากาชาดไทย จึงจัดโครงการ “Vaccines for Teens” เพื่อรณรงค์ให้คนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นตระหนักถึงความจำเป็นในการรับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความรุนแรงของโรค และลดการแพร่เชื้อไปยังคนใกล้ตัว และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคร้าย
9 โรคร้าย ที่เป็นอันตรายต่อเด็กตอนโต (วัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น) ได้แก่
- โรคไข้เลือดออก
- โรคคอตีบ
- โรคไอกรน
- โรคบาดทะยัก
- โรคมะเร็งปากมดลูก
- โรคหัด
- โรคหัดเยอรมัน
- โรคคางทูม
- โรคอีสุกอีใส
โดยแนะนำวัคซีน 5 ชนิดที่ให้ฉีด ได้แก่
- วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
- วัคซีนป้องกันคอตีบ-ไอกรน-บาดทะยัก
- วัคซีนป้องกันเอชพีวี HVP (มะเร็งปากมดลูก)
- วัคซีนป้องกันหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม
- วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส
ซึ่งปัจจุบันองค์การอนามัยโลกระบุว่าต้องดูทุกกลุ่มวัย เพราะแม้ว่าจะเคยรับวัคซีนเหล่านี้แล้วในตอนเป็นเด็ก แต่ก็อย่างที่กล่าวมาข้างต้น วัคซีนบางชนิดประสิทธิภาพอาจลดลง และโรคต่าง ๆ ก็มีการพัฒนาแพร่เชื้อที่อันตรายและสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา อย่าโรคอีสุกอีใสที่ควรฉีด โดยคนทั่วไปเข้าใจว่าไม่อันตราย แต่จริงๆ หากมีภาวะแทรกซ้อนจะทำให้เกิดโรคปอดบวม สมองอักเสบหรือถึงตายได้ และยังมีความเชื่อเดิม ๆที่ผิด ว่าเป็นแล้วจะไม่เป็นอีก แต่จริงๆ คือสามารถเป็นซ้ำได้อีก แต่เชื้อจะไม่รุนแรงเพราะมีภูมิคุ้มกันแล้ว
ทั้งนี้ในต่างประเทศบอกว่าสามารถฉีดพร้อมกันได้หลายเข็ม แต่ไม่แนะนำเพราะจะมีไข้สูง โดยอาจจะฉีดทุกอาทิตย์ หรือ 3-4 วันต่อเข็มก็ได้ และไม่แนะนำให้ฉีดตอนที่มีไข้ เพราะวัคซีนบางตัวอาจไปกดภูมิทำให้ไข้สูงขึ้น
อ่านต่อ > > “เหตุผลที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นควรฉีดวัคซีนทั้ง 5 ชนิดนี้” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
4 เหตุผลที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นควรฉีดวัคซีนทั้ง 5 ชนิด
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิชาการ สถานเสาวภา สภากาชาดไทยบอกเหตุผลที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นควรฉีดวัคซีนทั้ง 5 ชนิดนี้ โดยแยกเป็น 4 ข้อว่า
- แม้เคยได้รับวัคซีนในตอนเด็ก แต่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนบางชนิดอาจลดลงตามเวลา จึงจำเป็นต้องฉีดกระตุ้น
- แพทย์อาจเข้าใจว่าผู้ป่วยเคยรับวัคซีนมาแล้วในวัยเด็ก จึงไม่ได้ให้วัคซีน หรือเคยได้รับวัคซีนไปแล้วแต่ไม่ได้ผล
- โรคบางชนิดมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น หรือรุนแรงขึ้นเมื่อติดเชื้อในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่
- นวัตกรรมการแพทย์พัฒนามากขึ้น มีการพัฒนาวัคซีนใหม่ ๆ ที่ป้องกันโรคติดเชื้อที่มีความสำคัญ เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก
สำหรับการเตรียมตัวก่อนฉีดไม่มีอะไรมาก คุณหมอบอกว่าให้ฉีดในขณะที่ร่างกายแข็งแรงดี หากป่วยอยู่ควรรอให้หายก่อนค่อยไปฉีด
ทั้งนี้นายแพทย์ธีระพงษ์ ยังบอกอีกว่า สถิติปัจจุบันของการฉีดวัคซีนในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นในประเทศไทยที่กระทรวงสาธารณสุขบันทึกไว้อยู่ที่ 10% ของจำนวนประชากรวัยนี้ แต่หากบวกกับเอกชนแล้วคนไทยที่เป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นน่าจะเข้ารับการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 20% ขณะที่สหรัฐอเมริการับการฉีดวัคซีนประมาณ 80% ซึ่งก็ถือว่ายังน้อยมาก และย้ำให้ทุกคนได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนในวัยรุ่นว่าสำคัญมากแค่ไหน
ซึ่งหากผู้ใดสนใจจะรับการฉีดวัคซีนทั้ง 5 ชนิด สามารถติดต่อรับบริการการฉีดวัคซีนได้ในราคาพิเศษ อาทิ
- วัคซีนไข้เลือดออกลดเหลือเข็มละ 2,800 บาท จากราคาปกติประมาณ 3,000 บาท โดยต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม เว้นระยะ 6 เดือน
- วัคซีนป้องกันเอชพีวี ลดเหลือเข็มละ 1,000 บาท จากราคาปกติ 1,500-1,700 บาท โดยคนปกติต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม คือเข็มที่ 2 ฉีด 1-2 เดือนหลังจากเข็มแรก และเข็มสุดท้าย 6 เดือนจากเข็มแรก แต่ในช่วงอายุที่แนะนำนั้นฉีดเพียง 3 เข็ม คือเว้นระยะ 6 เดือนจากเข็มแรก
- วัคซีนโรคไอกรนเข็มละ 900 บาท จากราคาปกติ 1,200-1,500 บาท
และสำหรับวัคซีนอื่นๆ ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ในราคาพิเศษถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ที่คลิกนิกเสริมภูมิคุ้มกันและอายุรศาสตร์การท่องเที่ยว สถานเสาวภา สภากาชาดไทย กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลได้ที่อีเมล์ queensaovabha@hotmail.com หรือ 0-2252-0161-4 ต่อ 125, 132
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 8 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูกไป ฉีดวัคซีน มะเร็งปากมดลูก
- วัคซีนรวม 6 โรค ปลอดภัย ไม่เจ็บตัวบ่อย ลดภาระค่าใช้จ่าย
- วัคซีนพื้นฐาน 6 ชนิดที่ลูกน้อยต้องได้รับ
- วัคซีนสำหรับแม่ท้อง ฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.dailynews.co.th